5นักเที่ยวเมา! เข้าไปมัฆวานฯ สมชาย-จำลอง เปิดทางเจรจา
"สมชาย"แบะท่าพร้อมเจรจาพันธมิตรไม่มีเงื่อนไขขอให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย คุยอะไรกับใครก็ได้ทั้งนั้น แต่ยังอุบไม่เปิดตัวคนที่จะส่งไปคุย "จำลอง" พร้อมเจรจากับรัฐบาลเช่นกัน แต่ขอคุยแค่กับรัฐบาลเท่านั้น ไม่ขอคุยกับฝ่ายอื่นๆ เพราะเสียเวลา ไม่มีประโยชน์ 5 นักเที่ยวขับรถจากถนนข้าวสารหลงทางไปสะพานมัฆวานฯ เจอยางรถยนต์และสิ่งกีดขวางหงุดหงิดชูนิ้วกลางให้การ์ดพันธมิตร เลยโดนไล่ยิงหลังนับสิบนัดเจ็บ 1 ต้องรีบขับไปขอความช่วยเหลือสห.ที่แยกจปร.
-พันธมิตรนอนค้างในทำเนียบ
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ผู้ชุมนุมหลายพันคนยังปักหลักอยู่ในบริเวณทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาทางแกนนำพันธมิตรประกาศบนเวทีว่าให้ผู้ชุมนุมทุกคนอยู่ในพื้นที่ทำเนียบ อย่าออกไปไหนเพราะจะได้รับอันตรายจากกลุ่มนปช.ที่อาจดักทำร้าย และขอให้ทุกคนเชื่อฟังการ์ดพันธมิตรเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นขออย่าได้ตกใจให้อยู่กับที่นิ่งๆ เฉยๆ ทำให้ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งเกิดความกลัวไม่กล้ากลับบ้านยอมนอนค้างอยู่ในทำเนียบ
ส่วนการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณรอบนอกทำเนียบ ทั้งบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์, สะพานชมัยมรุเชฐ, แยกนางเลิ้ง และลานพระบรมรูปทรงม้า พบว่าตามบริเวณสี่แยกดังกล่าวยังคงมีสารวัตรทหาร(สห.)ประจำอยู่จุดละประมาณ 5 นาย เพื่อสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่อาจเกิดการปะทะกันได้ นอกจากนี้บริเวณด้านวัดเบญจมบพิตร ตั้งแต่เช้ามีการจัดงานจำหน่ายสินค้า 4 ภาคขึ้น โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากเดินจับจ่ายซื้อของทั้งของกินและของใช้อย่างสนุกสนานตลอดทั้งวัน
-พร้อมเจรจาแต่ตั้งเงื่อนไข
จากนั้นเวลา 10.00 น. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตร ร่วมกันแถลงข่าวกรณีข้อเสนอเจรจาหาข้อยุติของกลุ่มสานเสวนาเพื่อสันติธรรมรณรงค์ยุติความขัดแย้งในสังคม โดยพล.ต.จำลองกล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว แต่การหารือต้องเป็นการหารือเฉพาะฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรง ระหว่างรัฐบาลและพันธมิตรเท่านั้น เพราะหากนำเอากลุ่มอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาเจรจาก็จะเสียเวลา
พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า ส่วนตัวแล้วบุคคลที่จะเป็นผู้มาเจรจากับพันธมิตรไม่เกี่ยงว่าเป็นใครที่จะเข้ามาเป็นผู้เจรจากับเรา พันธมิตรพร้อมรับการเจรจาทั้งนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดติดต่อมาขอเจรจาเลย ซึ่งการเจรจานั้นทางพันธมิตรจะยึดกรอบแนวทางของพันธมิตร โดยจะหารือกับแกนนำทั้งหมดเพื่อกำหนดแนวทางต่อไป อย่างไรก็ตามการเจรจาดังกล่าวเราไม่เห็นด้วย ที่เสนอให้มีทหาร และนักวิชาการเข้ามาด้วย เราเห็นว่าหากจะเจรจาน่าจะเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องโดยตรงมากกว่า
-"แม้ว"กลับได้เลยไม่ต้องขอพระบารมี
