การเมืองตีกัน ทำเอาผัวเมียบางคู่ถึงขั้นหย่าเพราะคิดเห็นไม่ลงรอย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ การเมืองตีกัน ทำเอาผัวเมียบางคู่ถึงขั้นหย่าเพราะคิดเห็นไม่ลงรอย
การเมืองตีกัน ทำเอาผัวเมียบางคู่ถึงขั้นหย่า เพราะคิดเห็นไม่ลงรอยในสถานการณ์บ้านเมืองแตกต่างกัน
คำแนะนำจากนักจิตวิทยา ให้คลายความเครียดในการเสพข่าวสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะผู้ร่วมชุมชนต้องรู้จักผ่อนคลายและขยับกายบ้าง มีแล้วคู่สามีภรรยาถึงขั้นหย่าร้างเพราะความคิดเห็นทางการเมืองไม่ลงรอยกัน ดร.จิตรา ดุษฏีเมธา ประธานโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงเหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่าคนไทยมีความเครียดสะสมอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุที่เราซึมซับรับรู้ข่าวสารข้อมูลที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองอย่างไม่รู้ตัว และเมื่อไหร่ที่เหตุการณ์บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงรายวันก็จะยิ่งส่งผลต่อความเครียดอย่างเห็นได้ชัด แม้บางวันเหตุการณ์อาจจะดูนิ่งๆ ผู้คนก็ยังระแวงอีกว่าตกลงแล้วเหตุการณ์มันจะมีทางออกอย่างไร
ความเครียดในขณะนี้จึงเป็นลักษณะเกิดขึ้นกับตัวเองและเกิดเป็นความระแวง วิตกกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับบ้านเมืองหรือไม่
ความเครียดจะสะสมอยู่ในจิตใจของคนไทยทุกคนแต่ขึ้นอยู่ที่ว่าคนไหนหมกมุ่นกับการติดตามข่าวสารบ้านเมืองมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้คนที่จริงจังกับชีวิตก็จะเครียดง่ายและเมื่อไหร่ที่กลุ่มคนกลุ่มนี้ติดตามและสนใจเหตุการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่เขาก็จะเครียดมากกว่ากลุ่มคนกลุ่มอื่นๆ
“อยากให้เฝ้าสังเกตตัวเองว่าถ้าเราเกิดความเครียดแล้วมีอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ หรือมีอาการปวดหัว ความดันโลหิตสูงขึ้น มีการซึมเศร้า หมดอาลัยต่อชีวิต มองโลกในแง่ร้าย ส่วนอารมณ์จะมีอาการหงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย ความคิดจะคิดเรื่องเดียวคือการเมือง พูดคุยก็จะมุ่งไปเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องการเมือง บางคนเปิดโทรทัศน์ก็จะดูแต่ข่าวการเมืองเพียงอย่างเดียว เปิดดูรายการเดียว สถานีโทรทัศน์ช่องเดียว เวลาดูก็ไม่ได้ดูเพียงอย่างเดียว แต่จะมีอารมณ์ร่วมไปด้วยทุกครั้งถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าคนๆ นั้นกำลังเครียดและเป็นความเครียดสะสมเพิ่มขึ้นๆ
การหมกมุ่นติดตามสถานการณ์บ้านเมืองแบบไม่รู้จักปลดปล่อยตัวเองนั้น อาจส่งผลถึงความบาดหมางขึ้นในครอบครัว สามีภรรยาบางคู่ทะเลาะกันเพียงเพื่อให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเลือกข้างสนับสนุนทางการเมือง บางคู่ถึงขั้นหย่าร้างเพราะไม่ยอมกัน นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องบางครอบครัวเริ่มเสียไป บางครอบครัวพ่อ แม่ ลูกทะเลาะกันเองเพราะสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แม้เราจะพูดว่าความคิดที่แตกต่างสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ก็ตาม แต่เมื่อไหร่ที่ความคิดเห็นของแต่ละคนมันยึดติด ยึดขั้ว ยึดข้าง ยึดฝ่ายอย่างชัดเจนแล้ว มันจึงไม่อาจจะแลกเปลี่ยนกันได้อีกต่อไป”
ดร.จิตรา แนะนำว่า เราต้องรู้จักผ่อนคลายการรับข่าวสารข้อมูลลงบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ปิดหูปิดตาไม่สนใจข่าวสาร
แต่อยากให้รับข่าวสารบางช่วง หรืออาจจะดูข่าวเพียงวันละไม่เกิด 2 เวลา ดูข่าวเช้าข่าวเย็นก็เพียงพอแล้ว หรืออาจจะติดตามข่าวสารที่ส่งมาทางมือถือ บางคนขณะทำงานก็แต่โทรพูดคุยติดตามข่าวสารบ้านเมืองจนไม่เป็นอันทำงาน อยากบอกว่าไม่ว่าบ้านเมืองจะมีทางออกอย่างไร เราต้องบอกกับตัวเองว่าชีวิตเราต้องอยู่ให้ได้ ต้องทำให้ชีวิตมีความสุขในสถานการณ์ที่มันอาจจะแปรเปลี่ยนได้ ต้องรู้จักปรับชีวิตให้ผ่อนคลาย ต้องรู้จักเปลี่ยนกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ไปทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชุมชนควรจะเปลี่ยนกิจกรรม ลุกขึ้นขยับร่างกายบ้าง อย่าเอาแต่นั่งชุมชนเป็นเวลานานๆ เพราะระบบโลหิตในร่างกายอาจติดขัดได้ และจะทำให้เกิดความเครียดคั่งค้างขึ้นในจิตใจเพิ่มขึ้น ความเครียดมันจะค้างอยู่ในร่างกาย อารมณ์ จิตใจและจิดวิญญาณจนยากจะสลัดมันออกได้