สมิทธยันกทม.7เขตมีโอกาสจะเกิดสตอมเซิร์จ

ปธ.อำนวยการ เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ยันมีโอกาสเกิดสตอมเซิร์จ 7 เขตในกทม. อุตุฯเหนือ เตือน 11 จ. รับมือน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก ระบุ 4 อ.จ.เชียงใหม่เสี่ยงภัยน้ำป่า ผอ.ศูนย์ฯ สั่งรายงานทุกชั่วโมงหลังอ.เชียงดาวฝนตกหนัก

(13ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ยืนพูดระหว่างการสัมมนาภัยพายุคลื่นยักษ์ สตอมเซิร์จ ที่มหาวิทยาลัยธนบุรี เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมล้มลง สร้างความตื่นตกใจให้ผู้ร่วมสัมมนา เจ้าหน้าที่ต้องเข้าประคองและนำยาดมให้นายสมิทธ ทำให้การแถลงข่าวหลังจากการบรรยายต้องถูกยกเลิกกะทันหัน

อย่างไรก็ตาม การสัมมนาวันนี้ นายสมิทธและนักวิชาการเชื่อว่าประเทศไทยมีโอกาสเกิดพายุคลื่นยักษ์จากปรากฏการณ์สตอมเซิร์จ ซึ่งในส่วนของกรุงเทพมหานครมี 7 เขต ที่มีโอกาสถูกโจมตีโดยสตอมเซิร์จ คือบางขุนเทียน ทุ่งครุ ราชบูรณะ บางบอน จอมทอง บางแค และหนองแขม จึงควรหาเร่งหาแนวทางป้องกันภัยโดยด่วน

สำหรับพายุคลื่นยักษ์หรือปรากฏการณ์สตอมเซิร์จ เป็นคลื่นที่เกิดขึ้นพร้อมพายุหมุนโซนร้อน ที่ยกระดับน้ำทะเลสูงขึ้นกว่าปกติ ขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวผ่านทะเลใกล้ชายฝั่ง เปิดเป็นแรงกดยกระดับน้ำจนกลายเป็นโดมน้ำขนาดใหญ่เคลื่อนตัวซัดเข้าหาชายฝั่ง

นายวรพจน์ คุณาวิฒนางกูล นักอุตุนิยมวิทยา ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า จากร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเแยงเหนือของประเทศไทยเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้เกิดฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักมากในบางพื้นที่ จึงออกประกาศฉบับที่ 3 (16/2551) เรื่องฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเกิดจากร่องความกด

ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งจ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และพิจิตร ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 13-14 ก.ย. ทั้งนี้ในส่วนจังหวัดเชียงใหม่เองพื้นที่ทางตอนบนในอ.ฝาง แม่อาย ไชยปราการ และเชียงดาว ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

นายธาดา สุขะปุณพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ระดับน้ำแม่จ้ำปิงที่จุด P1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ระดบน้ำยังอยู่ในเกณฑ์ปกติที่ระดับ 150 ลบ.ม. จากความจุที่รองรับปริมาณน้ำได้สูงสุด 400 ลบ.ม. ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมาพบว่าบริเวณอ.เชียงดาว มีฝนตกลงมาจำนวน 35 มิลลิเมตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ตกหนัก ส่วนอ.เวียงแหง ปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ 7-8 มิลลิเมตรเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ต้องมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะฝนที่ตกส่วนมากจะอยู่ทางด้านเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ในอ.ฝาง แม่อาย ไชยปรากาศ และเชียงดาว โดยจะต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 2 วัน ตามประกาศของศูนย์อุตุนิยมวิทยา ทั้งนี้ ในส่วนของระดับน้ำปิงยังถือว่าไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด

ด้านนายคำพัน บุตรราช หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาเลย กล่าวว่า สภาวะอากาศทั่วไปเวลา 04.00 วันที่ 13 ก.ย.ร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย

โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเลยกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมาและอุบลราชธานี ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย จังหวัดเลยมีฝนตกต่อเนื่องมาหลายวันโดยเฉพาะวันที่ 11-12 ก.ย.51 มี ฝนตกหนัก ถึงหนักมากหลายพื้นที่ เช่น ที่ -,อ.เชียงคาน ,อ.ภูหลวงวง อ.วังสะพุง 54.1และฝนตกหนักมากที่-โดยเฉพาะที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง วัดได้วันที่ 11 ก.ย.51 ได้ 127.5 มม.และวันที่ 12 ก.ย.51 วัดได้ 145.5 มม.อันเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ต้นแม่น้ำเลยแม่น้ำสายหลักของจังหวัดเลย

ตลอดสัปดาห์นี้จังหวัดเลยจะมีฝนตกชุกหนาแน่น และหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยที่ราบเชิงเขาและภูเขาให้ระมัดระวังอันตรายจากดินโคลนถล่มและบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเลยและ ลุ่มน้ำสาขาต่าง ๆ ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์