ปัจจุบัน เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตและการติดต่อสื่อสารแบบไร้สาย กลายเป็นวิถีชีวิตอันคุ้นเคยสำหรับประชากรโลกหลายประเทศไปแล้ว
จากเดิม สื่อกลางเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตต้องอาศัยคอมพิวเตอร์เครื่องโต
แต่ขณะนี้พฤติกรรมการท่องอินเตอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ไร้สายขนาดเล็ก เช่น โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน และพีดีเอโฟนทั้งหลาย ยิ่งแพร่หลายขยายตัวกลายเป็นเรื่องธรรมดาๆ มากขึ้นทุกวัน
นีล และเอียน เพียร์สัน นักอนาคตศาสตร์เทคโนโลยีอังกฤษชื่อดังพยากรณ์ ว่า อีกราวๆ 20 ปีนับจากนี้ หรือปีค.ศ.2020 (พ.ศ. 2563) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดพกพาเกินร้อยละ 60 ทั่วโลกจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม "กระแส" หรือ "เทรนด์" ที่จะอุบัติขึ้นอย่างร้อนแรงในเวลาเดียวกัน ก็คือ
ปรากฏการณ์ความแพร่หลายของสินค้าไฮเทคจำพวกที่ลงท้ายด้วยคำว่า "ฉลาด-อัจฉริยะ" โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม "เสื้อผ้าอาภรณ์" และ "อาคารบ้านเรือน" ซึ่งในจำนวนนี้มีบางชนิดวางตลาดจริงๆ แล้ว ตัวอย่างเช่น
ชุดชั้นในตรวจจับชีพจรของบริษัทเท็กซ์ทรอนิกส์ สหรัฐ
เสื้อผ้าซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนจอประมวลผลคอมพิวเตอร์ พัฒนาโดยฟิลิปส์
สินค้าอัจฉริยะครองโลก!
ชุดที่นอนการแพทย์อัจฉริยะ "เอ็มฟิต" ประเทศฟินแลนด์ ที่สามารถตรวจจับสัญญาณชีพ และอาการก่อนชักของผู้ป่วยหรือผู้ที่นอนอยู่บนที่นอน
เสื้ออัจฉริยะของบริษัท "สมาร์ทเท็กซ์" อิตาลี ที่ติดเซ็นเซอร์จับสัญญาณชีพ ตรวจคลื่นหัวใจ และตรวจอุณหภูมิร่างกาย
นอกจากนั้น ยังมีต้นแบบ "ชุดฉลาด" อีกหลายชนิดที่พัฒนาออกมายั่วใจผู้ชื่นชอบก้าวตามเทคโนโลยี อาทิ เสื้อเล่นเพลงเอ็มพี-3 และบิกินี่ติดแผงผลิตพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าป้อนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก
จุดเด่นที่สำคัญของชุดแห่งอนาคตเหล่านี้ แน่นอนว่าต้องมีมีระบบสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไร้สายเชื่อมสัญญาณกับคอมพิวเตอร์อัจฉริยะที่ตั้งอยู่ทั่วทุกมุมบ้าน ทั้งห้องครัว ห้องนอน ห้องรับแขก หรือแม้กระทั่งอาจส่งข้อมูลไปไกลถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์โรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการป่วย