ไม่เลิกก็สึกไปซะ พระพยอม เตือนพระใบ้หวย

ไทยรัฐ

หลังจากสร้างความผิดหวังให้กับบรรดาคอหวยทั้งหลายที่ต่างทุ่มแทงเลขเด็ด 558 และ 41 ของพระเล็ก พระธุดงค์ใบ้หวยที่จำวัดนอนในโลงผีใต้เมรุวัดลาดทิพรส ต.ลาดทิพรส อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ปรากฏว่าผลการออกสลากถูกกินเรียบเจ๊งหมดเนื้อหมดตัวไปตามๆ กัน ส่งผลให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลฟันกำไรมหาศาลถึง 1,000 ล้านบาท จากที่เคยขาดทุนติดต่อกันมา 3 งวด ด้านพระนักใบ้หวยก็ได้ออกมาพูดแก้เก้อระบุว่ามีการล็อกเลขเกิดขึ้น ขณะที่ ผวจ.นครสวรรค์ ได้สั่งให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบว่าเข้าข่ายพฤติกรรมหลอกลวง ประชาชนหรือไม่

ในส่วนของความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพระธุดงค์ใบ้หวย ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (17 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป ที่วัดลาดทิพรส พบว่ายังมีประชาชนเดินทางมาที่วัดลาดทิพรสไม่ขาดสาย แต่ก็บางตากว่าทุกวันอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใหญ่จะมาให้พระเล็กให้ศีลให้พรบนศาลาการเปรียญ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังมาดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ทราบจากกรรมการวัดคนหนึ่งว่า เมื่อคืนพระและกรรมการวัดไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งคืน หลังมีข่าวแพร่ สะพัดออกไปว่าจะมีคนพิจิตรยกขบวนมาถล่มวัด เล่นเอาแตกตื่นวุ่นวายไปหมด สุดท้ายกลายเป็นข่าวลวง และการที่ชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่มากราบไหว้ขอพรพระธุดงค์ก็เพราะยังเลื่อมใสศรัทธา ส่วนเรื่องความผิดพลาดนั้นชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์กองสลากที่อาจไม่มีความโปร่งใสหรือพูดกันง่ายๆว่าเลขล็อก แต่ก็ยืนยันจะติดตามเลขไปเล่นในงวดหน้าเพื่อเสี่ยงแสวงหาโชคลาภต่อไป

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผบก.ภ.จ.นครสวรรค์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชูเกียรติ วงศ์สิทธิการ ผกก.สภ.อ.ตาคลี ร่วมกับ พ.ต.ท.วิริยะบัณฑิต สถิตสุวชาติ รอง ผกก.หน.สภ.ต.จันเสน อ.ตาคลี ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ วัดลาดทิพรส ตรวจสอบพฤติกรรมของพระธุดงค์รูป ดังกล่าว โดย พ.ต.ท.วิริยะบัณฑิตเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ พล.ต.ต.สมพงษ์ทราบแล้ว โดยพฤติกรรมดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายลักษณะกระทำผิดกฎหมายในการหลอกลวงประชาชน แต่ยังไม่มีประจักษ์พยานมายืนยันกล่าวโทษร้องทุกข์ ในชั้นนี้จึงได้แต่งตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว

ด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนในเชิงลึก ถึงแม้พฤติกรรมจะอยู่ในข่ายหลอกลวง แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนที่ชัดเจน เนื่องจากยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความกล่าวโทษ ส่วนเงินที่มีผู้บริจาคให้วัดก็มีประชาชนที่เชื่อถือมาบริจาค ให้วัดสร้างโบสถ์เองและไม่พบว่ามีเหตุการณ์ฉ้อโกงอย่างไร จึงยังไม่สามารถจะดำเนินการอะไรได้มากนัก อยู่ระหว่างการสืบสวน โดยได้หารือกับนายชนินทร์ บัวประเสริฐ ผวจ. นครสวรรค์ อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบ ประวัติของพระเล็ก ทราบว่าเดิมชื่อนายทรงศักดิ์ ธรรมนิติ อายุ 43 ปี อุปสมบทที่วัดป่าธรรมโสภณ อ.เมืองสระบุรี ฉายาทุติสาโร เคยมาพำนักอยู่ที่วัดหน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่จะเรียกกันว่าพระตี๋ โดยหลังจากตำรวจได้เข้านมัสการพระครูสิริภัทรกิจ หรือหลวงพ่อศรี เจ้าอาวาสวัดหน้าพระลาน เจ้าคณะอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ทราบว่า เมื่อประมาณปี 2546 พระตี๋เคยมาอยู่ที่วัดหน้าพระลานและก็มีพฤติกรรมเดียวกัน มักทำพิธีใบ้หวย แต่เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่ใช่กิจของสงฆ์จึงให้ออกจากวัดไป ทราบอีกทีว่ามาอยู่ที่วัดลาดทิพรส และเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลวงพ่อศรียังเดินทางไปดูที่วัดลาดทิพรสเพื่อให้เห็นกับตาและบอกให้พระตี๋ไปหาที่วัดหน้าพระลาน กระทั่งวันรุ่งขึ้นพระตี๋เดินทางมาพบจึงได้ขอร้องให้เลิกทำ แต่พระตี๋ ยังยืนยันว่าจะปฏิบัติต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดหน้าพระลานเพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าวได้รับการยืนยันจากหลวงพ่อศรี เจ้าอาวาส เช่นกันว่าพระตี๋เคยมาจำวัดที่เมรุของวัดจริง แต่ออกจากวัดไปตั้งแต่ปลายปี 2548 นอกจากนี้ ทราบจากพระลูกวัดรูปหนึ่งว่าพระตี๋ยังเคยไปจำพรรษาอยู่ที่วัดปรือพันไถ ต.ช่องลม อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ผู้สื่อข่าวจึงไปที่วัดปรือพันไถและได้พบกับพระอธิการมหาเจ้าอาวาสวัดปรือพันไถ และพระบุญยืน ถาวโร พระลูกวัดที่เคยสนิทสนมคุ้นเคยกับพระตี๋

ทั้งนี้ พระบุญยืนเปิดเผยว่า รู้จักคุ้นเคยกับพระตี๋ โลงศพ ตั้งแต่สมัยที่จำพรรษาอยู่ด้วยกันที่วัดหน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ ก่อนชักชวนกันมาอยู่ที่วัดปรือพันไถ เมื่อกลางปี พ.ศ. 2547 แต่พระตี๋จะไปๆมาๆ ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดปรือพันไถ พระตี๋ไม่นิยมจำวัดในกุฏิ แต่ชอบนอนในโลงศพ หรือตะแกรงในเมรุสำหรับรองเผาโลงศพเป็นประจำ ทำให้ชาวบ้านทราบข่าวพากันเลื่อมใสศรัทธาเดินทางมาขอเลขเด็ดนำไปเสี่ยงโชคมากมาย ช่วงนั้นมีคนถูกกันมาก แต่ตอนหลังไม่แม่นเหมือนเดิม

นายสมาน ตุ้มรักษา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/3 หมู่ 4 ต.ช่องลม อ.ลานกระบือ อดีตลูกศิษย์ของพระตี๋ กล่าวว่า เมื่อครั้งที่พระตี๋ประกอบพิธีกรรมเพื่อหาเลขเด็ดที่วัดปรือพันไถ มักมีปัญหาถูกเจ้าที่รบกวน เนื่องจากวัดแห่งนี้เจ้าที่แรงมากๆ บางครั้งพระตี๋ถึงกับคลุ้มคลั่งเหมือนจะเป็นบ้าจนทนแทบไม่ไหว กระทั่งราวเดือน ก.พ. 2548 พระตี๋ได้บอกกับเจ้าอาวาสว่า จะออกเดินธุดงค์ไปทางภาคอีสาน ทราบอีกทีตอนไปให้หวยเป็นข่าวใหญ่โตโด่งดังที่ ต.ตาคลี แต่หากพระตี๋ ต้องการกลับมาที่วัดปรือพันไถ ทางวัดก็ยินดีต้อนรับ

