ตลาดหุ้นทั่วโลกกอดคอร่วง

ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกกระดานแดงเถือก ทรุดตัวลงอย่างหนัก
 
ไล่ตั้งแต่ตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็ง หนักสุด เปิดฉากทรุดตัวลงกว่า 12.70% ปิดที่ 1,602.54 จุด สู่ 11,015.84 จุด โดยทำสถิติดิ่งลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงินเอเชียในปี 1997 นำโดยหุ้นเอชเอสบีซี จากความวิตกที่ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในเอเชีย และเพียงแค่ 8 สัปดาห์ ดัชนีหุ้นทรุดหนักลงไปแล้วกว่า 40% ตลอดทั้งปีทรุดลงไปกว่า 54%

ดัชนีนิเคอิ ดิ่งลงทำสถิติปิดต่ำสุดในรอบ 26 ปีเช่นกัน ตลาดทรุดลงถึง 486.18 จุด หรือ 6.4% สู่ระดับ 7,162.90 ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดตั้งแต่เดือน ต.ค.1982 เนื่องจากธนาคารญี่ปุ่นหลายแห่ง อาทิ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ดิ่งลงจากความวิตกที่ว่า ธนาคารหลายแห่งต้องเพิ่มทุนหลายพันล้านเหรียญฯ  เพื่อชดเชยการขาดทุนในพอร์ตหุ้น  ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะ 93.20 เยน หลังจากดีดตัวสู่ 94.40 เยน หลังจี-7 ออกคำเตือนเรื่องความผันผวนเกินไปของเยน ซึ่งทำให้เกิดแนวโน้มว่าทางการจะเข้าแทรกแซงตลาด 

ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ประกาศหยุดพักการซื้อขายหุ้นเป็นเวลา 15 นาที

ทรุดตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี โดยดัชนีคัมโพสิตปิดที่ 1,713.8 ดิ่งลง 239.7 จุด หรือ 12.3% ซึ่งเป็นการร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อคิดเป็นจุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2007 เกาหลีใต้ร่วงลง 1% แม้รัฐบาลเกาหลีใต้จะประกาศลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.75% ลงสู่ 4.25% จาก 5.00% และหั่นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษเอสเอ็มอีเหลือ 2.5% รวมทั้งนโยบายซื้อหุ้นกู้แบงก์พาณิชย์หวังเพิ่มสภาพคล่องระบบและอัดฉีดสภาพคล่อง รวมถึงเพิ่มงบรายจ่ายทางการคลังและปรับลดภาษี, ขณะที่ตลาดหุ้นไต้หวันดิ่งลง  5%,  ตลาดออสเตรเลียร่วงลง 1.3% 

ขณะเดียวกัน ไอเอ็มเอฟได้บรรลุข้อตกลงกับยูเครนสำหรับการปล่อยเงินกู้ 16,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบของวิกฤติการเงิน ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุจะเพิ่มวงเงินมาตรการช่วยเหลือธนาคารสู่ราว 10 ล้านล้านเยน จาก 2 ล้านล้านเยน ด้านธนาคารกลางหลายประเทศอาจหารือฉุกเฉินร่วมกันอีกหลังสถานการณ์หุ้นตกและค่าเงินดิ่งหนัก และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างแรงอีกครั้งด้วย.