จีจ้าน้อย หมวยหมัดสั่ง

มวยคาดเชือก คือแม่ไม้มวยไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก

หมัดเล็กเท้าเปล่าที่มาอวดกันในวันนี้เป็นหมัดสวย มวยแกละ แต่แกร่งเกินตัว

ด้วยวัยเพียง 6 ขวบ ของเด็กหญิงลูกน้ำเค็มจากเมืองชลบุรี บวกกับท่วงท่าทะมัดทะแมงไม่แพ้ชาย เธอจึงได้ชื่อว่า "จีจ้าน้อย"

จีจ้าน้อย หรือน้องหมวย ด.ญ.อังคณา สำเภาเงิน มาอวดลีลาการไหว้ครูและโชว์แม่ไม้มวยไทยให้เพื่อนๆ และผู้ใหญ่ต้องทึ่ง ในงาน "โรบินสัน ทอยส์ ฟัน เฟสติวัล" ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต เมื่อไม่นานนี้

น้องหมวย หรือชื่อบนสังเวียนผ้าใบว่า "ฉลามขาวเล็ก เพชรเตาถ่าน" กำลังศึกษาอยู่ชั้นป.1 โรงเรียนอนุบาลบ้านเตาถ่าน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ดีกรีแชมป์รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 18 กิโลกรัม ในเวทีแฟร์เท็กซ์ นานาชาติ พัทยา เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

แม่ไม้มวยไทย 20 ท่า อวดลีลากับคู่ต่อกร วัย 9 ขวบ ฉายา "ปราบน้อย ศิษย์สีเผือก" ด.ช.หัสวรรษ เล้งจำนงค์ อาทิ ท่าหงส์ปีกหัก ดับชวาลา หนุมานถวายแหวน ชวาซัดหอก มอญยันหลัก จระเข้ฟาดหาง ขุนยักษ์พานาง เถรกวาดลาน นาคาบิดหาง

ลงจากเวทีจีจ้าน้อยเล่าว่า พ่อเป็นคนสอนมวยให้ และมีพี่ชายต่อยมวยด้วย จึงเริ่มหัดมวยไทยมาประมาณ 1 ปี การฝึกต่อยมวยนั้นไม่ยาก แต่ต้องฝึกซ้อมอยู่เสมอ นักมวยในดวงใจ คือ "หลักหาย ศ.พณาเจือเพ็ชร" นักมวยที่ตัวเล็กที่สุดในโลก ซึ่งเคยดูการชกในศึกวันทรงชัย

"ชอบหลักหายเพราะเป็นมวยหมัด ใช้หมัดเป็นอาวุธ แม้จะเจอนักมวยที่สูงกว่าแต่สามารถใช้หมัดสู้จนชนะได้ อยากเล่นมวยไทยให้ถึงทีมชาติ" น้องหมวยเล่าพร้อมตั้งการ์ดมวยให้ดู

คุณพ่อสมชายบอกเล่าเทคนิคการสอนมวยว่า เหมือนกับการสอนหนังสือ ขึ้นอยู่กับผู้เรียนด้วยว่าชื่นชอบและมีไหวพริบแค่ไหน น้องหมวยสอนง่าย จำได้เร็ว และมีความชื่นชอบเป็นทุนเดิม ซึ่งมาจากการพาไปดูมวยตั้งแต่ 3 ขวบ และตนเองเคยเป็นนักมวยมาก่อนจึงอยากส่งเสริมมวยไทยไม่ให้สูญหาย

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา น้องหมวยขึ้นชกเพื่อป้องกันแชมป์ ในเวทีแฟร์เท็กซ์ นานาชาติ พัทยา อีกครั้ง กับนักมวยรุ่นเล็ก วัย 6 ขวบเท่ากัน คือ "อัยดา ลูกทรายกองดิน" เป็นการขึ้นชกครั้งที่ 4 ของน้อง หมวย ผลปรากฏว่าน้องหมวยเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้

เร็วๆ นี้ มีเวทีรอน้องหมวยอยู่ คือศึกดาวรุ่งลูกสระแก้วบวกมาตณรงค์ ที่เวทีมวยชั่วคราว โรงเรียนวัดสระแก้ว ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ที่ต้องเจอกับ "จัสมิน ลูกทรายกองดิน" ครั้งนี้คุณพ่อน้องหมวยบอกว่าจะต้องติวเข้มกว่าเดิม เพราะคู่ชกอายุมากกว่าน้องหมวย 1 ปี กระดูกมวยจะแข็งกว่า และมีลำตัวที่หนากว่าด้วย

นอกจากฝึกซ้อมมวยไทยสม่ำเสมอแล้ว การเรียนน้องหมวยก็ไม่ทิ้ง คุณพ่อบอกว่าการเรียนเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเน้นว่าเรื่องเรียนจะต้องมาก่อน และไม่ทิ้งเป็นอันขาด ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ น้องหมวยจะใช้เวลาช่วงกลางวันไปช่วยแม่ที่มีอาชีพรับจ้างเย็บผ้า โดยช่วยเลาะผ้า ส่วนตอนเย็นก็เอาเวลามาฝึกซ้อมมวยทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง

"การชกมวยเด็กมีหลายคนไม่เข้าใจ เพราะเห็นว่าเด็กยังตัวเล็กเกินกว่าจะต่อยมวย อาจอันตรายได้ ซึ่งเมื่อก่อนผมก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อได้มาสัมผัสและศึกษาด้วยตัวเอง จะเห็นได้ว่าการชกมวยสำหรับเด็กนั้นไม่เป็นอันตราย เพราะน้ำหนักการเตะต่อยของเด็กจะเบา อีกทั้งจะต้องสวมนวมของผู้ใหญ่ที่มีความหนา เด็กจึงไม่เจ็บ แต่ผลที่ได้คือร่างกายแข็งแรงจากการออกกำลังกาย เรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัว ความมีระเบียบ รู้แพ้รู้ชนะ มีน้ำใจเป็นนักกีฬา อยู่บนเวทีต้องต่อยกันแต่เมื่อหมดเวลาลงก็จะเป็นเพื่อนกัน มีการขอโทษกันเสมอ เป็นธรรมเนียมของมวยไทยที่เด็กจะได้รับไป" คุณพ่อสมชายกล่าว

ส่วนเคล็ดลับคนเก่งนอกจากการฝึกซ้อมแล้ว ทุกครั้งก่อนขึ้นเวทีน้องหมวยจะไหว้รำลึกถึงครูมวยพร้อมกับมีคาถาสวดเฉพาะตัวเพื่อเรียกสมาธิ ขวัญและกำลังใจ ตามแบบฉบับความเชื่อของคนไทยที่มีมาแต่ช้านาน