จากรายงานในต้นปี 2551 ที่ผ่านมา ภาค รวมการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ในไตรมาสแรกของปีอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก
ประสบปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงเล็กน้อย เนื่องจากภาคใต้ได้มีการโหมทำการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยลดลงเป็นจำนวนมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาลดลงทั้งสองตลาดถึงราวร้อยละ 15 ตลอดจำนวนห้องพักโรงแรมมีมากขึ้นเกินความพอดี โดยรวมมีจำนวนกว่า 30,000 ห้อง ทำให้เกิดสภาพโอเวอร์ซัพพลาย กอปรกับก่อนช่วงวิกฤติค่าน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาสูงขึ้น เที่ยวบินตรงจากต่างประเทศเข้าสู่เชียงใหม่จากจำนวน 14 สายการบิน ได้ลดลงเหลือ 7 สาย และหลังจากวิกฤติค่าน้ำมันในไตรมาสที่ 2 ของปีก็ได้ลดลงอีก เหลือ 6 สายการบิน
ซึ่งจากข้อมูลข้างต้น เป็นที่ยอมรับว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวในเชียงใหม่และภาคเหนือวิกฤติจริง
ซึ่งก่อนหน้านั้นรัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยท่านนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาหารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในเชียงใหม่และภาคเหนือมีสาระสำคัญคือการรับฟังความคิดเห็นโดยตรงจากผู้ประกอบการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา แต่หลังจากนั้นยังไม่มีมาตรการใดออกมาให้เห็นเด่นชัด เนื่องจากปัญหาทางการเมือง และเชียงใหม่ก็ยังอยู่ในวิกฤติปริมาณนักท่องเที่ยวมีไม่เพียงพอ และสถานการณ์ท่องเที่ยวในปัจจุบัน โดยปกติเทียบจากรายได้จากการท่องเที่ยวรวมในปี 2550 ที่ผ่านมา เชียงใหม่มีรายได้ 3.8 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณวันละ 105 ล้านบาท แยกเป็นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละ 120 ล้านบาท และช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละ 85 ล้านบาท โดยเดือนกันยายนของแต่ละปีจะเป็นเดือนที่ปริมาณนักท่องเที่ยวน้อยที่สุดโดยน่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ล้านบาทต่อวัน
สำหรับช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม หรือไตรมาสที่ 3 เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปจะเริ่มวางแผนจองการท่องเที่ยวสำหรับช่วงปลายปี
หากเหตุการณ์ความไม่สงบสุขในบ้านเมืองบานปลายออกไปก็จะทำให้ได้รับผลกระทบรุนแรงอย่างแน่นอน ซึ่งในช่วงนี้ความเสียหายอยู่ในระหว่างเริ่มทยอยเกิดขึ้น ทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ได้ออกแบบสำรวจจากสมาชิกของสมาคมและผู้ประกอบการโดยทั่วไปใน จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 700 ราย เมื่อวันที่ 5 กันยายน เป็นต้นมา ได้ปรากฏมีการยกเลิกปริมาณธุร กิจรวมประมาณ 10-15% โดยเฉลี่ยจากรายการเดิมที่มีอยู่แล้วสำหรับช่วงกันยา ยน-ธันวาคม 2551 และ ปริมาณธุรกิจใหม่ล่วงหน้าเคลื่อนไหวล่าช้าและมีปริมาณสำรองที่น้อยมาก เนื่องจากลูกค้าชะลอการตัดสินใจในการทำการจองเพื่อรอดูสถานการณ์ที่ชัดเจน และบางรายอาจงดการ เดินทางเข้าประเทศ ไทยใน 3 เดือน ล่วงหน้าโดยเปลี่ยนเส้นทางไปยังประเทศอื่นแทน
โดยสรุปเมื่อเทียบ จากเดือนกันยายน-ธันวาคม ของปีที่แล้วหรือ 2551 เชียงใหม่มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 11,900 ล้านบาท
