เวลา 11.30 น. พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.ชุมพร กาญจนรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน และ พ.ต.ต. ภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ สว.สป.สน.ปทุมวัน ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายไซม่อน โบย สัญชาติมาเลเซีย ผู้ต้องหาใช้บัตรเครดิตและหนังสือเดินทางปลอม พร้อมของกลางบัตรวีซ่าธนาคารต่างๆ รวม 10 ใบ
ใบบันทึกรายการขายสินค้าของธนาคาร กสิกรไทย ยอดเงินจำนวน 49,980 บาท จำนวน 1 ใบ หนังสือเดินทางปลอมของประเทศฮ่องกง ซึ่งมีรูปถ่ายผู้ต้องหาติดอยู่จำนวน 2 เล่ม และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น N 81 อีก 2 เครื่อง
โดยสามารถจับกุมตัวได้ขณะที่ผู้ต้องหากำลังใช้บัตรเครดิตปลอมรูดซื้อสินค้าบนห้างสยามพารากอน เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ (20 ต.ค.)
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้แทนของสถาบันการเงินและธนาคารหลายแห่งว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพนำบัตรเครดิตปลอมมาใช้รูดซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ บก.น.6 ทำให้ธนาคารได้รับความเสียหายมูลค่ามหาศาล
จึงได้ส่งกำลังไปเฝ้าสังเกตุการณ์ตามห้างต่างๆ จนกระทั่งช่วงหัวค่ำวานนี้ (20 ต.ค.) เจ้าหน้าที่พบนายไซม่อน นำบัตรเครดิตของธนาคาร กสิกรไทย ไปใช้รูดซื้อโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่น OMNIA จำนวน 2 เครื่อง ในราคา 49,980 บาท บนห้างสยามพารากอนด้วยท่าทางมีพิรุธ
จึงเข้าตรวจค้นพบบัตรเครดิตในตัวอีก 6 ใบ โดยไม่สามารถบอกที่มาที่ไปของบัตรทั้งหมดได้ เมื่อพาไปตรวจค้นห้องพักในโรงแรมย่านสุขุมวิท ยังพบบัตรเครดิตปลอมเพิ่มอีก 3 ใบ และหนังสือเดินทางปลอมอีก 2 เล่ม จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ปทุมวัน
จากการสอบสวน นายไซม่อน ให้การว่า เป็นพ่อครัวประจำร้านอาหารในประเทศมาเลเซีย แต่ติดเล่นการพนันฟุตบอลอย่างหนัก ทำให้เป็นหนี้โต๊ะรับแทงบอลมากถึง 40,000 ริงกิต หรือประมาณ 400,000 บาท
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหนี้ได้สั่งให้ทำงานขัดดอกด้วยการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วขึ้นรถไฟจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาที่กรุงเทพฯ เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหนี้ได้ส่งคนมายึดหนังสือเดินทางฉบับจริงของตน ซึ่งออกโดยประเทศมาเลเซียไป แล้วมอบหนังสือเดินทางปลอมทั้ง 2 เล่มให้ถือไว้แทน ก่อนจะพาไปพักที่โรงแรมย่านสุขุมวิท
จากนั้นทางเจ้าหนี้ได้ส่งทั้งคนไทยและต่างชาติสลับสับเปลี่ยนกันนำบัตรเครดิตปลอมมาให้ตนนำไปรูดซื้อโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป และคอมพิวเตอร์ ตามร้านภายในห้างชื่อดังย่านปทุมวันทุกวัน ซึ่งบัตรบางก็รูดไม่ผ่าน แต่ถ้าใบไหนที่รูดสำเร็จก็จะมีคนมารับสินค้าจากตนไปในทันที ซึ่งการรูดซื้อสินค้าได้ในแต่ละครั้ง ตนจะได้รับค่าตอบแทนเที่ยวละ 3-10 เปอร์เซ็นต์ โดยเจ้าหนี้จะหักเงินรายได้ส่วนนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเงินต้นจะหมด
ด้าน นายสมชาย พิชิตสุรกิจ ประธานหัวหน้าคณะทำงานป้องกันทุจริตบัตรเครดิต ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต กล่าวว่า บัตรเครดิตที่ยึดได้จากนายไซม่อน นั้นแม้จะเป็นบัตรปลอม แต่ข้อมูลภายในแถบแม่เหล็กเป็นข้อมูลจริงของลูกค้าทุกอย่าง
สำหรับการขโมยข้อมูลภายในบัตรนั้นมีอยู่หลายขั้นตอน อย่างง่ายๆ ก็คือ การใช้เครื่องสกรีมเมอร์ไปว่าจ้างให้พนักงานตามปั๊มน้ำมัน หรือร้านอาหาร และตามสถานบันเทิงถือเอาไว้ เมื่อลูกค้ายื่นบัตรให้เพื่อชำระค่าบริการ พนักงานก็จะนำบัตรมารูดใส่เครื่องสกรีมเมอร์ทำการบันทึกข้อมูลในแถบแม่เหล็ก ก่อนที่จะเอาข้อมูลดังกล่าวไปเอนโค๊ดเดอร์ใส่บัตรปลอมที่ทำรอเอาไว้แล้ว
ส่วนวิธีแก้ปัญหาขณะนี้สถาบันการเงินต่างๆ พยายามที่จะเปลี่ยนการบันทึกข้อมูลจากในแถบแม่เหล็ก เป็นการบันทึกลงในชิฟแทน ซึ่งทราบว่ากำลังใช้ความพยายามกันอยู่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ใช้หรือมีไว้ใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระสินค้า แทนการชำระด้วยเงินสด โดยประการที่จะก่อความเสียหายให้แก่ผู้อื่น ,ปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีต่อไป
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว