พระปรีชามากล้น ไทม์สดุดี เทิดพระเกียรติ

เจ้าชายเฮนริกเสด็จฯ กรุงเก่า



โดยเวลา 09.00 น. วานนี้ (13 มิ.ย.) เจ้าชายเฮนริก พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถ มาร์เกรเธอ ที่ 2 แห่งราชอาณาจักรเดนมาร์ก เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งถึงบริษัทแอ๊คโค่ (ประเทศไทย) จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทอดพระเนตรกิจการของโรงงาน ซึ่งผลิตรองเท้าทุกชนิดทั้งชายและหญิง โดยมีนายสมชาย ชุ่มรัตน์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกจังหวัดสระบุรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้บริหารโรงงาน บริษัทแอ๊คโค่ฯ และประชาชนจำนวนมาก เฝ้ารับเสด็จอย่างสมพระเกียรติ โดยเจ้าชายเฮนริก เสด็จทอดพระเนตรกิจกรรมของโรงงานแอ๊คโค่


จากนั้นเสด็จฯ โดยรถกอล์ฟทอดพระเนตรอาคารวัตถุดิบ และอาคารผลิต 3 แห่ง จากนั้นเสด็จฯถึงห้องประทับรับรองภายในโรงงาน เพื่อเสวยพระสุธารสชา และทอดพระเนตรกิจกรรมโรงฟอกหนัง ทรงฉายพระรูปร่วมกับเจ้าหน้าที่บริษัท และลงพระนามในสมุดเยี่ยม จากนั้นเสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังร้านอาหารบ้านวัชราชัย อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเสวยพระกระยาหารกลางวัน ในเวลา 11.45 น.


เจ้าชายอาโลอิสเสด็จฯ บ้านจิม ทอมป์สัน


เวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าชายอาโลอิส มกุฎราชกุมาร แห่งราชรัฐลิกเตนสไตน์ เสด็จฯ ยังพิพิธภัณฑ์จิม ทอมป์สัน ถนนพระราม 1 โดยมีนายวิลเลียม เจ คลอลเนอร์ ประธานมูลนิธิเจมส์ เอช ดับเบิลยู ทอมป์สัน พร้อมพนักงานประมาณ 20 คน สวมชุดผ้าไหมเฝ้ารับเสด็จ โดยเจ้าชายอาโลอิสทอดพระเนตรของสะสมของนายจิม ทอมป์สัน อาทิ จิตรกรรมฝาผนัง ถ้วยเบญจรงค์ และก่อนเสด็จฯกลับ นายวิลเลียม ทูลเกล้าฯ ถวายเสื้อผ้าไหม เนกไท และหนังสือที่ระลึก จากนั้น เสด็จฯต่อไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ทอดพระเนตรนิทรรศการ ห้องจัดแสดงประวัติศาสตร์ชาติไทย ภายในพระที่นั่งศิวโมกข์พิมาน ซึ่งได้จัดแสดงประวัติความเป็นมาในด้านต่างๆ และยุคสมัยต่างๆ ของชาติไทย


ประกอบด้วยเครื่องปั้นดินเผากำไลสำริด ชีวิตความเป็นอยู่ของชนชาติไทย โดยทรงสนพระทัยศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ที่ได้รับการจดทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเอกสารมรดกแห่งความทรงจำแห่งโลก จากนั้น ทอดพระเนตรพระที่นั่งพุทไธสวรรค์ และนิทรรศการจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย หลังจากนั้น ได้ ทอดพระเนตรโรงราชรถ และประทับที่ศาลามุขมาตย์เสวยพระสุธารส เสร็จแล้วทรงลงพระนามในสมุดเยี่ยมเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสที่เสด็จฯมาทรงเยี่ยม


พระจักรพรรดิญี่ปุ่นเสด็จฯ จุฬาฯ



ในเวลา 10.15 น. สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น เสด็จฯ มายังจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีอธิการบดี คณาจารย์ และนิสิตของจุฬาฯ เฝ้ารับเสด็จ โอกาสนี้ทรงลงพระนามในสมุดเยี่ยม และทรงร่วมงานเลี้ยงรับรอง ก่อนที่จะทอดพระเนตรนิทรรศการ The Chicken Specimens of Human-Chicken Multi-Research Project


