พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงสถานการณ์ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำว่า
ในช่วงเทศกาลออกพรรษาส.ส.ภาคใต้ของพรรคได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชน โดยพบปัญหาเรื่องพืชผลทางการเกษตรคือ ราคายางพารา และราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำเป็นอย่างมาก ราคายางกิโลกรัมละ 100 บาท เหลือ 48-52 บาท ส่วนราคาปาล์มน้ำมัน จากราคากิโลกรัมละ 6-7 บาท เหลือ 1-2.50 บาท ทำให้ประชาชนชาวสวนยางและสวนปาล์มเดือดร้อนแสนสาหัส และได้มีการร้องทุกข์มายังส.ส.พรรค เพื่อเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้เข้าไปแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ซึ่งตนคิดว่าถ้ารัฐบาลยังเมินเฉยเรื่องนี้ ก็อาจจะมีม็อบที่ได้ประกาศไว้ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ แต่ ณ วันนี้พี่น้องชาวภาคใต้ ยังให้โอกาสรัฐบาลช่วงเวลา 1 สัปดาห์จากนี้ไป รัฐบาลจะมีท่าทีอย่างไรต่อราคายางและปาล์ม หากไม่มีมาตรการใดออกมา เชื่อว่ากลุ่มเกษตรกรจะต้องมีการกดดันรัฐบาลโดยมีมาตรการเคลื่อนไหวตามที่ประกาศไว้คือ จะมีการล้อมศาลากลางจังหวัด เชื่อว่าไม่ใช่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง แต่เป็นทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ เพราะมีเกษตรกรที่ประกอบอาชีพสวนยางและสวนปาล์ม
นายเทพไท กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปดูแล และช่วยเหลือประชาชนปัญหาที่เกิดขึ้น เพระรัฐบาลได้พูดตลอดเวลาว่าที่ผ่านมาราคายางดี เพราะเป็นฝีมือของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้ราคายางตกลงมาครึ่งหนึ่งของราคาที่เคยดี
อยากถามรัฐบาลว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร จึงอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาโดยตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหวของชาวสวน เพราะถ้าหากมีการเคลื่อนไหวในลักษณะที่มีการปิดถนน และปิดศาลากลางจังหวัด ซึ่งรัฐบาลอาจจะอ้างว่าเป็นประเด็นทางการเมือง และอาจจะโบ้ยความผิดมาใส่พรรคประชาธิปัตย์
แต่ต้องยอมรับว่าประชาชนเดือดร้อนจริงและได้มาร้องเรียนกับพวกตนในฐานะส.ส.ภาคใต้ จึงอยากให้รัฐบาลคำนึงถึงชีวิตและปากท้องของประชาชนด้วย ไม่ใช่มัวแต่คำนึงถึงความอยู่รอดของตัวเอง