รับน้องทิ้งดิ่ง-สมองบวมโคม่า

สลดซ้ำซากรับน้องสุดโหด คราวนี้เป็นกลุ่มนักศึกษาโพลีเทคนิคกรุงเทพแห่ไปจัดกิจกรรมริมชายหาดเจ้าสำราญ เผยซื้อเหล้าขาวผสมน้ำแดงดื่มกินจนมึนเมา ก่อนให้รุ่นน้องทั้งหมดกอดคอกันแล้วทิ้งดิ่งตัวลงบนพื้นทราย โชคร้ายนักศึกษาวัย 16 หมดสติ พี่ชายรีบนำส่งโรงพยาบาล หลังแพทย์ตรวจอาการพบว่ามีอาการสาหัสสมองบวม เลือดคั่ง ต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากร.พ.เมืองเพชร-ธนบุรี อ.เมือง จ.เพชรบุรี ว่ามีนักศึกษาได้รับบาดเจ็บทางสมองอย่างรุนแรงเข้ามารับการรักษา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าแพทย์นำนักศึกษาคนดังกล่าวเข้าห้องผ่าตัดเพื่อผ่าตัดสมองช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน ทราบชื่อต่อมาคือนายนิโรจน์ศักดิ์ หรือ "โอ" อินทาโชติ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นักศึกษาโรงเรียนโพลีเทคนิคกรุงเทพ แผนกช่างไฟฟ้า ปีที่ 1 ได้รับบาดเจ็บสมองบวมมีเลือดคั่งภายใน

นายปิยะพงษ์ อินทาโชติ อายุ 20 ปี พี่ชาย นักศึกษาชั้น ปวช.ปี 2 แผนกช่างยนต์ เปิดเผยว่า คาดว่าศีรษะของน้องน่าจะถูกกระแทกอย่างรุนแรง ในช่วงที่รุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้องที่ชายทะเลหาดเจ้าสำราญ บริเวณสถานที่พักชื่อวงจันทร์รีสอร์ท ม.2 ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยก่อนเกิดเหตุรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน มีทั้งรุ่นพี่ที่จบไปแล้วกับรุ่นพี่ที่ยังศึกษาอยู่ พารุ่นน้องชั้นปีที่ 1 และปีที่ 2 รวมทั้งหมดประมาณ 30 คนมาจัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่ โดยเช่ารถเมล์สองแถวมาจาก กทม.เมื่อวันที่ 21 ต.ค.มาถึงสถานที่พักช่วงบ่ายวันเดียวกัน

นายปิยะพงษ์เปิดเผยอีกว่า เมื่อมาถึงสถานที่พัก รุ่นพี่ออกมาซื้อเหล้าขาวผสมน้ำแดงดื่มกันจนเกิดมึนเมา จากนั้นช่วงเย็นรุ่นพี่ที่มีอาการเมาให้รุ่นน้องประมาณ 10 คน รวมทั้งน้องชายของตนออกไปทำกิจกรรม โดยให้ทั้งหมดกอดคอกันแล้วทิ้งดิ่งตัวลงบนพื้นทรายชายทะเลที่ติดกับหอพัก ลักษณะการทิ้งดิ่งจะให้บริเวณใบหน้ากระแทกพื้น เมื่อทำได้สักระยะหนึ่งมีรุ่นน้องคนหนึ่งเกิดอาการหน้ามืด จึงพากันออกมาปฐมพยาบาลจนอาการดีขึ้น จากนั้นรุ่นพี่สั่งให้ทำกิจกรรมดังกล่าวต่ออีก กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ตนเห็นน้องชายนอนแน่นิ่งจึงวิ่งเข้าไปดูพบว่าหมดสติ จึงบอกให้นำส่งร.พ.แต่ทางรุ่นพี่ไม่สนใจ จึงไปขอความช่วยเหลือเจ้าของรถเมล์คันที่เช่ามานำน้องชายส่งร.พ. หลังแพทย์ตรวจอาการพบว่ามีอาการสมองบวม เลือดคั่งในสมอง ต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน จึงให้เจ้าหน้าที่ร.พ.โทรศัพท์บอกพ่อกับแม่เพื่อขออนุญาตผ่าตัด

ด้านนายประสิทธิ อินทาโชติ อายุ 47 ปี พ่อของนายนิโรจน์ศักดิ์ เปิดเผยหลังจากเห็นอาการลูกชายว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกชาย ทางครอบครัวมีฐานะยากจน ทราบว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงมาก ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินตรงไหนมาช่วยลูก และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้รุ่นพี่ที่กระทำลงไปออกมารับผิดชอบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเปลี่ยนไปอยู่ร.พ.พระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี เพราะเป็นร.พ.ของรัฐจะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย

