เมื่อเวลา 11.00 น. ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้จัดงานแถลงผลงานครบรอบ 2 ปี
โดยมีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม นายสมชาย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย และนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ร่วมแถลงผลงานขาดเพียงนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง เพิ่งกลับจากดูงานเลือกตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา จึงไม่ได้เข้าร่วมแถลงข่าว
นายอภิชาตกล่าวว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 49 ได้ดำเนินงานอย่างเต็มที่ แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะวุ่นวาย กกต.ก็ต้องทำหน้าที่ต่อไปไม่สามารถชะลอดูทิศทางทางการเมืองได้ โดย 2 ปีที่ผ่านมา กกต.ได้จัดการเลือกตั้งส.ส. ส.ว. และจัดการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวม 6,540 แห่ง
โดยในส่วนของการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น มีสำนวนการร้องคัดค้านทั้งหมด 668 สำนวน พิจารณาเสร็จแล้ว 643 สำนวน เหลือสำนวนที่อยู่ระหว่างการพิจารณา 25 สำนวน ทั้งนี้ มีเรื่องร้องคัดค้านที่ส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาวินิจฉัย จำนวน 21 ราย ศาลฎีการับเรื่องไว้เป็นผลให้ส.ส.ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ 10 ราย
ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง(ใบแดง) 1 ราย สั่งเลือกตั้งใหม่ 4 ราย (ใบเหลือง) และยกคำร้อง 3 ราย นอกจากนี้ กกต. ยังดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดในการเลือกตั้ง 52 คดี ส่วนการเลือกตั้งส.ว.มีสำนวนร้องคัดค้านที่อยู่ระหว่างดำเนินการของกกต. จำนวน 125 สำนวนพิจารณาเสร็จแล้ว 111 สำนวน
ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยให้เลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) 2 ราย และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) 1 ราย และเหลือสำนวนที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกกต.จำนวน 14 สำนวน
นายอภิชาต กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งที่เพิ่งดำเนินการผ่านพ้นไป คือ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แม้จะมีผู้มาใช้สิทธิต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด เนื่องจากมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินห้ามชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน แต่การมาใช้สิทธิเกินกว่า 50 % ก็เป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ เรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งจนถึงขณะนี้มีจำนวน 8 เรื่อง กกต.กทม.รับเป็นเรื่องคัดค้าน 6 เรื่อง และพิจารณาเสร็จส่งมาที่กกต.กลางพิจารณาแล้ว 1 เรื่อง ส่วนอีก 5 เรื่องยังอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนของกกต.กทม.
นายอภิชาต กล่าวอีกว่า การก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ของ กกต.ชุดนี้ ในโอกาสที่ กกต.จะย้ายสำนักงานไปอยู่ที่ทำการใหม่ ณ.ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะในปลายปีนี้ เราจะต้องปรับปรุงและพัฒนาระบบงานให้ทันสมัย เหมาะสม สอดคล้องและทันต่อสถานการณ์ทางการเมืองใหม่ เพราะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็ย่อมส่งผลกระทบต่อสถานะและการทำงานของกกต.
โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้ยั่งยืน การทำงานในช่วงรอยต่อของกฎหมายเก่ากับกฎหมายใหม่ ทำให้การริเริ่มงานยังทำได้ไม่เต็มที่ จึงไม่เห็นการพัฒนาอะไรใหม่ๆ มากนัก และต้องรับผิดชอบงานเลือกตั้งสำคัญๆ หลายงานควบคู่กันการพัฒนางานจึงดูเหมือนจะเป็นไปด้วยความล่าช้า
แต่ขอยืนยันว่าไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเป็นอย่างไร การทำงานของเราก็ไม่เคยหยุดนิ่ง ยังยึดมั่นในหลักกฎหมาย สุจริต และเที่ยงธรรม