ซึ่งเป็นผลงานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องไก่ ของเจ้าชายอากิชิโน พระราชโอรสที่ได้รับการถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ จากจุฬาฯ เมื่อ พ.ศ.2544 โดยทรงเริ่มศึกษาเมื่อ พ.ศ.2546 ด้วยสนพระทัยเรื่องไก่พันธุ์พื้นเมือง ไก่ป่า ไก่เลี้ยง และไก่ฟ้า จึงทรงศึกษาความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม เชื่อมโยงถึงด้านมนุษยวิทยา ชีววิทยา และภูมิศาสตร์ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ใน พ.ศ.2550


พระประมุขเลโซโทเสด็จฯ วัดพระแก้ว


ในเวลาไล่เลี่ยกัน สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 แห่งราชอาณาจักรเลโซโท เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีมาเซเนต โมฮาโต เซเอโซ ทอดพระเนตรวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอกของพระบรมมหาราชวัง ทรงใช้เวลาในการเยี่ยมชมอยู่เป็นเวลานาน ด้วยทรงสนพระทัยในสถาปัตยกรรมไทยที่มีความงดงามตระการตา นอกจากนี้ ยังทรงชื่นชมในความงามของหมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งมีการก่อสร้างและออกแบบที่ผสานสอดคล้องกันระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรปได้อย่างสง่างาม ประกอบด้วยพระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์ พระที่นั่งเทวราชอุปบัติ พระที่นั่งดำรงสวัสดิ์อนัญวงศ์ และพระที่นั่งนิพัทธพงศ์ถาวรวิจิตร


ดยุกแห่งยอร์กทรงมอบรางวัล นร.


เวลา 10.48 น. เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จฯไปยังโรงเรียนนานาชาติ บางกอกพัฒนา ทรงเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารกีฬาหลังใหม่ และทอดพระเนตรการเรียนการสอนของโรงเรียนบางกอกพัฒนา ในโอกาสที่โรงเรียนก่อตั้งมาครบ 50 ปี โอกาสนี้ ทรงมีพระปฏิสันถารกับนักเรียนอย่างใกล้ชิด จากนั้นทรงเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล อินเตอร์เนชั่นแนล อวอร์ด หรือรางวัล ดยุกแห่งเอเดน เบอเรอร์ ที่มอบให้แก่นักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติใน ประเทศไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมเสริมหลักสูตร


ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เสริมสร้างสมรรถนะทางร่างกายและจิตใจ อาทิ การปีนเขา การเดินป่า และกิจกรรมท้าทายอื่นๆ โดยในปีนี้ นักเรียนจากโรงเรียนบางกอกพัฒนาได้รับรางวัลโกลด์ อวอร์ด จำนวน 12 คน สำหรับโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา เป็นโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนตามแนวหลักสูตรอังกฤษที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ขณะนี้มีนักเรียน 2,168 คน จาก 52 ประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนจากประเทศอังกฤษ

เจ้าชายทูโพทัวล่องเรือชมเจ้าพระยา



เวลา 11.00 น. เจ้าชายทูโพทัว มกุฎราชกุมารแห่งตองกา เสด็จฯ ไปยังท่าเรือโรงแรมโอเรียนเต็ล ประทับเรือพระที่นั่งทอดพระเนตรทัศนียภาพ และความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางที่เสด็จฯ ผ่าน จะมีทั้งภาพวิถีชีวิตของประชาชนริม 2 ฝั่งน้ำเจ้าพระยา วัดสำคัญต่างๆ อาทิ วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง รวมทั้งสถานที่ราชการสำคัญของไทย เช่น กองทัพเรือ ราชนาวิกสภา โดยมกุฎราชกุมารแห่งตองกา ทรงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ประทับพระอิริยาบถในเรือ จากนั้นได้เสวย พระกระยาหารกลางวันที่โรงแรมโอเรียนเต็ล


คิงสวีเดนทรงมอบเครื่องราชฯ โภคิน


จากนั้นเวลา 12.10 น.ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ล ที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งสวีเดน เสด็จฯ มายังห้อง The Reading Room ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Royal Order of the Polar Star ชั้นที่ 1 ให้นายโภคิน พลกุล รักษาการประธานรัฐสภา เพื่อยกย่องในการปฏิบัติหน้าที่ ในการให้ความช่วยเหลือชาวสวีเดนและชาวต่างชาติที่ประสบภัยพิบัติ สึนามิ โดยถือเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นนี้ จากนั้นเสด็จฯ มายังห้อง The Autor´s Lounge พระราชทานประกาศนียบัตรและเข็มลูกเสือโลกให้กับสมาชิกลูกเสือโลก


