สภาพัฒน์เตือนแมงเม่าให้มีสติ คิดเก็งกำไรราคาทอง

วันนี้ (14 ก.ย.) นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

เปิดเผยถึงกรณีที่ประชาชนโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่เข้าไปเก็งกำไรในช่วงที่ราคาทองคำลดลงขณะนี้ โดยเตือนว่าต้องมีสติและยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้มากที่สุด ต้องใช้ความรู้ ศึกษาข้อมูลวิเคราะห์การลงทุนให้ถี่ถ้วน เพราะอาจทำให้เกิดความเดือดร้อนในภายหลัง ยกเว้นผู้ที่มีฐานะดีมีเงินทุนมากมีสายป่านยาว รวมถึงนักธุรกิจที่ทำธุรกิจด้านทองคำอยู่แล้วที่สามารถเข้าไปซื้อเพื่อการลงทุน หรือผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากเงินออม เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเป็นไปตามการเก็งกำไรของราคาน้ำมัน เมื่อราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นจึงทำให้สินค้าเช่น เหล็ก ทองคำ มีราคาพุ่งสูงตามไปด้วย เพราะคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงตามราคาน้ำมัน ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจที่จะถือเงินสดไว้จึงหันไปเก็งกำไรในทองคำจึงมีราคาสูงขึ้นมาโดยตลอด

ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันดิบในต่างประเทศได้ปรับลดลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาทองคำลดลงตามไปด้วย และไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าราคาน้ำมันจะปรับลดลงอยู่ในช่วงใด
 
"ขอเตือนประชาชนรายย่อยที่เข้าไปซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรใช้สติให้มาก ๆ เพราะเป็นเรื่องที่เสี่ยง หากเป็นกลุ่มประชาชนที่ไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนแล้วอาจทำให้เกิดความเดือดร้อนตามมาภายหลังได้ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบ เพื่อหวังกินส่วนต่างหรือกำไรจากการเข้ามาลงทุนในตลาดทองคำ โดยไม่มีข้อมูลจะนำไปสู่หายนะได้" นายอำพน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาทองคำได้ลดลงมาร้อยละ 20 จากจุดสูงสุดเมื่อเดือน มี.ค. 2551 ที่ขึ้นไปสูงสุดที่ 1,002.80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ และราคาต่ำสุดอยู่ที่ 784.75 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. และปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 830 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์