หน.อุทยานฯสั่งห้ามปชช.ลงเล่นน้ำตก-งดเดินป่า

หัวหน้าอุทยานฯเขาใหญ ประกาศห้ามประชาชนลงเล่นน้ำตก-งดออกเดินป่า ในระยะนี้ ผู้ว่าฯยันสถานการณ์จ.ปราจีนบุรี ไม่น่าห่วง ด้านนายอำเภอภูหลวง จ.เลย สั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

(13ก.ย.) นายณรงค์ มหรรณพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ภาวะฝนตกต่อเนื่อง น้ำป่าหลายพื้นที่ด้านล่างรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้น ตนได้ประกาศแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวระวังดิน-หินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะดินถล่มด้านฝั่งทางขึ้นศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ที่เกิดบ่อยครั้ง อดีตเคยมีต้นไม้ใหญ่ล้มทับสายไฟฟ้า กระชากเสาไฟล้มทับรถยนต์ บริเวณสูงชันทางขึ้นฝั่งอ.ปากช่อง จ.นครราช สี มา ที่ริมทางขึ้นมีต้นไม้ใหญ่ และบริเวณด้านผากล้วยไม้ ที่อาจเกิดอันตรายได้ ขณะเดียวกันได้สั่งห้ามลงเล่นน้ำตกทุกแห่งในทุกเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อป้องกันภัยน้ำป่าไหลหลากอันอาจเกิดขึ้น ที่จะเป็นอันตรายได้ รวมถึงงดการเดินป่าอีกด้วย

ด้านนายวินัย จงวัฒนบัณฑิต นายอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า น้ำป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน-อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านบุพราหม์ หมู่ 3 และหมู่บ้านทับลานหมู่ 10 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ที่เป็นหมู่บ้านระหว่างอุทยานแห่งชาติ 2 แห่งนั้น ฝนยังตกต่อเนื่องน้ำฝนใหม่กับน้ำป่าเดิมได้หลากรวมกันเพิ่มปริมาณมากขึ้น ในพื้นที่ด้านล่างที่ต่ำกว่า สถานการณ์ที่หมู่ 10 ยังน่าเป็นห่วง

“สถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ไม่เป็นภาวะวิกฤตเป็นน้ำป่าไหลหลากปกติ แต่ทางราชการไม่นิ่งนอนใจได้ลงพื้นที่ต่อเนื่องดูแลประชาชนพร้อมสั่งการณ์ให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ติดตามสถานกรณ์และรายงานอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ไม่กระทบการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการล่องแก่งหินเพิง อ.นาดีแต่อย่างใด ยังสามารถท่องเที่ยวได้ปกติ” นายวินัย กล่าวในที่สุด

ขณะที่นางพรรณี แก่นสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า ภาวะน้ำป่าไหลหลากพื้นที่ ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ไม่มีวิกฤต ที่ผ่านมาได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในการเตรียมตัวป้องกันปฎิบัติตนเมื่อเกิดอุทกภัย

ด้านนายนพพร ชัยพิชิต ผอ.ส่วนจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา สำนักชลประทานที่ 10 ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในจัง หวัดลพบุรี เผยว่า น้ำที่หลากลงมาจากเทือกเขาต่างๆที่ไหลลงมาจากอำเภอโคกสำโรง มาถึงอำเภอบ้านหมี่ และ เขตอำเภอเมืองลพบุรี คาดว่าน้ำมีปริมาณ100 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ที่ยังทรงตัวและเพิ่มขึ้นสูงบางแห่ง ทำให้ต้องเร่งแก้ปัญหาในการระบายน้ำลงคลองชลประทานอย่างเร่งด่วน

“ สำหรับน้ำที่มาและไหลลงมาที่เขตตำบลบ้านกล้วย อำเภอบ้านหมี่ ทางสำนักชลประทาน 10 ตัดสินใจพังคันคลอง ข้างบ้าน นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน เพราะต้องการที่จะระบายน้ำลงคลองชลประทาน ให้รวดเร็ว ส่วนที่ตำบลหนองทรายขาว ทางชลประทาน ก็พังคันคลองเพื่อทำการเร่งระบายน้ำ เพราะน้ำจากเทือกเขามาเร็วและแรง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรจำนวนมาก ”

