ห่วงปีหน้าลอยแพคนงานเฉียดล้านชี้วิกฤติรอบนี้หนักกว่าปี40

ส.อ.ท.ชี้ไทยเจอวิกฤติซ้อนวิกฤติ กังวลคำสั่งซื้อสินค้าจากต่างชาติในไตรมาสแรกปีหน้าลดลง 30% ชี้กระทบแรงงานแน่ อาจโดนลอยแพถึงล้านคน ส่วนนักศึกษาเพิ่งจบปีหน้าหางานทำยาก มองวิกฤติเศรษฐกิจรอบนี้หนักกว่าปี 40 จี้รัฐต้องเร่งหันแก้ปัญหาเศรษฐกิจด่วน เข็น 6 มาตรการให้เป็นรูปธรรม


นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ ว่า ที่ประชุมเกรงว่าความขัดแย้งทางการเมืองจะบั่นทอนให้เศรษฐกิจไทยในปี 2552 แย่ลง และมองว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งแรกปี 2552 จะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่วิกฤติการเมืองยังมองไม่เห็นทางออก ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนวิกฤติซ้อนวิกฤติ


ทั้งนี้ จากการหารือกันพบว่า คำสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเริ่มลดลงแล้ว ทำให้ธุรกิจในต่างจังหวัดมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องหนัก


เพราะธนาคารพาณิชย์ไม่ยอมปล่อยสินเชื่อ ดังนั้น เกรงว่าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก จะมีปัญหากระแสเงินสด และสถาบันการเงินในต่างประเทศที่มีปัญหาทำให้ธนาคารของไทยไม่รับทำแพ็กกิ้งเครดิต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออก ทำให้ต้องไปเปิดแอลซี ส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของผู้ส่งออกเพิ่มขึ้น


"ส.อ.ท.ต้องการเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 มาตรการของรัฐบาลเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ โดยเฉพาะการกระจายงบประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งวางแผนร่วมกับ ส.อ.ท.เพื่อรองรับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้" นายธนิตกล่าว


นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า เท่าที่สอบถามผลกระทบการส่งออกจากสมาชิกพบว่า คำสั่งซื้อจากต่างประเทศช่วงไตรมาสแรกปี 2552 ลดลงอย่างน้อย 30%

ปัญหาดังกล่าวจะส่งผลต่อการจ้างงานต้นปี 2552 แน่นอน หากคำสั่งซื้อลดลงในระดับดังกล่าวอาจทำให้ผู้ประกอบการต้องลดการจ้างงานลง 10-15% หรือราว 9 แสนถึง 1 ล้านคน จึงน่าเป็นห่วงผู้จบการศึกษาใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานในปีหน้าประมาณ 7 แสนคน จะมีปัญหาเรื่องการหางานทำลำบากขึ้น รัฐบาลจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากขึ้น


 


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ประกอบการบางรายเริ่มลดการทำงานล่วงเวลา (โอที) แล้ว ทำให้การทำงานจาก 6 วันต่อสัปดาห์ เหลือ 5 วัน ในหลายอุตสาหกรรม

เช่น เครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เซรามิก บางส่วนให้คนงานออกจากงานแล้ว โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่ผลิตสินค้าให้แก่บริษัทส่งออกรายใหญ่จะได้รับผลกระทบมาก เมื่อแรงงานไม่มีกำลังซื้อจะทำให้การบริโภคลดลง และแรงงานที่ออกจากงานครั้งนี้จะกลับไปสู่ภาคการเกษตรได้ลำบากขึ้น เพราะราคาสินค้าเกษตรตกลงเช่นกัน นายสมมาต ขุนเศษฐ รองเลขาธิการ ส.อ.ท.กล่าวว่า ข้อมูลที่ฟังจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศเริ่มเห็นแล้วว่า ไตรมาสแรกปีหน้า 2552 จะได้รับผลกระทบมาก จึงจำเป็นที่รัฐบาลต้องเร่งสร้างความสมานฉันท์ในประเทศ ไม่ใช่ปล่อยให้ความขัดแย้งทางการเมืองเป็นเช่นนี้ คู่แข่งไทยประสบเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจโลก แต่ไทยเจอทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกและปัญหาขัดแย้งภายในประเทศ ทำให้ไทยได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่น 2 เท่า


นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมในภาคเหนือรายงานว่า ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าป้อนภาคการท่องเที่ยวเริ่มได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่ลดลง

ส่งผลให้กำลังการผลิตลดลง 30-50% ในหลายอุตสาหกรรม เช่น เซรามิก มีการลดวันทำงานลงจาก 6 วัน เหลือ 3-4 วัน ส่วนภาคใต้กลางและภาคตะวันออกมีหลายโรงงานที่ลดกำลังคนลงแล้ว 10% เช่น เฟอร์นิเจอร์
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการหอการค้าไทยและสมาคมการค้า ว่า ที่ประชุมเป็นห่วงผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่จะมาทับถมเศรษฐกิจไทย จำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องหาทางช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด เพราะวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ต่างจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ที่กระทบภาคการเงิน แต่วิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ทำให้การส่งออกชะลอตัวและกระทบภาคการผลิต ที่ผ่านมาภาคเอกชนเสนอความเห็นแก่รัฐบาลไปมากแล้ว แต่ถ้าปัญหาความรุนแรงมากขึ้นก็ต้องเสนอความเห็นเพิ่มเติม


นายดุสิต นนทะนาคร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลกระทบต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวจะเริ่มเห็นภาพในเดือนพฤศจิกายนนี้

ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่มีการจัดลำดับความสำคัญของเรื่องที่ต้องแก้ไข และให้ความสำคัญกับปัญหาอื่นมากกว่าปัญหาเศรษฐกิจ โดยมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 6 มาตรการ ที่รัฐบาลออกมาเป็นการแก้ปัญหาในภาพรวม แต่ยังไม่ลงรายละเอียดแต่ละสาขา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์