รวมรถเมล์-ทัวร์ ช่วยค่าครองชีพหลังนํ้ามันถูกลง
“นายก” สั่งกระทรวงเศรษฐกิจ จัดโปรโมชั่นลดค่าครองชีพเอาใจชาวบ้านหลังน้ำมันลด คมนาคมไฟเขียว ลดค่ารถเมล์-ทัวร์ ผู้ประกอบการพร้อมใจยอมลดค่าโดยสารตามหลังดีเซลลดฮวบ คาดเริ่ม 1 พ.ย. นี้ แต่เจ๊เกียว ยึกยักอ้างยอดผู้โดยสารลด 40% ทำรายได้หด ด้านพาณิชย์ ประกาศลดราคาเหล็กเส้น เหล็กแผ่น ตันละ 1.4 หมื่นบาทเริ่มกลางเดือน ต.ค. พร้อมกล่อมน้ำมันปาล์มช่วยต่อ ขณะที่เบนซิน ดีเซล ลดต่ออีก 1 บาท ทำสถิติขายปลีกต่ำสุดรอบปี 51
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ทำเนียบชั่วคราว ท่าอากาศยานดอนเมือง นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังประชุม ครม.ว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหม สั่งการให้ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานช่วยดูแล หามาตรการช่วยเหลือเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน หลังจากเกิดวิกฤติสถาบันการเงินขึ้นในสหรัฐ และราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับลดลงมาก
ทั้งราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ค่ารถเมล์ ค่าเรือ เป็นต้น รวมทั้งใช้จ่ายต่าง ๆ ของผู้ประกอบการส่งออก โดยเฉพาะค่าระวางเรือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ โดยในส่วนกระทรวงพาณิชย์เห็นว่า ราคาน้ำมันได้ปรับลดลงจาก 140 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เหลือเพียง 77 เหรียญ หรือลดลงกว่า 50% ดังนั้นสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่มีต้นทุนอ้างอิงจากราคาน้ำมัน ควรที่จะปรับลดลงได้แล้ว
ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว. คมนาคม กล่าวว่า ให้กรมการขนส่งทางบกและคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง พิจารณาปรับลดค่าโดยสารรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชน กรุงเทพ (ขสมก.) และรถร่วมบริการ ขสมก. รวมทั้งรถโดยสารประจำทางของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และผู้ประกอบการรถร่วม โดยให้ไปศึกษารายละเอียด และดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
ส่วนนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ได้หารือถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงแล้ว และเห็นว่า อาจต้องรอสถานการณ์ให้นิ่งก่อน และจะสรุปราคาที่ลดลงได้ใน 2 สัปดาห์ และในสัปดาห์หน้า กรมการขนส่งฯ จะเรียกผู้ประกอบการมาหารือถึงแนวทางการปรับลด ราคาร่วมกัน ซึ่งขณะนี้กลุ่มผู้ประกอบการต่าง ๆ ก็พร้อมที่จะปรับลดราคาแล้ว
ขณะที่ นายปิยะพันธุ์ จัมปาสุต ประธานบอร์ดบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) และประธานบอร์ด ขสมก. กล่าวว่า ทั้ง บขส. และ ขสมก. พร้อมจะปรับลดค่าโดยสารลงทันที หากที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง มีมติให้ลดราคาลงได้ และพร้อมจะเรียกประชุมคณะกรรมการ บขส. และ ขสมก. ในวันที่ 16-17 ต.ค.นี้ จากนั้นจะกำหนดระยะเวลาให้กรมการขนส่งทางบกเรียกผู้ประกอบการรถโดยสารมารับทราบ และจัดพิมพ์ตั๋วรถโดยสารในอัตราราคาใหม่ เพื่อให้บริการทันวันที่ 1 พ.ย.นี้
