8 แบงก์เมืองผู้ดีหืดจับใกล้ล้ม ถมทุ่มอีก 32 ล้านล้านดอลล์ ฉีดสภาพคล่อง

"ไอเอ็มเอฟ" ถึงคิวโชว์บทบาทจี้ทั่วโลกขยายสภาพการเงิน ขณะที่กลุ่มประเทศจี 7 เตรียมลดดอกเบี้ย แฮมเบอร์เกอร์ยังพ่นพิษ ทำหุ้นเอเชียรูดระเนระนาด หุ้นไทยปิดตลาดร่วงต่ำกว่า 500 จุดในรอบ5ปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ถึงผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐที่ลามเข้าสู่ทวีปยุโรป ว่า หลังจากได้ยึดธนาคาร 2 แห่งคือนอร์ธเทิร์น ร็อคและแบรดฟอร์ดแอนด์บิงลีย์ มาเป็นของรัฐก่อนหน้านี้ เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตการเงินในสหรัฐ  กระทรวงการคลังอังกฤษ ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือธนาคารในอังกฤษอีก 8 แห่ง ใช้เงินรวม 5 แสนล้านปอนด์ (ประมาณ 32 ล้านล้านบาท) เข้าซื้อหุ้นในธนาคารที่มีปัญหา 5 หมื่นล้านปอนด์ ปล่อยกู้ระยะสั้น 2 แสนล้านปอนด์และการค้ำประกันระหว่างธนาคารอีก 2.5 แสนล้านปอนด์
หืดจับก.คลังอังกฤษถมเงิน 5 หมื่นล้านปอนด์
 
นายอลิสแตร์ ดาร์ลิ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษ ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือธนาคารในอังกฤษอีก 8 แห่ง ใช้เงินรวม 5 แสนล้านปอนด์ (ประมาณ 32 ล้านล้านบาท)

โดยแบ่งเป็นเข้าซื้อหุ้นในธนาคารที่มีปัญหา 5 หมื่นล้านปอนด์ การปล่อยกู้ระยะสั้น 2 แสนล้านปอนด์และการค้ำประกันระหว่างธนาคารอีก 2.5 แสนล้านปอนด์ สำหรับธนาคารที่เข้ารับความช่วยเหลือทั้ง 8 แห่ง ประกอบด้วย 1.รอยัลแบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ 2.เอชเอสบีซี 3.บาร์เคลย์ 4.เอชบีโอเอส 5.ลอยด์ส ทีบีเอส 6.สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด 7.แอ๊บบี้ 8.เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้


เอเอฟพีรายงานว่า นายเบน เบอร์นันกี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) กล่าวต่อที่ประชุมของนักเศรษฐศาสตร์ของภาคธุรกิจที่วอชิงตันเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมว่า

เฟดจำเป็นต้องพิจารณาว่านโยบายปัจจุบันของเฟดยังเหมาะสมหรือไม่ โดยขณะนี้ระบบการเงินในสหรัฐและส่วนใหญ่ของโลกตกอยู่ภายใต้ความเครียดที่ไม่ธรรมดา ตลาดเงินไร้เสถียรภาพอย่างรุนแรง สภาพคล่องในตลาดตึงตัว อีกทั้งราคาสินทรัพย์ตกต่ำลง ซึ่งจะสร้างผลเสียหายต่อเศรษฐกิจในวงกว้างหากว่าปล่อยไว้โดยไม่แก้ไขอะไรเลย

โดยนายเบอร์นันกี้แสดงความมั่นใจว่ามาตรการที่รัฐบาลกำลังดำเนินอยู่นี้จะช่วยผ่อนคลายวิกฤตได้

อีกทั้งเฟด กระทรวงการคลัง และองค์กรอื่นๆ มีพันธะสัญญาที่จะสร้างเสถียรภาพและทำงานให้ระบบการเงินสามารถทำงานต่อไปได้ เพราะได้ใช้หลายมาตรการเข้าประกอบกันแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของสหรัฐจะเซื่องซึมไปจนถึงปีหน้าเพราะความปั่นป่วนของตลาดจะยังส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตามภาพรวมของเงินเฟ้อในขณะนี้ปรับตัวดีขึ้น



เอพีรายงานว่า จากการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการตรวจสอบกำกับและปฏิรูปรัฐบาลของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ พบว่า ไม่กี่วันหลังจากอเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) บริษัทประกันภัยใหญ่ที่สุดในโลกได้รับความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องจากรัฐบาลเป็นเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์

