หนุ่มดาราตัวประกอบภาพยนตร์-ละครชื่อดัง เรื่องหนุมานคลุกฝุ่น-เสน่ห์นางงิ้ว วิ่งโร่ร้องเหยี่ยวข่าวสีบานเย็นเมืองพัทยา ให้ช่วยตามหาเมียรัก หลังจากหายตัวไปอย่างลึกลับ สงสัยแก๊งค้ามนุษย์ลวงไปค้าประเวณีที่มาเลย์ วอนผู้ใดพบเห็นช่วยแจ้งเบาะแสโดยด่วน แฉเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับหญิงสาววัย 20 ปีมาแล้ว ยืนยันเป็นเบาะแสมั่นใจแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติมีอยู่จริง
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 26 ต.ค. นายมานิตย์ พุทธาวงษ์ หรือนิด บางปลาม้า อายุ 42 ปี ดารานักแสดงตัวประกอบชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 4 ต.ตะค่า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย น.ส.ขนิษฐา พุทธาวงษ์ อายุ 19 ปี บุตรสาว นักศึกษาปวส. ปี 4 วิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯและบรรดาญาติ ๆ นับสิบคน เดินทางเข้าพบ ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อร้องทุกข์และขอความช่วยเหลือ หลังจากนางศรีคูณ ภาชินเลิศ อายุ 41 ปี ภรรยา อาชีพแม่ค้าขายขนมจีนและดอกไม้ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ โดยในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะถูกแก๊งค้ามนุษย์ลวงไปขายแรงงานและค้าประเวณีที่ต่างประเทศ
นายมานิตย์ เปิดเผยรายละเอียดว่า ตนมีอาชีพเปิดร้านตัดผมอยู่ที่บ้านพัก ที่แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ และมีอาชีพเสริมรับงานแสดงทั้งภาพยนตร์และละคร ส่วนใหญ่จะได้รับบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีผลงานการแสดงมาแล้วกว่า 200 เรื่อง อาทิ เรื่องหนุมานคลุกฝุ่นและเสน่ห์นางงิ้ว ส่วนนางศรีคูณ ภรรยา ประกอบอาชีพขายขนมจีนน้ำยาและดอกไม้สด โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ภรรยาโทรศัพท์มาบอกกับพ่อว่าจะไปซื้อของที่ปากคลองตลาด
จนเวลาผ่านไปนานผิดสังเกตยังไม่เห็นภรรยากลับบ้าน จึงโทรศัพท์ตามหา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตนและลูกสาวจึงเดินทางไปดูที่ร้านขายขนมจีน แต่ไม่พบตัวและทราบจากแม่ค้าขายของอยู่ใกล้กันว่า ภรรยาโทรศัพท์มาบอกว่าให้ช่วยเก็บร้านด้วย เพราะจะเดินทางไปหาหลานสาว มีสามีเป็นชาวต่างประเทศ อาศัยอยู่ที่ จ.ชลบุรี จึงโทรศัพท์สอบถามหลานสาวและได้รับการยืนยันว่าไม่พบภรรยาแต่อย่างใด
นายมานิตย์ กล่าวต่ออีกว่า กระทั่งวันที่ 22 ต.ค. ได้โทรศัพท์มาหาและร้องไห้ฟูมฟายอ้างว่าถูกคนร้ายจับตัวไปขังในห้องมืด ๆ พร้อมกับหญิงสาวอีก 4 คน แต่ไม่ทราบว่าเป็นสถานที่ใด ก่อนโทรศัพท์จะถูกตัดสายไปและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จนกระทั่งวันที่ 23 ต.ค. ภรรยาโทรศัพท์มาหาอีกครั้งพร้อมกับบอกว่ายืมโทรศัพท์ของหญิงสาวที่ถูกจับไปด้วยกันแอบโทรฯมาหา
และบอกว่ากำลังจะถูกคนร้ายส่งตัวไปขายที่ประเทศมาเลเซีย จึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ บุญเสริมศักดิ์ ร้อยเวร สน.บางขุนเทียน พร้อมกับร้องขอให้ทำเรื่องส่งเอกสารไปเช็กข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ที่ภรรยาใช้ติดต่อเข้ามา
จนทราบว่าครั้งแรกโทรฯมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี และครั้งที่ 2 โทรฯมาจากย่านพัทยาใต้ ใกล้เคียงศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตนกับลูกสาวและบรรดาญาติรวม 10 คน จึงเข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.ธวัชชัย สุดสาคร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ให้ช่วยตามหาภรรยา แต่ยังไม่พบตัวและเบาะแสใด ๆ ทั้งสิ้น
จนกระทั่งต่อมานายมานิตย์ ได้นำภาพถ่ายขนาดโปสการ์ดถ่ายคู่กับภรรยามาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับวอนหากใครพบเห็นช่วยแจ้งเบาะแสด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อหลายเดือนก่อนได้เกิดเหตุลักษณะเดียวกันนี้
โดยหนุ่มใหญ่ ชาว อ.ศรีราชา อาชีพขับรถสองแถวและญาติ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ให้ช่วยตามหาบุตรสาว อายุ 20 ปี หลังจากบุตรสาวได้แอบโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าถูกแก๊งคนร้ายจับตัวไปคุมขังอยู่ในตึกแห่งหนึ่ง ย่านถนนวอล์คกิ้งสตรีท และกำลังจะถูกส่งตัวไปขายที่ประเทศมาเลเซียและทางตำรวจได้ระดมกำลังออกค้นหาแล้ว แต่ไม่พบตัวแต่อย่างใด
จึงเชื่อว่าแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติน่าจะมีอยู่จริง และออกอาละวาดหลอกเหยื่อในพื้นที่เมืองพัทยาและภาคตะวันออกไปค้าประเวณียังต่างประเทศ อย่างไร ก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้เร่งตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งว่าเรื่องทั้งหมดมีที่มาที่ไปหรือข้อเท็จจริงอย่างไรต่อไป.