พิษประท้วงการบินไทยอ่วม ผู้โดยสารเอเชียวูบ25%

เรืออากาศโท อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการอำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)

ที่มีนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน วันนี้ (10 ก.ย.)  ว่า จากการที่ประเทศไทยเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น มีการปิดล้อมสนามบินหลายแห่งภายในประเทศ รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นจนทำให้หลายประเทศได้ออกคำเตือนห้ามประชาชนเดินทางมายังประเทศไทยนั้นส่งผลให้ขณะนี้มีผู้โดยสารของการบินไทยลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะผู้โดยสารจากประเทศแถบเอเชีย คือ  สาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลี ญี่ปุ่น นั้นอัตราความจุ (Cabin Factor) ในช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมาพบ ว่าลดลงเหลือร้อยละ 60 จากเดิมของปีที่แล้วที่จะอยู่ที่ ร้อยละ 75-85 หรือลดลงประมาณร้อยละ 20 ส่วนผู้โดยสารจากยุโรปลดลงเพียงร้อยละ 5 -10 เท่านั้น ขณะที่เที่ยวบินภายในประเทศไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก 
 

กรรมการอำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า หากสถานการณ์ความไม่สงบยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อทั้งรายได้และกำไรทั้งปีของการบินไทยอย่างแน่นอน

แม้ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันจะดีขึ้น เพราะทั่วโลกมีการปรับราคาน้ำมันลงแล้วก็ตาม แต่จากปัญหาภายในของประเทศไทยเองกลับมีผลกระทบอย่างมากต่อผลประกอบการของการบินไทย เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะนี้การบินไทยจึงจำเป็นต้องปรับลดเที่ยวบินลงในบางเส้นทาง ปรับลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางในแต่ละเที่ยวบิน รวมถึงการปรับตารางเที่ยวบินในช่วงฤดูหนาว โดยต้องให้แล้วเสร็จภายใน
22 ต.ค.นี้  การดำเนินการดังกล่าวนั้นถือเป็นการปรับเพื่อลดค่าใช้จ่ายในแต่ละเที่ยวบินให้ได้มากที่สุด 
 

"ยอมรับว่าสถานการณ์ขณะนี้ของการบินไทยน่าเป็นห่วงมาก เพราะปกติแล้วในช่วงของฤดูกาลท่องเที่ยวจะต้องมีผู้โดยสารเข้ามากว่าร้อยละ 75-80 ที่ผ่านมาการบินไทยก็พยายามลดเที่ยวบินลง เพราะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น แต่ปัจจุบันการบินไทยไม่ได้มีผลกระทบจากราคาน้ำมัน แต่กลับมีปัญหาเรื่องความไม่ปลอดภัยภายในประเทศ และมีผลกระทบต่อผลประกอบการของการบินไทยมากกว่าช่วงที่มีรัฐประหารที่แทบจะไม่มีผลต่อการบินไทยเลย ขณะที่เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลอย่างมากต่อการบินไทย คาดว่าทั้งปีอัตราความจุผู้โดยสารจะไม่ถึงร้อยละ 76"
กรรมการอำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์