เมื่อวันที่ 1 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า ระหว่างที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลของรัสเซียวัย 55 ปี เดินเกมเผชิญหน้ากับชาติตะวันตกในกรณีจอร์เจีย มีภาพข่าวเผยแพร่ออกมาว่า ปูตินสวมบทฮีโร่ คว้าปืนยิงเสือโคร่งช่วยชีวิตนักข่าว
สำนักข่าวเอบีซีของสหรัฐรายงานว่า นายปูตินปลีกเวลาจากการแก้ปัญหาความขัดแย้งกับจอร์เจียและชาติตะวันตก เดินทางเยี่ยมชมการทำงานอนุรักษ์เสือโคร่งไซบีเรียของนักวิจัยในอุทยานแห่งชาติอูสซูริสกี ทางภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 31 ส.ค. เพื่อขอบคุณนักวิจัยชาวอเมริกันและจากยุโรปที่มาช่วยอนุรักษ์เสือโคร่งไซบีเรีย สัตว์ในกลุ่มใกล้สูญพันธุ์ เมื่อนายปูติน นักวิจัย และกลุ่มนักข่าว เข้าไปถึงจุดกักขังเสือโคร่งไซบีเรีย เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเสือโคร่งตัวหนึ่ง น้ำหนักเกือบ 500 กิโลกรัมหลุดจากที่ล่าม และวิ่งตรงไปหาช่างภาพโทรทัศน์ ทำให้ปูตินคว้าปืนยิงยาสลบขึ้นมายิงใส่เสือตัวดังกล่าวจนล้มลง ต่อมา ปูตินกับเจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำปลอกคอติดระบบติดตามพิกัดผ่านดาวเทียม (จีพีเอส) ผูกที่คอเสือ เพื่อเตรียมปล่อยไปอยู่ตามธรรมชาติต่อไป
เมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่นายปูตินยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียเคยเรียกเสียงฮือฮาไปทั่วประเทศ
หลังจากเดินทางไปตกปลาที่แม่น้ำเยนิเซ และถอดเสื้อโชว์มัดกล้ามแข็งแรงบึกบึน ซึ่งนักวิเคราะห์การเมืองเชื่อว่าปูตินตั้งใจทำเช่นนั้นเพื่อให้สังคมเห็นว่ายังคงแข็งแรงอยู่ แม้อายุจะมากขึ้น
สำหรับสถานการณ์เผชิญหน้ากับชาติตะวันตก ปูตินมีท่าทีลดความแข็งกร้าวลงกับยุโรป โดยกล่าวว่าไม่ได้ต้องการเผชิญหน้าหรือถูกมาตรการลงโทษจากสหภาพยุโรป หรืออียู ที่เปิดประชุมหารือกันในวันจันทร์
เพียงขอยืนกรานว่ารัสเซียทำถูกต้องแล้วในกรณีส่งทหารเข้าไปในแคว้น 2 แห่งที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนจากจอร์เจีย นอกจากนี้ยังเสนอกับยุโรปว่า รัสเซียไม่มีนโยบายจำกัดการส่งพลังงานน้ำมันและก๊าซให้ยุโรป ทั้งยังกระตุ้นให้เปิดตลาดมากยิ่งขึ้น และว่ายุโรปไม่ควรต้องไปสนองนโยบายของชาติอื่น ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า นายปูตินหมายถึงสหรัฐอเมริกา