ผู้สื่อข่าวถามว่าแกนนำได้ประเมินกรณีพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจรเมื่อคืนที่ผ่านมาหรือไม่ แกนนำพันธมิตรกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเมื่อใดก็ได้ ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วก็กลับมาได้เลย ไม่ต้องอาศัยพระบารมีก็กลับมาได้ ศาลได้ตัดสินไปภายใต้พระปรมาภิไธยอยู่แล้ว
ด้านนายพิภพกล่าวว่า พันธมิตรขอประณามนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ไม่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และขาดความรับผิดชอบที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข เพราะการรวมพลของคนเสื้อแดง รวมทั้งเปิดให้มีการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความวุ่นวาย และยังปล่อยให้คนที่เป็นนักโทษหนีหมายศาลมาโฟนอิน โดยใช้คลื่นความถี่ที่รัฐดูแลอยู่พูดกับประชาชนในที่สาธารณะ ซึ่งเมื่อวานนี้เป็นเครื่องสะท้อนการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เพราะนักโทษไม่มีสิทธิพูดในที่สาธารณะ และคำพูดจ้องทำลายความเป็นธรรมของสถาบันตุลาการ
-ฟังโฟนอินยังสู้ไม่หยุดแน่
นายพิภพกล่าวต่อว่า การโฟนอินมีการดึงเอาสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะพ.ต.ท.ทักษิณพูดว่าจะกลับมาประเทศไทยได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับพระบารมี ซึ่งการพูดเช่นนี้เป็นการทำให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม เป็นการดึงเอาสถาบันมาเกี่ยวข้องกับคดีความของตนซึ่งตัดสินไปแล้ว ทางกลุ่มพันธมิตรได้ประเมินท่าทีของพ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่มีคำพิพากษาจนถึงการโฟนอินเมื่อวานนี้ว่า เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ยุติการต่อสู้ โดยจะดำเนินการตามแนวทางที่จะทำได้ตนเองพ้นผิดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การพูดของอดีตนายกรัฐมนตรีถือเป็นการส่งสัญญาณให้กลุ่มรากหญ้าออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้มีการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ และยังให้รัฐบาลที่เป็นตัวแทนเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เพื่อไม่ให้มีมาตราเกี่ยวกับความผิดปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณ และอดีตกรรม การบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน นี่คือการต่อสู้ที่ไม่สิ้นสุดของพ.ต.ท.ทักษิณ
นอกจากนี้นายพิภพยังเรียกร้องให้นายสมชายออกมาแสดงความชัดเจน กรณีภาพบุคคลที่มีหน้าตาเหมือนพาผู้หญิงไปรับประทานอาหารว่า ทางกลุ่มเด็กและสิทธิสตรีเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาปฏิเสธหรือยอมรับกับภาพที่ปรากฏ เพราะถือเป็นเรื่องกระทบกับสถาบันครอบครัว โดยกระทบความซื่อสัตย์ที่ต้องมีต่อครอบครัว เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวทั่วไป แต่เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งต้องมีมาตรฐานทางจริยธรรม
-"สมชาย"คุยกับพันธมิตรได้ทั้งนั้น
