พรุ่งนี้เชลล์-บางจาก-ปตท. ลดเบนซิน-ดีเซลลิตรละ1บ.


บริษัท ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ ประกาศลดราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซล ลง 1 บาทต่อลิตร มีผลพรุ่งนี้ (18ต.ค.) ด้านตลาดน้ำมันนิว ยอร์ค:น้ำมันดิบดิ่ง 4.69 ดอลล์หลัง เผย สต็อกน้ำมันเพิ่มเกินคาด


บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด, บริษัทบางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลลง 1 บาทต่อลิตร มีผลพรุ่งนี้ (18ต.ค.) เวลา 05.00 น. เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงตามราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ที่ปรับลดลงส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกหน้าสถานีบริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล วันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้เบนซิน 95 ลิตรละ 33 บาท 99 สตางค์, เบนซิน 91 ลิตรละ 30 บาท 99 สตางค์, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 24 บาท 49 สตางค์, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 23 บาท 69 สตางค์, ดีเซล ลิตรละ 24 บาท 74 สตางค์


ด้านราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดดิ่งลงกว่า 6 % ในวันพฤหัสบดีโดยปิดที่ระดับต่ำกว่า 70 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของรัฐบาลสหรัฐแสดงให้เห็นว่า สต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นสูงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากอุปสงค์ลดลง


ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 4.69 ดอลลาร์ หรือ 6.29 % มาปิดตลาดที่ 69.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 68.57-74.50 ดอลลาร์ โดยจุดต่ำสุดของวันพฤหัสบดีถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่แตะ 67.07 ดอลลาร์ในวันที่ 27 มิ.ย.ปี 2007 เป็นต้นมา


ราคาน้ำมัน heating oil ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 10.32 เซนต์ หรือ4.71 % สู่ 2.0873 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 2.0510-2.1885 ดอลลาร์ โดยจุดต่ำสุดของวันพฤหัสบดีถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่แตะ 2.0320 ดอลลาร์ในวันที่ 31 ส.ค.ปี 2007 เป็นต้นมา


ราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 16.02 เซนต์ หรือ 8.99 % สู่ 1.6220 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1.5964-2.7550 ดอลลาร์โดยจุดต่ำสุดของวันพฤหัสบดีถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่แตะ 1.5850 ดอลลาร์ในวันที่ 16 ก.พ.ปี 2007 เป็นต้นมา


ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนดิ่งลง 4.48 ดอลลาร์หรือ 6.3 % สู่ 66.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 65.45-70.15 ดอลลาร์


ค่าแครกสเปรดของน้ำมัน heating oil ปิดที่ 18.01 ดอลลาร์ ส่วนค่าแครกสเปรดของน้ำมันเบนซินปิดที่ -1.22 ดอลลาร์


ราคาน้ำมันดิบมีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันอยู่ที่ 79.04 ดอลลาร์ และ 20 วันที่89.39 ดอลลาร์ โดยราคาน้ำมันดิบร่วงผ่านแนวรับที่ 70.00 ดอลลาร์ และมีแนวต้านที่76.00 ดอลลาร์
ส่วนราคาน้ำมัน heating oil ร่วงผ่านแนวรับที่ 2.10 ดอลลาร์ และมีแนวต้านที่ 2.20 ดอลลาร์ ทางด้านราคาน้ำมันเบนซินร่วงผ่านแนวรับที่ 1.70 ดอลลาร์และมีแนวต้านที่ 1.8535 ดอลลาร์


ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันในช่วงก่อนหน้านี้จากสัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก


สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่าสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 5.6 ล้านบาร์เรล สู่ 308.2 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ต.ค. ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 7 ล้านบาร์เรล สู่ 193.8 ล้านบาร์เรลซึ่งทั้งสองตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่พุ่งขึ้นเกินคาด


สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 500,000 บาร์เรล สู่ 122.1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมัน heating oil ลดลง 200,000 บาร์เรล สู่ 37.5 ล้านบาร์เรล ทางด้านอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.9 % สู่ 82.2 %


ปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์น้ำมันทั้งหมดในช่วง 4 สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ต.ค.อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 18.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 8.9 % จากช่วงเดียวกันในปีก่อน


อุปสงค์ในน้ำมันเบนซินอยู่ที่ 8.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยลดลง 5.2 % ส่วนอุปสงค์ในเชื้อเพลิงกลั่นอยู่ที่ 3.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยลดลง 6.9 %


กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เลื่อนวันประชุมฉุกเฉินให้เร็วขึ้นเพื่อหารือเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยเลื่อนขึ้นมาเป็นวันศุกร์ที่ 24 ต.ค. โดยรัฐมนตรีน้ำมันบางคนในกลุ่มโอเปกคาดว่าจะมีการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์