ในประเทศไทย ที่สมัครใหม่จำนวน 4 ราย และสมาชิกที่ได้รับการเลื่อนวิทยฐานะจำนวน 3 ราย ซึ่งพระองค์ทรงได้รับยกย่องให้ เป็นองค์ประธานกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิลูกเสือโลก นอกจากนี้ยังได้มีการนำผ้าปูโต๊ะ ซึ่งทรงมีพระบรมราชานุญาต ให้นำพระปรมาภิไธยผสมผสานกับสัญลักษณ์ลูกเสือโลก มาจำหน่ายในราคาผืนละ 5 พันบาท โดยรายได้นำเข้ามูลนิธิลูกเสือโลกต่อไป


ทูลเกล้าฯ ถวายไวน์ฝรั่งเศส


ด้าน นายโภคิน พลกุล เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่ได้รับเกียรติอันสูงสุดจากสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พร้อมประกาศนียบัตร หลังจากที่ทอดพระเนตรเห็นการทำงานของตนและคนไทยทั้งหลายในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ สึนามิ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดังกล่าวจึงไม่ใช่ของตนเพียงคนเดียว แต่เป็นของคนไทยทั้งประเทศ นอกจากนี้พระองค์ตรัสถามถึงเรื่องสึนามิ


และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งทรงถามถึงบ้านน้ำเค็มและเขาหลักว่าเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนความประทับใจจากการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั้น สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย มีรับสั่งว่าประทับใจประเทศไทยมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นและจะจดจำไปอีกนาน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ จะเสด็จฯ กลับตนได้ถวายไวน์ BERNADOTTE ปี 1999 ที่ได้มาจากฝรั่งเศส 2 ขวด ซึ่งเป็นไวน์ที่มีความเกี่ยวพันกับต้นตระกูลของพระองค์ ทำให้พระองค์รู้สึกพอพระทัยเป็นอย่างมาก

เจ้าชายอัลแบร์ฯ ทรงให้สัมภาษณ์สื่อไทย



ขณะที่ เจ้าชายอัลแบร์ ที่ 2 แห่งราชรัฐโมนาโก เสด็จฯมายังพิพิธภัณฑ์จิม ทอมป์สัน ก่อนเสด็จฯ ยังสถานกงสุลโมนาโกประจำประเทศไทย ทรงเป็นประธาน ในพิธีถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พร้อมทั้งพระราชทานวโรกาสให้สื่อมวลชนไทยเข้าเฝ้าฯ และพระราชทานสัมภาษณ์อย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง


มกุฎราชกุมารอาหรับเสด็จฯ กลับก่อน


อย่างไรก็ดี ในช่วงสายวันเดียวกัน เชคโมฮัมเมด บิน ไซอิด อัลนะห์ยัน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เสด็จฯกลับแล้ว ด้วยเครื่องบินพระที่นั่งเที่ยวบินพิเศษ โบอิ้ง 747 โดยมีนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และพลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต เสนาธิการทหารอากาศ เฝ้าทูลละอองพระบาทส่งเสด็จ


หลายพระองค์เสด็จฯ ชมวิถีริมน้ำ


ส่วนวันเดียวกัน เจ้าชายฟิลิป มกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียมและพระชายา เจ้าหญิงมาทิลด์ เจ้าชายวิลเลมอเล็กซานเดอร์ มกุฎราชกุมารแห่งเนเธอร์แลนด์ และพระชายา เจ้าหญิงแม็กซิมา เจ้าชายโฮกุ้น มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ และพระชายา เจ้าหญิงเมตเต-มาริต และแกรนด์ ดยุก อองรี เจ้าผู้ครองนครลักเซมเบิร์ก เสด็จทอด พระเนตรความงดงามของวัดอรุณราชวรารามและลงเรือหางยาวทอดพระเนตรวิถีชีวิตริมน้ำสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าสู่คลองบางกอกน้อย คลองชักพระ และคลองมอญ