เมื่อเวลา 13.15 น. ที่ราชนาวีสโมสร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเจรจาหาข้อยุติความขัดแย้งกับกลุ่มพันธมิตร ว่า ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ได้ทั้งนั้น ถ้าเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ เพื่อความเรียบร้อยของบ้านเมือง คงบอกไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะอยู่ที่ว่าจะคุยกันอย่างไร และจะคุยหรือไม่ ซึ่งตามหลักการนั้นหากคุยกันได้ก็ดี ดีกว่าทะเลาะกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลเตรียมส่งใครไปเป็นคนเจรจา นายกฯกล่าวว่า "ใครก็ได้ที่ไปเจรจาแล้วโอเค" เมื่อถามว่านายกฯจะเป็นคนเจรจาเองหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า "รัฐบาลไม่ได้ขัดข้องเรื่องการเจรจา ต้องถามผู้จัดเวทีสานเสวนาก่อนว่ามีใครบ้าง คุยเรื่องอะไร ผมได้ทั้งนั้น"
ต่อข้อถามว่า พล.ต.จำลองระบุว่าพันธมิตรขอเจรจากับคนของรัฐบาลเท่านั้น นายกฯกล่าวว่า คุย 2 ฝ่ายก็ได้ไม่เป็นปัญหา เมื่อถามว่ารัฐบาลมอบหมายใครเป็นผู้ไปประสานกับกลุ่มพันธมิตร นายสมชายกล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดถึงขั้นมอบหมายใครเลย ยังไม่ได้รับการติดต่อจากใครทั้งนั้น
-"สาก"เตือนรัฐบาลอย่าผลีผลาม
ที่พรรคพลังประชาชน ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธิศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ระบุว่าพร้อมเจรจาเพื่อหาข้อยุติกับรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียวว่า รัฐบาลควรรอดูท่าทีกลุ่มพันธมิตรก่อน อย่าตัดสินใจผลีผลาม ไม่ใช่พอเขาอ่อยเหยื่อก็รีบฮุบทันที รัฐบาลควรดูว่าพันธมิตรจริงใจร่วมแก้ไขปัญหาจริงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้กลุ่มพันธมิตรประกาศสงครามกับรัฐบาลมาโดยตลอดทั้งที่รัฐบาลมาจากแนวทางประชาธิปไตย จึงอยากเตือนรัฐบาลด้วยความหวังดี
-เมาหลงทางถูกพธม.ไล่ยิงรถ
วันเดียวกัน เวลา 02.30 น. ร.ต.อ.ป้อมเพ็ชร โชติกลาง พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งเหตุยิงกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณสี่แยกจปร. ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.ท.สมโภช สุวรรณจรัส รองผกก.ป., พ.ต.ท.นพคุณ ประทุมเพ็ชร พนักงานสอบสวน (สบ3) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุบริเวณทางคู่ขนานฝั่งตรงข้ามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบรถเก๋งนิสสัน สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วล 1593 กทม. จอดอยู่ในสภาพกระจกหน้าแตกร้าวทั้งบาน มีรอยกระสุนยิงเข้าที่ประตูซ้าย 1 นัด และกระจกหูช้างด้านหลังขวาอีก 1 นัด ขณะเดียวกันพบเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร (สห.) ควบคุมตัวคนในรถเอาไว้ได้ 5 คน ประกอบด้วยนายจรูญ ดีทั่ว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290/11 หมู่ 12 ต.คลองในบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่หัวไหล่ขวา 1 นัด จึงรีบนำตัวส่งร.พ.วชิรพยา บาล
ส่วนอีก 4 คน คือ นายเสกสรรค์ อายูมัน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 464/1 หมู่ 1 แขวงบางแค เขตทุ่งครุ กทม., นายสุริยา นิทัศน์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 1 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ, น.ส.สุพัตรา สู้ไพริน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 หมู่ที่ 3 ต.บางจาก อ.พระ ประแดง จ.สมุทรปราการ และนายภูเบศ สกุณา 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 หมู่ 5 ต.กำเนิด อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก
