50 ร.ร.กรุงโวย เหล้าปั่น โรงนวดล้อม

ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่18 ก.ย. ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนเพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ได้ร่วมกันยื่นสารจากเยาวชนและข้อมูลการสำรวจ เรื่อง “สภาวะมอมเมาเยาวชนรอบสถานศึกษา” ซึ่งเป็นการสำรวจสภาพแวดล้อมแหล่งมอมเมาเด็กนักเรียน ในพื้นที่รอบสถานศึกษาตัวอย่าง 50 โรงเรียน แก่นายสุชาติ วงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษาคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เนื่องจากวันที่ 20 ก.ย. เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ โดยคำร้องขอจากเด็กและเยาวชนดังกล่าวมีเรื่องสำคัญ 5 ข้อ ได้แก่ 1. ขอให้รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้เด็กและเยาวชน ได้ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ 2. ให้สังคมเปิดพื้นที่ให้เด็กในกลุ่มเสี่ยงได้มีโอกาสแสดงออก 3. สนับสนุนงบประมาณให้เด็กและเยาวชนได้ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ 4. เรียกร้องให้ผู้ใหญ่ปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชน และ 5. ให้กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายโรงเรียนปลอดเหล้า 100 เปอร์เซ็นต์ 


หลังการรับข้อร้องขอ นายสุชาติกล่าวว่า สพฐ. ได้ตระหนักต่อปัญหา โดยเฉพาะเรื่องสุราและแหล่งอบายมุข ที่อยู่ใกล้สถานศึกษาอยู่แล้ว

โดยในบางโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ ก็ตรงกับข้อเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายเยาวชนฯ กำลังผลักดันขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมและขยายผลให้มากขึ้น โดยสิ่งที่ทำไปบ้างแล้ว คือ การจัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ เรื่องสารเสพติดให้โทษกับนักเรียนอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันเบื้องต้น การตัดสินใจเป็นนักดื่มหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละบุคคล จากสถิติของ สพฐ.พบว่านักเรียนในการดูแล 6-7 ล้านคนทั่วประเทศ มีเด็กที่สูบบุหรี่และกินเหล้า 2.04 เปอร์เซ็นต์ เรื่องนี้จึงเป็นหน้าที่ของ สพฐ.ที่กำลังเฝ้าระวัง ขณะนี้ก็มีการจัดกิจกรรมและเปิดเวทีให้เด็กนักเรียนได้แสดงออกในทางที่สร้างสรรค์ 


ที่ปรึกษา สพฐ. กล่าวอีกว่า ข้อมูลการสำรวจของกลุ่มเครือข่ายเยาวชนฯเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมาก ตนจะบันทึกเสนอคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

พร้อมทั้งจะเสนอให้ สถานศึกษาในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศ สำรวจบริเวณโดยรอบสถานศึกษาของตัวเองว่า มีแหล่งมอมเมายั่วยุเยาวชน นักเรียน นักศึกษาหรือไม่ โดยอาจจะให้เริ่มดำเนินการกับโรงเรียนมัธยมศึกษาก่อนเพราะส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตพื้นที่ตัวเมือง ซึ่งถือเป็นเป้าหมายของผู้ประกอบการต่างๆ เมื่อแต่ละโรงเรียนได้ข้อมูลมาแล้ว ให้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาและสมาคมผู้ปกครอง เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข เพราะหากให้โรงเรียนเป็นผู้เข้าไปแก้ปัญหาเหล่านี้เอง อาจจะได้รับผลกระทบตามมา เพราะผู้ประกอบการในรูปแบบเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะมีอิทธิพลกันทั้งนั้น หากภายในสถานศึกษา ครู อาจารย์สามารถกล่อมเกลา ดูแลเด็กได้ ประกอบกับโดยรอบสถานศึกษา ไม่มีสิ่งยั่วยุมอมเมา ก็เชื่อว่าเด็กจะไม่ตกเข้าไปสู่วังวนของอบายมุข 


นายเจกะพันธ์ พรหมมงคล หัวหน้าผู้สำรวจข้อมูล ยังได้แถลงถึงผลสำรวจ “แหล่งมอมเมารอบรัศมี 500 เมตรที่โรงเรียน 50 แห่งในเขต กทม.”

ว่า การสำรวจในครั้งนี้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 2-12 ก.ย.2551 จากข้อมูลพบว่า มีแหล่งมอมเมายั่วยุเยาวชน อยู่ใกล้สถานศึกษาทั้งหมด 7 ประเภท ได้แก่ ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้านอินเตอร์เน็ตประเภทเกม ซึ่งขายเหล้าพ่วงด้วย ร้านชำหรือมินิมาร์ทที่เปิดขายเหล้า บุหรี่ และร้านคาราโอเกะ การสำรวจสามารถแบ่งกลุ่มโรงเรียนเป็น 3 โซน คือ Red Zone จะเป็นกลุ่มโรงเรียนที่มีร้านเหล้า ผับ บาร์ อาบอบนวด ร้านเกมในรัศมีไม่เกิน 200 เมตร และตั้งอยู่อย่างหนาแน่น ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนดัง ที่ได้รับความนิยม Yellow Zone เป็นกลุ่มโรงเรียนขนาดกลางที่มีสถานที่อบายมุขหนาแน่นรองลงมา และอยู่ในรัศมี 200-500 เมตร สุดท้ายคือกลุ่ม Green Zone ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก หรือเป็นโรงเรียนพิเศษ (สอนคนพิการ) มิใช่เป้าหมายของผู้ประกอบการ 


น.ส.มณทิพย์ หลินธารา นักเรียนชั้น ม.6 ร.ร.ศึกษานารี เยาวชนอาสาสมัคร Youth Ranger กล่าวว่า มีร้านขายเหล้าที่อยู่ใกล้โรงเรียนในรัศมี 500 เมตร 34 แห่ง

ร้านเกมในรัศมี 500 เมตร 31 แห่ง แผ่นโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้โรงเรียน 24 แห่ง มีร้านชำที่ขายเหล้า บุหรี่ให้นักเรียน 29 แห่ง คิดเป็นทั้งหมดอยู่ในกลุ่มโรงเรียน 50 แห่งในเขต กทม. จากการจัดอันดับโรงเรียนที่มีแหล่งมอมเมามากที่สุด 5 แห่ง คือ ร.ร.สายน้ำทิพย์ 27 แห่ง ร.ร.ศรีอยุธยา 15 แห่ง ร.ร.สตรีวิทยา 2 มี 12 แห่ง ร.ร.บ้านหนองบอน ร.ร.เทพลีลา มี 7 แห่ง และ ร.ร.สายน้ำผึ้ง 6 แห่ง โดยโรงเรียนที่อยู่ในกลุ่ม Red Zone มีทั้งร้านเหล้าปั่น ยาดอง มีป้ายโฆษณาเหล้า ที่พบใกล้สุดที่ห่างจากโรงเรียนเพียง 1 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีอาบอบนวด ที่อยู่ใกล้โรงเรียนมากด้วย ส่วนใหญ่รายชื่อ ของกลุ่มนี้จะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่เป็นโรงเรียนดัง ได้รับความนิยม เรียกว่ายิ่งดังยิ่งมีร้านเหล้ามาก มีจำนวน 34 แห่ง ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียนหอวัง สายน้ำทิพย์ สายน้ำผึ้ง มัธยมดุสิตาราม เป็นต้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์