ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่เลิกจ้างงานมากสุด เช่น สิ่งทอ เครื่องประดับ อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น เพราะหลายโรงงานต้องปิดกิจการลงหรือลดต้นทุนรายจ่ายตามบริษัทแม่ในต่างประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติสถาบันการเงินของประเทศสหรัฐ
ดังนั้นอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการรับมือโดยด่วนเพื่อป้องกันปัญหาสังคมตามมาภายหลัง
“ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 51 จะได้รับผลกระทบไม่รุนแรงมากนัก แต่จะเริ่มเห็นชัดเจนในช่วงไตรมาสแรกของปี 52 (ม.ค.-มี.ค.) ที่อาจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน”
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปีหน้า มี 3 ปัจจัยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คือ ผลกระทบการเงินของโลกที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง, สถานการณ์ปัญหาการเมืองที่มีความแตกแยกจนความเชื่อมั่นต่อการลงทุนภายในประเทศลดลง และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นต้น
“ไทยคงสูญเสียรายได้จากการลดลงของนักท่องเที่ยว ล่าสุดปริมาณนักท่องเที่ยวทั่วโลกปรับลดลง 5-10% แต่เฉพาะของไทยเองลดลง 15-20% ถือได้ว่าต่ำสุดในรอบ 20”
สำหรับข้อมูลล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่ามีผู้ว่างงาน 4.5 แสนคน หรือคิดเป็น 1.2% ของกำลังแรงงานทั่วประเทศ.