-เจอกลุ่มชายชุดดำหาเรื่องก่อน
จากการสอบสวนนายเศกสรรค์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนมาเที่ยวกับเพื่อนที่ผับแห่งหนึ่งในถนนข้าวสาร พวกตนทั้งหมดมีบ้านพักอยู่ย่านพระประแดง และทำงานเป็นช่างเครื่องยนต์อยู่บริษัทสยามนิสสัน ออร์โตเซลล์ จำกัด ช่วงผับเลิกประมาณตี 2 จึงขับรถมาตามถนนพระ สุเมรุ และตัดเข้าถนนประชาธิปไตย เจอแยก จปร.แล้วมุ่งหน้ามาทางแยกสะพานมัฆวานฯ เนื่องจากสับสนเส้นทาง โดยเปิดกระจกรถ เพราะเป็นรถเก่ากระจกเสีย เมื่อมาถึงพบชายฉรรจ์ชุดดำประมาณ 4-5 คนหาเรื่องก่อน โดยตะโกนว่า"มึงให้ของลับกูหรือ" พวกตนตกใจจึงรีบสะกิดให้คนขับเลี้ยวรถกลับ เมื่อวิ่งมาเรื่อยๆได้ยินเสียงปืนดัง 6-7 นัด ยิงไล่ตาม พวกตนที่นั่งอยู่บริเวณเบาะหลังหมอบลง ส่วนนายจรูญรีบขับหนีอย่างรวดเร็ว และไปเฉี่ยวกับรถแท็กซี่คันหน้า เมื่อขับมาถึงสนามมวยราชดำเนิน พบว่านายจรูญถูกยิงที่ไหล่ขวา และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกับสห.ยืนรักษาการณ์อยู่จึงจอดขอความช่วยเหลือ เมื่อจอดรถได้สักพักมีกลุ่มชายฉกรรจ์วิ่งตามมา พยายามรุมทำร้ายพวกตน ฉุดกระชากขอดูบัตรประชาชน พูดจาข่มขู่ หยาบคายใส่ ดีที่ตำรวจและทหารระงับเหตุช่วยเหลือไว้ได้ทัน
-ระหว่างหนีขับไปเฉี่ยวแท็กซี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นนายพีรเดช แสงสว่าง อายุ 31 ปี โชเฟอร์ขับรถแท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทย 7691 กทม. สภาพกันชนหน้าด้านซ้ายถูกชนจนพัง เดินทางเข้ามาที่สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความว่าถูกรถของนายจรูญเฉี่ยวชนบริเวณสะพานมัฆวานฯ โดยนายพีรเดชให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถแท็กซี่เข้าไปรับคนบริเวณสะพานมัฆวาน โดยตามหลังรถของกลุ่มผู้บาดเจ็บมาจากแยกจปร. เมื่อมาถึงบริเวณสะพานมัฆวานฯ เห็นคนในรถคันดังกล่าวลดกระจกลงมา จากนั้นรถคันดังกล่าวพยายามขับมุ่งหน้าไปทางวัดมกุฏกษัตริยาราม แต่ไปไม่ได้เนื่องจากมียางรถกองตั้งขวางอยู่ จึงรีบกลับรถ จนทำให้ชนกับรถของตนที่ขับตามหลังมา แล้วรถของกลุ่มผู้บาดเจ็บรีบเร่งเครื่องขับหลบหนีไป ก่อนได้ยิงเสียงปืนยิงไล่หลังมาจำนวน 6-7 นัด
-การ์ดพธม.อ้างโดนยิงก่อน
ขณะที่การ์ดพันธมิตรเปิดเผยว่า คืนที่ผ่านมาพันธมิตรเฝ้าระวังบริเวณสถานที่ชุมนุมอย่างเข้มงวด เนื่องจากกลุ่มนปช.จัดงานม็อบเสื้อแดงครั้งใหญ่ในกรุงเทพฯ ก่อนเกิดเหตุพบเห็นรถคันดังกล่าว เลี้ยวมาจากทางสะพานพระราม 8 พร้อมเร่งเครื่องมาอย่างแรง เมื่อมาถึงบริเวณหน้าเวทีมวยราชดำเนิน ซึ่งมียางรถยนต์วางขวางทางไว้ รถคันดังกล่าวลดความเร็ว ก่อนที่คนในรถจะตะโกนด่าการ์ดพันธมิตร และขับมุ่งหน้าไปที่สะพานมัฆวานฯ เมื่อมาถึงคนในรถลดกระจกลงชูนิ้วกลาง และตะโกนให้ของลับใส่กลุ่มการ์ด จากนั้นรีบเร่งเครื่องเพื่อหลบหนีมุ่งหน้าไปทางวัด มกุฏฯ แต่ไม่สามารถขับออกไปได้ เนื่องจากมียางรถยนต์ขวางไว้ 2 ชั้น