ด้าน พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยกรณีพระธุดงค์ใบ้หวยออกมา ระบุว่ากองสลากฯล็อกเลขว่า ไม่อยากไปโต้กับท่าน แต่อยากชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนเข้าใจว่า อุปกรณ์ในการออกรางวัลนั้นเป็นพลาสติกทั้งหมด จึงไม่สามารถที่จะนำเทคโนโลยีใดๆมาควบคุมการออกได้ แม้แต่อุปกรณ์ที่สั่งมาจากประเทศสหรัฐฯ ซึ่งใช้ออกรางวัลที่ 2-3 ก็เป็นรุ่นมาตรฐานที่ใช้หลายประเทศทั่วโลก และทุกครั้งตนจะเป็นผู้ตรวจสอบอุปกรณ์ด้วยตัวเองอย่างละเอียด อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้เห็นพร้อมกันทั่วประเทศ สื่อมวลชนเองก็อยู่เป็นสักขีพยาน กล้าท้าให้ พิสูจน์ความโปร่งใสได้ตลอดเวลา ว่าไม่มีการล็อกแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการใช้ ไสยศาสตร์มาตรวจสอบว่าเลขงวดนี้จะออกอะไร ตามที่พระกล่าวอ้าง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกล่าวว่า ประชาชนควรทราบว่า การเสี่ยงโชคนั้น ทุกตัวเลขที่ออกมาล้วนมีโอกาสออกได้เท่าๆกัน เลขท้าย 2 ตัวมีโอกาส 1 ใน 100 เลขท้าย 3 ตัวมีโอกาส 1ใน 1,000 ไม่มีใครไปกำหนด หรือรู้ล่วงหน้าได้ การเสี่ยงโชคอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน แต่ยังยืนยันว่าไม่อยากให้ประชาชนทุ่มซื้อหวยบนดินมากเกินกำลัง ควรซื้อตามความพอดี ต่อข้อถามว่า ขณะนี้หลายฝ่ายเริ่มจับตาพฤติกรรมของพระธุดงค์รูปนี้ ว่าจะเข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ตอบว่า เรื่องนี้พูดอะไรมากไม่ได้ แต่ได้ตรวจสอบข่าวสารทั้งหมดแล้ว และได้เตรียมจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว

ที่ห้องเรนโบว์ฮอล์ ชั้น 17 โรงแรมใบหยกสกาย วันเดียวกัน พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ จากวัดสวนแก้ว กล่าวถึงกรณีที่พระธุดงค์วัดลาดทิพรส อ.ตาคลี ใบ้หวยว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าวบอกว่าต้องการความเงียบความสงบ แต่การใบ้หวยไม่ใช่ความเงียบความสงบ แถมยังท้าบอกให้คอหวยทั้งหลายขายรถเก่าเพื่อซื้อรถใหม่ หรือยกเสาเอกรอ ผลสุดท้ายหวยไม่ออกตามที่ใบ้ไว้ เห็นมาเยอะ แรกๆก็จะพุ่งแรงดี แต่ก็จะดับหรือเสื่อมไปสักวัน อยากฝากถึงพระที่ใบ้หวยว่าให้เลิกได้แล้วจะได้อยู่เป็นพระต่อไป แต่หากไม่เลิกก็ขอให้สึกไปซะ เพราะสิ่งที่ทำไม่ใช่วิถีของพุทธศาสนา และอยากขอร้องและขอเตือนบรรดานักเล่นหวยทั้งหลายว่าอย่าสนับสนุนให้พระให้เจ้ามาใบ้หวย เพราะใบ้แม่นมากๆก็อาจจะทำ ให้พระโดนลูกปืนตาย เพราะเจ้ามือร่วมกันลงขันส่งมือปืนมาเก็บ แต่ถ้าผิดก็โดน ขอยกตัวอย่างเรื่องจริงนานแล้วมีหญิงคนหนึ่งชอบเล่นหวยไปเจอพระใบ้หวยก็เลยขโมยเงินสามีมาเล่น แต่ผิดหมดเนื้อหมดตัวเลยถูกผัวยิงทั้งเมียทั้งพระตายทั้งคู่

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์