นายนพพร กล่าวอีกว่า สำหรับในเขตเทศบาลตำบลถนนใหญ่ โดยเฉพาะหมู่บ้านสิรัญญา ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่มีราษฎรที่เป็นข้าราชการและพ่อค้า ประชาชนไม่ต่ำกว่า 4,000 ครอบครัว ที่กำลังจมอยู่ใต้น้ำ และน้ำยังสูงขึ้น ทางชลประทานได้ระดมเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยกว่า 20 เครื่อง เป็นเครื่องขนาด 8 “ และ 12 “

ส่วนเครื่องที่สูบน้ำ ที่สูบได้นาทีละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร จำนวน 4 เครื่อง จะติดตั้งเร่งสูบช่วยในคืนวันที่ 13 กันยายน ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยลดระดับน้ำลงบ้าง

“ น้ำท่วมครั้งนี้แผ่กระจายเป็นวงกว้าง ทางสำนักชลประทานที่ 10 คาดว่ากินบริเวนกว้างประมาณ 100,000 ไร่ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก ส่วนบนถนนพหลโยธิน ตลอดเส้นทางจากลพบุรีถึงอำเภอโคกสำโรง ระทางยาว 35 ก.ม.ทางแขวงการทางได้สั่งให้ขุดเกาะกลางถนน เพื่อเร่งระบายน้ำ เพราะบางแห่งน้ำยังสูงมากถึง 60-80 ซ.ม. โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองเขาสามยอด เทศบาลตำบลเขาพระงาม ที่น้ำท่วมสูงมาก ” นายนพพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำท่วมครั้งนี้มีผลกระทบอย่างมากกับโรงเรียนต่างๆ เช่นโรงเรียนพระนารายณ์ โรงเรียน เมืองใหม่ โรงเรียนชุบศร โรงเรียนช่างกลละโว้ โรงเรียนโคกกะเทียม โรงเรียนวัดถนนใหญ่ โรงเรียนกองบิน 2 โรงเรียนวัดเขาพระงาม โรงเรียนศูนย์การบินทหารบก โรงเรียนวัดดงสวอง ในเขตอำเภอเมืองลพบุรี ที่อาจจะต้องหยุดในวันจันทร์ที่ 15 กันยายน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้อำนวยการแต่ละโรงเรียนต่อไป

ขณะที่นายโสภณ สุวรรณรัตน์ นายอำเภอภูหลวง จ.เลย กล่าวว่า สถานการณ์แม่น้ำเลยวันนี้น้ำป่าที่ไหลลงจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูกลวง หลังจากที่เกิดจากฝนที่ตกติดต่อมา 2-3 วัน โดยได้รับรายงานระดับน้ำแม่น้ำเลย ด้านตำบลเลยวังใสย์ ซึ่งเป็นต้นน้ำเลยขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ได้สั่งการไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ที่อยู่ติดแม่น้ำเลย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและมิสเตอร์เตือนภัยประจำพื้นที่ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ช.ม. โดยเฉพาะตำบลเลยวังใสย์ ซึ่งเป็นพื้นที่อันตราย ที่เกิดภัยน้ำท่วมฉับพลันจนบ้านเรือนเสียหายมาแล้ว โดยให้ระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากน้ำจากภูหลวง ยังทะลักลงมาอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระยะเวลา 2 -3 วัน ที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักในหลายอำเภอ เช่น อ.ภูกระดึง นาแห้ว ด่านซ้าย ภูเรือ วังสะพุง และ อ.ภูหลวง ซึ่งอำเภอเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นภูเขา โดยเฉพาะอ.ภูหลวง อ.วังสะพุง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูกลวง เช้าวันที่ 13 ก.ย.เวลา 05.00 น. น้ำป่าจากแม่น้ำสาขา ทะลักลงสู่แม่น้ำเลย ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของจ.เลย ในหลายอำเภอลงสู่แม่น้ำโขง ระดับน้ำสูงขึ้นรวดเร็ว โดยเมื่อเวลา 15.00 น.น้ำในแม่น้ำเลย ล้นท่วมคอสะพาน แต่รถยนต์ยังสามารถผ่านไปมาได้ โดยระดับน้ำสูงขึ้นชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์