การ์ดพันธมิตรกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นรถคันดังกล่าวรีบกลับรถเพื่อหลบหนี แต่ไปชนกับแท็กซี่ที่มารอรับผู้โดยสารอยู่บริเวณดังกล่าว จากนั้นคนในรถชักปืนขึ้นมากระหน่ำยิงใส่กลุ่มการ์ดพันธมิตรจำนวนหลายนัด ก่อนรีบเร่งเครื่องรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยรถคันดังกล่าวปีนขึ้นทางเท้าบริเวณหน้าองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เพื่อเข้าไปยังช่องคู่ขนาน ก่อนที่จะเร่งเครื่องผ่านหน้าเวทีมวยราชดำเนินไป แต่ถูกเจ้าหน้าที่สห.ที่แยกจปร.สกัดจับเอาไว้ได้
-ผบช.น.สั่งทำคดีอย่างเป็นธรรม
ด้านร.ต.อ.ป้อมเพ็ชรกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบว่ากลุ่มไหนเป็นคนทำ ต้องสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก่อน แต่จากการสอบแท็กซี่ยืนยันว่าไม่เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 คน ไปด่าการ์ดพันธมิตรแต่อย่างใด ซึ่งน่าจะเกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดกันมากกว่า ส่วนคนยิงนั้นกำลังสืบหาตัวมาดำเนินคดี โดยจะสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่ร.พ.อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ทราบว่าปลอดภัยแล้ว
ส่วนพ.ต.ท.นพคุณกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้กระทำผิด แต่เบื้องต้นจะสอบปากคำพยานทั้ง 4 ปากที่อยู่ในรถของผู้บาดเจ็บ ว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไรถึงได้ขับรถเข้าไปในบริเวณนั้น รวมทั้งจะสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่คู่กรณีไว้ด้วย ก่อนจะให้ฝ่ายสืบสวนติดตามหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
วันเดียวกันที่บช.น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวถึงกรณีเหตุยิงกันที่สี่แยกจปร.ว่า ตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ซึ่งภายหลังเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายให้การไม่ตรงกัน ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าฝ่ายตรงข้ามยิงก่อน ซึ่งตรงจุดนี้ไม่ยืนยันชัดเจนอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้ง ไปรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด ใครผิดถูกว่าไปตามหลักฐานที่ปรากฏพร้อมนำหลักฐานที่พบในรถมาตรวจสอบ ขณะนี้สน.นางเลิ้งกำลังดำเนินการอยู่เชื่อว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ ทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยความถูกต้อง และมอบหมายให้พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
-"ยะใส"จี้ระงับปัญหาที่"แม้ว"ก่อ
เมื่อเวลา 20.00 น. ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร แถลงว่า บรรยากาศทั้งหมดที่สนามราชมังคลาฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. พันธมิตรอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหาวิธีการระงับปัญหา เพราะจะเกิดความเข้าใจผิดในสังคม และอาจกลายเป็นเชื้อไฟแห่งความขัดแย้ง โดยเฉพาะประเด็นแรกเกี่ยวกับท่าทีของพ.ต.ท. ทักษิณที่มีต่อสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะที่พูดว่าการกลับประเทศขึ้นกับพระบารมี เป็นเรื่องที่ตีความทำนองว่ากลับไม่กลับขึ้นอยู่กับพระองค์ท่าน จริงๆแล้วไม่เกี่ยว พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้ อาจทำให้ประชาชนสับสนและเข้าใจผิด
