ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงทันทีที่เปิดทำการซื้อขายในช่วงเช้า ซึ่งปรับตัวลงแรงถึง 14.93 จุด หลังนักลงทุนเกิดความวิตกกังวล กรณีเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายและการปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ และนปก.จนทำให้รัฐบาลต้องประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์ ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นไทยเพื่อลดความเสี่ยง หลังจากนั้นดัชนีเริ่มฟื้นตัวได้เล็กน้อย จนล่าสุด ณเวลา 10.36 น. ดัชนีอยู่ที่ 663.60 จุด ลดลง 11.62 จุด หรือ 1.72% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,164.04 ล้านบาท
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า
ตลท.ได้ประสานงานกับผู้บริหารตั้งแต่ช่วง 7.00 น.หลังทราบว่ารัฐบาลได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้เรียนปรึกษากับ นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานตลท. เพื่อเรียกประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)ตลาด หากมีความจำเป็น
อย่างไรก็ตามตลาดฯยังเปิดซื้อขายตามปกติ โดยดัชนีปรับลดลง 14 จุด หรือประมาณ 2% ก่อนจะดีดตัวขึ้นเล็กน้อย ปรับลดในระดับ 12 จุด ซึ่งเป็นการปลี่ยนแปลงในระดับไม่รุนแรง ทั้งนี้หากดัชนีปรับลดลงเกิน 10% ตลาดก็จะทำการเซอร์กิต เบรกเกอร์ หยุดการซื้อขาย 30 นาทีโดยอัตโนมัติ แต่ขณะนี้ตลาดยังลงไม่ถึงระดับนั้น
สำหรับนักลงทุนรายย่อยนั้น ขอให้ติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด ทั้งจากสื่อ และข้อมูลจากโบรกเกอร์ เพื่อให้ทราบพื้นฐานสถานการณ์ ให้นักลงทุนตัดสินใจให้รอบคอบก่อนการลงทุน