ขณะที่นางนันทพร อินทาโชติ อายุ 48 ปี มารดา กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องมีทางรุ่นพี่ติดต่อมาว่าจะช่วยออกค่ารักษาพยาบาลให้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ของร.พ.แจ้งค่ารักษาเบื้องต้นเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท ถือว่าสูงมากยังไม่ทราบว่าจะไปนำเงินตรงไหนมาจ่าย นอกจากนั้นแพทย์ยังบอกให้ทำใจ เนื่องจากอาการของลูกสาหัส ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิด และหลังเกิดเหตุไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หาดเจ้าสำราญ อ.เมืองเพชรบุรี ไว้แล้ว

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ บริเวณหาดวงจันทร์รีสอร์ท พบว่าเป็นที่พักลักษณะ 2 ชั้น ติดกับทะเลที่นักศึกษากลุ่มดังกล่าวเข้าพัก ชั้นล่างติดกับริมทะเล พบภาชนะใส่อาหารและเครื่องดื่มวางอยู่กระจัดกระจาย ยังไม่ได้เก็บทำความสะอาด พบขวดเหล้าขาวทั่วบริเวณรวม 5 ขวด มีทั้งขวดเปล่าและขวดที่มีน้ำสุราเหลืออยู่ นอกจากนั้นมีขวดน้ำพลาสติกตัดผ่าครึ่งแล้วนำทรายใส่และนำธูปมาปักจำนวนมาก ลักษณะเหมือนไหว้เจ้าที่ โดยติดกับขวดน้ำพลาสติกที่ผ่าครึ่งยังพบมีขวดเหล้าขาวที่มีน้ำสุราเต็มตั้งอยู่ 1 ขวด

น.ส.ธัชมาภรณ์ รัตนรัตน์ อายุ 30 ปี พนักงานบังกะโลหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อบ่ายวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มหนุ่มสาวจำนวนกว่า 30 คนมาเข้าพัก หลังจากจัดพื้นที่ให้เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรเนื่องจากมีผู้มาพักจำนวนมาก ตนเห็นกลุ่มดังกล่าวทำกิจกรรมกันอยู่ และสักพักก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเตือนและเลิกรากันไป ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น.เห็นออกมาทำกิจกรรมกันอีก จน กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. เห็นรถเมล์คันดังกล่าววิ่งออกจากที่พักอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นไม่ทราบว่าไปไหนกัน คิดว่าอาจจะออกไปหาอะไรรับประทาน มาทราบอีกทีเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเชิญตัวนักศึกษาหลายคนไปสอบปากคำที่ สภ.หาดเจ้าสำราญ

ต่อมา พ.ต.ท.สังวาลย์ สวัสดิมงคล พนักงานสอบ สวน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงหัวค่ำของวันเกิดเหตุ ตำรวจรับแจ้งจากชาวบ้านละแวกนั้นว่ามีการรับน้องแบบทารุณ อาจจะเกิดอันตรายกับรุ่นน้องได้ ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปดูและห้ามปรามให้หยุดการกระทำ เพราะจะทำให้เกิดอันตราย ทางคณะที่มารับน้องจึงหยุดกิจกรรมไปและมาทราบตอนหลังว่ากลับมาทำกิจ กรรมแบบเดิมอีกครั้งหนึ่ง ขณะนี้รุ่นพี่ที่ก่อเหตุยังอยู่ในอาการมึนเมา ยังไม่สามารถให้การกับตำรวจได้ คงต้องรอให้ทั้งหมดสร่างเมาเสียก่อนจึงจะสอบสวนต่อไป

พ.ต.ท.ชัยยุทธ ถมยา สารวัตรใหญ่ สภ.หาดเจ้าสำราญ กล่าวว่า สั่งกำชับพนักงานสอบสวนรีบสอบสวนพยานทั้งหมดเพื่อหาตัวรุ่นพี่ที่บงการสั่งรับรุ่นน้องคนดังกล่าวเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เบื้องต้นนักศึกษาหลายคนอ้างไม่รู้เรื่องว่าใครเป็นคนสั่งกันแน่ เชื่อว่าปกป้องกันเอง อย่างไรก็ตามได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวมาว่ารุ่นพี่ที่สั่งนั้นเป็นผู้หญิง คงต้องสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานและพยานมายืนยันให้แน่ชัดเสียก่อน เพื่อจะเอาผิดกับนักศึกษารุ่นพี่ต่อไป