ทางด้าน นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมรถโดยสารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ไม่มีนโยบายปรับลดค่าโดยสารลง เพราะต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย แม้ราคาน้ำมันจะลดลงก็ตาม เพราะที่ผ่านมาช่วงที่น้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้น ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระราคาน้ำมันไว้กว่า 50% แม้ว่าในขณะนี้ต้นทุน น้ำมันแม้จะลดลงแต่ต้นทุนราคาน้ำมันก็ถือว่าใกล้เคียงกับช่วงที่ราคาน้ำมันสูง รวมทั้งเป็นช่วงที่ผู้โดยสารโดยรวมลดลงกว่า 40% ทำให้รายได้โดยรวมลดลงด้วย
ส่วน นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมบริการ กล่าวว่า ภายใน 1-2 วันข้างหน้าจะเรียกประชุมสมาชิก เพื่อ พิจารณาวาระการปรับลดค่าโดยสาร เพื่อช่วยเหลือประชาชน ด้านนายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมรถยนต์โดยสารประจำทางไทย กล่าวว่า สมาคมฯพร้อมจะปรับลดค่าโดยสารลงภายหลังจากราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับลดแล้ว โดยจะต้องรอให้คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง มีการประชุมและมีมติให้ปรับลดราคา
นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรม การค้าภายใน เปิดเผยหลังหารือกับผู้ประกอบการกลุ่มเหล็กว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาเหล็ก มีมติให้ปรับลดราคาเพดานขายปลีกทั้ง เหล็กเส้น และเหล็กแผ่นลงตันละ 14,000 บาท หลังจากราคาวัตถุดิบในตลาดโลกลดลงอย่างต่อ เนื่อง โดยจะทยอยปรับลดราคา 2 ช่วง คือ ปักษ์สอง เดือน ต.ค. ลด 7,000 บาท และปักษ์แรก เดือน พ.ย. อีก 7,000 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีก ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ เหล็กเส้นจะเฉลี่ยที่ตันละ 28,250 บาท ส่วนเหล็กแผ่นตันละ 30,000-32,000 บาท โดยราคาวัตถุดิบเหล็กขณะนี้ลดลงจากเดือน ก.ค. แล้วกว่า 50% กก.ละ 14 บาท หรือ 14,000 บาทต่อตัน
นอกจากนี้ กรมยังเตรียมประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาน้ำมันพืชวันที่ 16 ต.ค. เพื่อพิจารณาสถานการณ์ต้นทุนการผลิตปาล์มดิบที่ลดลง เพื่อขอความร่วมมือให้ลดราคาลงด้วย ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภครายการอื่น จะต้อง พิจารณาเป็นรายการสินค้า แต่อาจไม่เห็นราคาลงมาก เพราะช่วงราคาน้ำมันแพงกระทรวงฯ ขอให้ช่วยตรึงราคาไม่ให้ขึ้นราคาอยู่ ดังนั้น เมื่อราคาน้ำมันลงจึงไม่มีผลต่อการกดดันราคาขาย ของสินค้าหมวด
ขณะที่รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) แจ้งว่า ผู้ค้าน้ำมัน ทุกรายปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลิตรละ 1 บาทยกเว้น อี 20 ปรับลด 50 สต. มีผลวันที่ 15 ต.ค. 51 เวลา 05.00 น. ส่งผลให้ราคาขายปลีกในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นดังนี้ เบนซิน 95 อยู่ที่ 34.99 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 อยู่ที่ 31.99 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 25.49 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 24.69 บาทต่อลิตร อี 20 อยู่ที่ 24.69 บาทต่อลิตร และ ดีเซล อยู่ที่ 25.74 บาทต่อลิตร โดยน้ำมันประเภทแก๊สโซฮอล์ 91, 95 และ ดีเซล มีราคาต่ำสุดในรอบปี 51
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.กล่าวว่า การปรับลดราคาน้ำมันแต่ละครั้ง ปตท.ยืนยันว่า ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยตั้งแต่เดือน ก.ค. 51 ถึงปัจจุบัน ลดราคาขายปลีกน้ำมันเป็นครั้งที่ 27 แล้ว ซึ่งกลุ่มเบนซินลดลงถึง 13.70 บาทต่อลิตร และดีเซลลดลง 18.50 บาทต่อลิตร.