ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ และโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีการเงินการธนาคาร
ได้นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 76/2549 กรณีนาย ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตกรรมการบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลป์ จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ กับพวก ถ่ายเทเงินจากบริษัทด้วยการปล่อยกู้เงินจำนวน 13,000 ล้านบาท ให้กับบริษัทในกลุ่มของตนเอง ทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ บริษัททีพีไอ หรือบริษัทไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) โดย พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ และ นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายประชัย นายประทีป เลี่ยวไพรัตน์ นายประมวล เลี่ยวไพรัตน์ นายชัยณรงค์ แต้ไพสิฐพงษ์ และ นายประหยัด เลี่ยวไพรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 1-5
เนื่องจากตรวจสอบพบว่า ระหว่างปี 2538-2543 ขณะที่ผู้ต้องหาที่ 1-4 เป็นกรรมการและผู้บริหารบริษัททีพีไอ มีพฤติการณ์ ถ่ายเทเงินด้วยการปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทที่พวกตนเองร่วมเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น และเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประกอบด้วย บริษัทพรชัยวิสาหกิจ จำกัด บริษัททีพีไอ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัททีพีไออีโออีจี จำกัด และบริษัทโรงงานฝ้ายสระบุรี จำกัด
ต่อมามีการทำเอกสารระบุว่า บ.พรชัยวิสาหกิจ บ.ทีพีไอโฮลดิ้ง และบ.ทีพีไออีโออีจี ได้ซื้อหุ้นของบริษัทเลียวไพรัตน์ วิสาหกิจ ในราคาหุ้นละ 5,500 บาท จนเป็นเหตุทำให้บริษัททั้ง 3 แห่งซึ่งเป็นลูกหนี้เงินกู้ของบริษัททีพีไอมีหนี้สินล้นพ้นตัว ความสามารถในการชำระหนี้ลดน้อยลง จนทำให้บริษัททีพีไอได้รับความเสียหายถึง 13,000 ล้านบาท
โฆษกดีเอสไอ ระบุด้วยว่า กลุ่มอดีตผู้บริหารบริษัททีพีไอควรบริหารบริษัทด้วยความซื่อสัตย์ แต่กลับกระทำโดยขาดความระมัดระวัง และมีการลงบัญชีไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของนิติบุคคล กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
เพื่อตนเองหรือผู้อื่นอันเป็นการเสียหายแก่นิติบุคคล กระทำหรือยินยอมให้กระทำการเปลี่ยนแปลงบัญชีเอกสาร และ ทำบัญชีไม่ตรงต่อความเป็นจริง เพื่อลวงบุคคลใดๆเป็นกรรมการหรือผู้จัดการ ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินการของนิติบุคคลที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ดีเอสไอจึงมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-4 ในความผิดตามมาตรา 307 และมาตรา 311 และ 312 พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และฟ้องผู้ต้องหาที่ 5 ฐาน กระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่กรรมการหรือผู้จัดการซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินการของนิติบุคคลให้กระทำความผิด
ดีเอสไอฟ้องประชัยถ่ายเทเงินจากบ.TPIสูญ1.3หมื่นล.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ดีเอสไอฟ้องประชัยถ่ายเทเงินจากบ.TPIสูญ1.3หมื่นล.