เอพีรายงานว่า
เมื่อ 13 ต.ค. เหล่านักค้าเงินในตลาดหุ้นวอลสตรีตได้ฉลองกันอย่างคึกคัก เมื่อหุ้นพร้อมใจกันพุ่งกระฉูด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่นิวยอร์ก พุ่งขึ้นกว่า 936 จุด คิดเป็นร้อยละ 11 เป็นสถิติร้อยละที่พุ่งสูงสุดภายในวันเดียวนับจากปีค.ศ.1933 และทำลายสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดตามจุด มากกว่าเมื่อปีค.ศ.2000
เหล่านักลงทุนในวอลสตรีตขานรับมาตรการที่เหล่ารัฐบาลชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจตั้งแผนค้ำยันบรรดาธนาคารของแต่ละประเทศไม่ให้พังครืน โดยในฝั่งยุโรป ทุ่มเงินถึง 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ในการนี้ ส่วนสหรัฐประกาศแผนจะเข้าซื้อหุ้นของธนาคารต่างๆ เช่นกัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลทางจิตวิทยา ทำให้หุ้นของเอเชียและยุโรปดีดตัวขึ้นไปก่อนหน้าแล้ว
สถานการณ์ในตลาดหุ้นวอลสตรีตได้ฤกษ์ฟื้นตัว
หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาดิ่งเหวติดต่อกันมาตลอดสัปดาห์แห่งความย่อยยับในสัปดาห์ก่อน ที่นักลงทุนในตลาดทั่วโลก พากันหวาดผวาภาวะเศรษฐกิจ และไม่เชื่อมั่นในแผนกู้วิกฤตการเงินของรัฐบาลสหรัฐ 7 แสนล้านดอลลาร์ บวกกับสถานการณ์ร่อแร่ของสถาบันการเงินในชาติยักษ์ใหญ่ของยุโรปที่พากันกระอัก กระทั่งในช่วงต้นสัปดาห์นี้ รัฐบาลชาติต่างๆ งัดแผนออกมาสู้วิกฤตโดยพร้อมเพรียงกัน