ผู้ประสานงานพันธมิตรแถลงอีกว่า เรื่องที่สอง การโจมตีสถาบันตุลาการที่ใช้คำว่ากระบวนการยุติความเป็นธรรม เป็นการท้าทายศาลและกระบวน การยุติธรรมบ้านเราอย่างรุนแรง ผู้พิพากษาเองรวมทั้งฝ่ายศาลคงต้องหาวิธีแก้ปัญหานี้ว่าเป็นการละเมิดหรือหมิ่นเหม่อำนาจศาลหรือไม่ หากไม่มีมาตรการแก้ปัญหานี้ พ.ต.ท.ทักษิณคงใช้วิธีโจมตีตุลาการและดึงสถาบันมาเล่นการเมืองต่อไป
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า จุดยืนพันธมิตรไม่ได้ให้ความสำคัญกับบรรยากาศเมื่อวันที่ 1 พ.ย. เพราะเราคิดลึกๆ อยู่แล้วว่าฝ่ายโน้นต้องการให้บรรยากาศวันที่ 1 พ.ย. มากลบกระแสขาลงของรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะ 2 เรื่องสำคัญที่รัฐบาลชุดนี้ตกเป็นจำเลยสังคมคือการปราบปรามประชาชนในวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งยังไม่มีความรับผิดชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากตำรวจและฝ่ายการเมือง สอง กรณีคลิปวิดีโอซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ เพราะปัญหาจริยธรรมของผู้นำเป็นเรื่องสำคัญที่การเมืองใหม่ให้ความสำคัญ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนว่าเป็นผู้ชายในคลิปวิดีโอหรือไม่ องค์กรสตรีเตรียมเคลื่อนไหวในเรื่องนี้แล้ว เป็นไปได้ว่าบรรยากาศรายการความจริงวันนี้สัญจรลึกๆ แล้วนอกจากต้องการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณแล้วยังเบี่ยงเบนประเด็นในความ เพลี่ยงพล้ำของรัฐบาล โดยเฉพาะ 2 ประเด็นที่สังคมสนใจในขณะนี้
-อีก2วันออกดาวกระจายอีก
นายสุริยะใสกล่าวว่า พันธมิตรคงไม่สับสนหรือวอกแวกกับการเคลื่อนไหวของฝ่ายโน้น เราคงมุ่งมั่นขับไล่รัฐบาลที่หมดความชอบธรรมและต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เดินหน้าตั้งการเมืองใหม่ เชื่อว่าหัวใจสำคัญของรัฐบาลคือการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ ทุกฝ่ายไม่ควรหลงประเด็น หากแก้ไขรัฐ ธรรมนูญได้จะนำไปสู่การนิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทัก ษิณ และ 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
นายสุริยะใสกล่าวด้วยว่า การยื่นถวายฎีกา กรณีพ.ต.ท.ทักษิณในแง่หนึ่งเป็นสิทธิ แต่ถือว่าไม่มีความชอบธรรม เพราะคดีความของพ.ต.ท. ทักษิณเป็นคดีความจงใจกระทำผิด ไม่ใช่ไม่รู้กฎหมาย คนเป็นถึงนายกรัฐมนตรี มีภรรยาร่ำรวย มีชื่อเสียง จงใจกระทำผิดแล้วยังมาล่ารายชื่อขอฎีกาพระราชทานอภัยโทษถือว่าไม่เหมาะสม การที่พ.ต.ท.ทักษิณประกาศว่ากลับได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับพระบารมีและพลังประชาชน เท่ากับพ.ต.ท.ทักษิณจับประเทศเป็นตัวประกัน ถ้าถวายฎีกาไม่ได้ต้องเคลื่อนไหวมวลชน ความขัดแย้งในบ้านเมืองคงต้องเป็นต่อไปจนกว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะบรรลุเป้าหมายทางการเมือง ซึ่งหมายถึงกลับมามีอำนาจ จากนี้ไปเป็นสถานการณ์ที่แทบไม่เห็นอนาคตเลย ถ้ายังคุมเชิงและตรึงกันอยู่แบบนี้ สำหรับการดาวกระจายยังคงเป็นยุทธศาสตร์ของกลุ่มพันธมิตร ภายใน 1-2 วันนี้จะแจ้งให้ทราบว่าจะดาวกระจายไปที่ใด