ปรากฏว่าเอไอจีได้ใช้เงินจำนวน 4.4 แสนดอลลาร์สำหรับเป็นค่าพักผ่อนในรีสอร์ตหรูให้กับผู้บริหารของเอไอจี ที่รีสอร์ตหรูทางใต้ของแคลิฟอร์เนีย โดยนายเฮนรี่ แวกซ์แมน ส.ว.แคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ขณะที่คนอเมริกันจำนวนมากกำลังลำบากทางเศรษฐกิจ ทั้งตกงาน เสียบ้านและประกันสุขภาพ แต่ผู้บริหารของเอไอจีที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลด้วยเงินภาษีของประชาชนกลับใช้ชีวิตอย่างสำเริงสำราญ


วันเดียวกัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องให้สมาชิกทั้ง 185 ประเทศแสดงบทบาทอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับวิกฤตการเงินโลกครั้งร้ายแรง

เพราะการแก้ปัญหาเฉพาะประเทศเป็นรายกรณีจะไม่ได้ผลอีกต่อไป จำเป็นต้องมีความร่วมมือระดับนานาชาติด้วยมาตรการที่เข้มข้นเพื่อสร้างความมั่นใจและเสถียรภาพให้กับระบบการเงินโลก นายโดมินิค สเตราส์-คาห์น กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องให้สมาชิกทั้ง 185 ประเทศแสดงบทบาทอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับวิกฤตการเงินโลกครั้งร้ายแรง เพราะการแก้ปัญหาเฉพาะประเทศเป็นรายกรณีจะไม่ได้ผลอีกต่อไป จำเป็นต้องมีความร่วมมือระดับนานาชาติด้วยมาตรการที่เข้มข้นเพื่อสร้างความมั่นใจและเสถียรภาพให้กับระบบการเงินโลก


ขณะเดียวกันไอเอ็มเอฟได้ออกรายงานเสถียรภาพการเงินโลก ซึ่งเตรียมจะเสนอต่อที่ประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟในสัปดาห์หน้า

ระบุว่าหากต้องการให้สินเชื่อภาคเอกชนสามารถเติบโตและเดินหน้าต่อไปได้แม้เพียงเล็กน้อยในขณะที่สถาบันการเงินต้องเพิ่มทุนเพื่อความเข้มแข็งนั้น คาดว่าธนาคารขนาดใหญ่ของทั่วโลกจำเป็นต้องใช้เงิน 6.75 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ดังนั้นจำเป็นที่ทางการของหลายชาติจำเป็นต้องอัดฉีดสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงิน
   

ดัชนีนิกเคอิร่วงลง 952.58 จุด หรือ 9.4% ลดลงวันเดียวมากที่สุดใน 21 ปี

ปิดตลาดที่ 9203.32 จุด ต่ำที่สุดใน 5 ปี ซึ่งเป็นการเทขายตามตลาดหุ้นสหรัฐเนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอย ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาดปรับลง 6.61% หรือ 143.94 จุด หั่งเส็งของฮ่องกงปิดตลาดลดลง  1372.03 จุด หรือ 8.2% ออสเตรเลียปิดตลาดปรับลง 5% ลดลงเป็นต้น ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่าเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ เพราะไม่มีใครรู้ว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นจะสิ้นสุดเมื่อใด ส่วนตลาดหุ้นอินโดนีเซียในช่วงเช้าร่วงลงมากถึง 10.4% ทำให้ทางการสั่งพักการซื้อขายชั่วคราว ทั้งนี้เพราะนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นเพื่อนำเงินกลับไปเสริมสภาพคล่องในประเทศ โดยผู้ขายรายใหญ่ได้แก่เมอร์ริล ลินช์ ยูไนเต็ด โอเวอร์ซี แบงก์,เจพี มอร์แกน ที่เทขายหุ้นบลูชิพในกลุ่มโทรคมนาคม ธนาคารและการผลิต

สำหรับตลาดหลักทรัพย์แหงประเทศไทย ดัชนียังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จากแรงกดดันของวิกฤติการเงินในสหรัฐและการเมืองในประเทศ

โดยดัชนีเปิดตลาดที่ระดับ 517.29 ลดลงทันที 11.42 จุด และปรับลดลงแรงตลอดวัน โดยลดลงต่ำสุดที่ระดับ 483.91 ลดลง 44.80 จุด หรือลดลงกว่า 8% ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาปิดตลาดที่ระดับ 492.34 ลดลง 36.37 จุด หรือ 6.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 17,461.33 ล้านบาท ซึ่งเป็นดัชนีต่ำสุดในรอบ 5 ปี ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3


 


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์