ห่วงส่งออกเดี้ยงฉุดจีดีพีโตแค่2% ธปท.รับไตรมาสแรกปีหน้าหนัก-จี้รัฐเร่งเมกะโปรเจกท์

"ปรีดิยาธร" ห่วงปีหน้าเศรษฐกิจไทยพึ่งส่งออกไม่ได้ สหรัฐ-ยุโรปลดการบริโภค เตือนแบงก์ต้องดูแลตัวเองไม่ให้กระทบ ด้านแบงก์ชาติรับไตรมาสแรกปีหน้าเศรษฐกิจชะลอต่ำสุด เร่งรัฐลงทุนเมกะโปรเจกท์ช่วย ทีดีอาร์ไอชี้หากส่งออกทรุดจีดีพีอาจโตแค่ 2%

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการปาฐกถาเรื่อง ความเสี่ยงจากวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกสิกรไทย ว่า

วิกฤติการเงินในสหรัฐจะทำให้เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศขนาดใหญ่เข้าสู่ภาวะถดถอยต่อเนื่องไปจนถึงกลางปีหน้า ซึ่งประเทศเหล่านั้นจะลดการบริโภคลง จึงกระทบต่อการส่งออกของไทย ทำให้การพึ่งพาการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจทำได้น้อยลง หรือไม่สามารถพึ่งพาการส่งออกได้เลย
 

 อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ธุรกิจส่งออกและภาคธุรกิจจริงชะลอตัว สถาบันการเงินต้องพยายามดูแลให้ธุรกิจปรับตัวให้ดำเนินการต่อไปได้ และไม่ทำอะไรที่เป็นการซ้ำเติมธุรกิจเพื่อเตรียมรับมือไม่ให้ธุรกิจล้มลง ทั้งนี้ สถาบันการเงินไทยได้รับความเสียหายจากวิกฤติการเงินครั้งนี้น้อย ต่างจากสถาบันการเงินในสหรัฐ และยุโรป


 นอกจากนี้ วิกฤติการเงินสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนจากการที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นเอาเงินกลับออกไป ทำให้ในเร็วๆ นี้น่าจะมีเงินทุนไหลออกแทนที่จะมีเงินไหลเข้ามาลงทุน แต่ไทยยังรับมือภาวะเงินทุนไหลออกได้ เนื่องจากมีทุนสำรองระหว่างประเทศจำนวนมาก


 ด้าน ดร.อมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการสัมมนาเรื่องอนาคตของเศรษฐกิจไทย ว่า
 
เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกปี 2552 อาจชะลอตัวต่ำสุด จากผลกระทบวิกฤติการเงินสหรัฐ ที่คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวต่ำสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า แต่หากรัฐบาลสามารถลงทุนโครงการขนาดใหญ่และกระตุ้นการเบิกจ่ายของภาครัฐให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็จะช่วยกระตุ้นให้เอกชนลงทุนตามมาได้ ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ถึงกับสิ้นหวังในปีหน้า


 ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาเศรษฐกิจส่วนรวมและกระจายรายได้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า

สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การส่งออกในปีหน้ามีโอกาสหดตัวลงจากการที่เศรษฐกิจประเทศต่างๆ ในโลกถดถอยลง หากการส่งออกหดตัวลงจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้ามีโอกาสขยายตัวแค่ 2-3% โดยการปรับตัวรับกับวิกฤติการเงินโลกที่เกิดขึ้นนั้น ในส่วนของภาคธุรกิจจะต้องพยายามหาช่องทางในการลงทุน และรักษากระแสเงินสด พร้อมกับจัดการสินค้าคงคลังของธุรกิจเพื่อให้มีเงินสำรองในกรณีที่มีปัญหาเงินขาด


 ขณะที่ นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า

เศรษฐกิจไทยถูกกดดันจากเศรษฐกิจภายนอกและการเมืองในประเทศ หากมองตัวเลขทางสถิติคาดว่าจะต้องใช้เวลา 3-5 ปี ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และยังไม่เห็นทางออกของเศรษฐกิจไทย จึงจะเห็นได้ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคเริ่มระวังและขาดความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายและลงทุน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์