โดยจากการสำรวจเชื่อว่าน่าจะเสียหายไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท หากเหตุการณ์ยังไม่คลี่คลายไปในทางที่ดี และไม่มีการทำรายการจองใหม่เข้ามา เชื่อว่าจะทำให้เสีย โอกาสทางด้านรายได้ นับหลายพันล้านบาทสำหรับ ปี 2551 และอาจสูงขึ้นถึงหมื่นล้านบาทสำหรับตลอดช่วง High Season ที่กำลังจะมาถึงนี้
เวียงพิงค์สะอื้นท่องเที่ยววูบรายได้หด
สำหรับข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาวิกฤติ ท่องเที่ยวเชียงใหม่ในอนาคตนั้นทางสมาคมได้จัดทำแผนไว้เพื่อเสนอทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
คือ 1.รณรงค์ผลักดันให้มีเที่ยวบินตรงหรือเช่าเหมาลำมายังเชียงใหม่ โดยข้อเสนอพิเศษเริ่มจากตุลาคม 2551 ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2552 มอบลดตั้งแต่ค่าจอดที่ท่าอาศยานไปจนถึงราคาที่พักโรงแรมและบริการสิ่งอำนวยความสะดวกครบหลักประกันที่เชื่อถือได้ว่าจะไม่มีการปิดให้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เนื่องจากการบินตรงเข้าเชียงใหม่จะไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น
2.ส่งเสริมตลาดคนในประเทศท่องเที่ยวภาค เหนือเนื่องจากกำลัง จะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว จึงควรเพิ่มทวีจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศให้มากที่สุด เนื่องจากคนไทยชอบการท่องเที่ยวใน ฤดูหนาว
3.จัดกิจกรรมสนับสนุนข้อ 1 และ 2 เช่น ยกระดับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์การเปิด ตัวของ ChiangMai Zoo Aquarium ที่จะเปิดตัวในปลายเดือนพฤศจิกายน 2551 ให้เป็นที่โด่งดังไปทั่วประเทศเช่นดังกับครั้งการต้อนรับหมีแพนด้า การจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ที่น่าสนใจและสนุกสนานในช่วงการเปิดให้บริการของสวนราชพฤกษ์เฉลิมพระ เกียรติอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป
4.เสริมจากข้อ 3 ยกระดับเทศกาลวัฒนธรรมประเพณีที่เคยมีชื่อ เสียงของเชียงใหม่ เช่น เทศกาลยี่เป็งรำลึก (ลอยกระทง) มหกรรม ไม้ดอกไม้ประดับและเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากเทศกาลทั้ง 3 รายการนี้ได้ถูกลดความนิยมใน 1-2 ปีที่ผ่านมา และมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนน้อย
และ 5.ขอความร่วมมือจากทุก หน่วยงานในเชียงใหม่รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวในการเร่งทำประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวภาคเหนือที่ปลอดจากความไม่สงบและไม่มี ผลกระทบ ต่อนัก ท่องเที่ยว โดยซื้อ สื่อโฆษณาที่มีศักยภาพ สูงเช่น กรอบโฆษณาหนังสือพิมพ์ ในต่างประเทศ และโฆษณา ผ่านสถานีโทรทัศน์เป็นต้น ต้องเลือกสื่อที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดทางเรากำลังพยามผลักดันอย่างเต็มที่ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่กล่าวในที่สุด
ทั้งหมดคือเสียงโอดครวญจากผู้เกี่ยวข้องโดยตรงในวงการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่
แน่นอนผลกระทบด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติของการเมืองย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะเป็นด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ถึงเวลาแล้วทุกภาคส่วนรวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องช่วยกันหาทางเยียวยาปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมามันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเท่านั้นรากหญ้าและประชาชนชาวเชียงใหม่ก็ได้รับผลด้วยเช่นกันรายได้ของรัฐจากภาษีก็ลดลงไปด้วย ถึงเวลาแล้วหรือยังครับที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน.