เมื่อเวลา 06.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เกิดเหตุอาคารทรุด ที่หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ ซ.9 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสภาพเก่า สูง 3 ชั้น เนื้อที่ 155 ตารางวา มีสภาพทรุดตัว บริเวณโรงรถประตูทางเข้าหน้าบ้าน กำแพงตัวบ้านด้านข้างและด้านหลังมีรอยร้าวหลายจุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 รายระหว่างวิ่งหนีออกจากตัวบ้าน ทราบชื่อน.ส.ศันศนีย์ อินอะราม อายุ 22 ปี บาดเจ็บที่เข่าและนิ้วเท้าทั้ง 2 ข้าง น.ส.รัตนา บุตรแดง อายุ 18 ปี บาดเจ็บหัวเข่าขวา น.ส.พิมชนก พรมลี อายุ 34 ปี บาดเจ็บข้อเท้าเคล็ด
น.ส.จิดาภา กลมเกลียว อายุ 35 ปี ผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว ให้การว่า เช่าบ้านหลังนี้ราคาเดือนละ 35,000 บาท เพื่ออาศัยและประกอบกิจการทำเบเกอรี่ส่งตามห้างสรรพสินค้า มาเป็นเวลา 11 ปีแล้ว ส่วนเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่ในประเทศไทย บ้านหลังนี้อาศัยอยู่ 11 คน ผู้ใหญ่ 10 คน เด็ก 1 คน ระหว่างที่เกิดเหตุ ตนได้นอนอยู่และได้ยินเสียงเหมือนฟ้าผ่า ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.ตน และคนงานต่างร้องเรียกกัน และพากันวิ่งหนีลงจากบ้าน ซึ่งบางคนก็ต้องถีบประตู ส่วนสามีตนก็ต้องไปช่วยเพื่อนอีกห้องเพราะว่ามีเด็กอาศัยอยู่
ด้าน นส.ศันศนีย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก็เคยได้ยินเสียงดังคล้ายฟ้าผ่าแบบนี้เช่นกัน แต่เป็นช่วงเข้าหน้าฝน ตนจึงไม่ได้เอะใจว่าบ้านจะทรุดตัว และมีเสียงดังมาตลอด จนกระทั่งล่าสุดเมื่อคืนก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นจนได้
นายนราธิป ภัทรวิมล ผอ.เขตวังทองหลาง กล่าวว่า จากการตรวจสอบบ้านดังกล่าวมีอายใช้งานกว่า 10 ปี มีการออกแบบถูกกฎหมายไม่มีการต่อเติมผิดแบบ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจนำเชือกมากั้นเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า เพราะอาคารยังคงมีการทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่ เตาอบ ตู้แช่ เข้าไปไว้ในบ้าน จึงทำให้บ้านเกิดการทรุดตัว แต่ต้องรอให้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าตรวจสอบความมั่นคงและพิสูจน์สาเหตุที่ชัดเจนก่อนที่จะออกคำสั่งว่าจะต้องมีการรื้อถอนอาคารหรือไม่
ซึ่งหากจำเป็นต้องรื้อถอนเจ้าของอาคารจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เขตได้เข้ากั้นพื้นที่เป็นเขตอันตราย และออกคำสั่งห้ามใช้อาคารดังกล่าวแล้วเพื่อความปลอดภัย พร้อมยืนยันไม่มีผลกระทบต่อบ้านที่อยู่ข้างเคียง