ทร.เปิดให้ชมนิทรรศการในหลวง


ด้านการจัดแสดงนิทรรศการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่หอประชุมกองทัพเรือ ซึ่งกองทัพเรือเปิดให้ประชาชนเข้าชม ระหว่างวันที่ 13-19 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. วันละ 9 รอบ รอบละ 100 คน โดยผู้เข้าชมต้องไปขอรับบัตรที่เคาน์เตอร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.เป็นต้นไป และกำหนดให้คนละ 2 ใบเท่านั้น ปรากฏว่าบัตรจำนวน 6,300 ใบ ได้หมดลงอย่างรวดเร็วภายใน 2 วันเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลส่วนจัดแสดงได้ขอให้ประชาชนที่จะเข้าชมติดต่อสอบถามไปที่หมายเลข 0-2614-0999 ก่อนเดินทาง เพราะหากมาชมจำนวนมากกว่าที่กำหนดไว้ในแต่ละวันอาจไม่สามารถเข้าชมได้ เนื่องจากพื้นที่มีจำนวนจำกัด สามารถรองรับได้เพียงวันละ 9 รอบ 900 คนเท่านั้น และการชมแต่ละรอบต้องใช้เวลานาน 1 ชั่วโมง


สุดซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ



สำหรับบรรยากาศการเข้าชมนิทรรศการในวันแรก เมื่อวานนี้ มีประชาชนทยอยเข้าชมเต็มทุกรอบ หลายคนไม่มีบัตร แต่ยอมเสี่ยงเดินทางมาเข้าชมเอาดาบหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามเสริมให้ได้เข้าไปชมในทุกพื้นที่ที่ยังคงสภาพเดิมไว้ทั้งหมด ตั้งแต่ห้องรับรอง ห้องที่ประทับ ห้องนิทรรศการที่นำเสนอสื่อแบบผสมผสานสรุปโครงการต่างๆ เกี่ยวกับป่า น้ำ ดิน และคน ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระประมุข พระราชินี


และผู้แทนพระราชวงศ์ทุกพระองค์เสด็จฯทอดพระเนตร เมื่อค่ำวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประชาชนที่เข้าชมเมื่อได้อยู่ในห้องจัดแสดง ต่างมีความรู้สึกเหมือนได้เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท และใช้กล้องบันทึกภาพ รวมถึงพากันก้มลงกราบเก้าอี้ที่ประทับ เพราะรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรมาตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์มานานถึง 60 ปี


ชาวภูเก็ตพร้อมรับเสด็จคิงสวีเดน


นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผวจ.ภูเก็ต เปิดเผยภายหลังประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระราชาธิบดี คาร์ลที่ 16 กุสตาฟ สมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งสวีเดน และเจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน ที่จะเสด็จเยือนจังหวัดภูเก็ตเป็นการส่วนพระองค์ โดยสมเด็จพระราชาธิบดี คาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งสวีเดน จะเสด็จฯระหว่างวันที่ 14-20 มิ.ย. ทรงประทับที่โรงแรมตรีศาลา


โดยเบื้องต้นจะเสด็จฯ เยือนลงเรือยอชต์เพื่อทรงกีฬาทางน้ำ และท่องเที่ยว บริเวณอ่าวพังงา ในวันที่ 15 มิ.ย. นอกจากนี้ ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ เป็นวันครบรอบอภิเษกสมรสครบ 30 ปี ซึ่งในส่วนของจังหวัดจะได้ติดต่อขอถวายพระพรและถวายของที่ระลึก เนื่องในโอกาสอันสำคัญนี้ด้วย จากนั้นพระราชาธิบดีแห่งสวีเดนมีกำหนดเสด็จกลับในช่วงสายวันที่ 20 มิ.ย. โดยจะเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อทูลลากลับประเทศสวีเดนตอนเที่ยงคืนวันเดียวกัน

เจ้าชายภูฏานทรงโปรดกีฬาผาดโผน



นายอุดมศักดิ์ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเจ้าชายจิกมีเคเซอร์ นัมเกล วังชุก มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน จะเสด็จถึงจังหวัดภูเก็ตในเช้าวันที่ 16 มิ.ย. และจะเข้าที่ประทับ ณ โรงแรมอมันบุรี ต.เชิงทะเล อ.ถลาง โดยทางจังหวัดได้รับการประสานมาแล้วว่าพระองค์โปรดจะทรงกีฬาแบบผาดโผน โดยจะทรงกีฬาพาราเซลลิ่ง หรือเรือลากร่มชูชีพ ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมสถานที่ไว้ที่หาดป่าตอง


อย่างไรก็ตาม หากคลื่นลมแรง ซึ่งจะกระทบต่อการรักษาความปลอดภัย ก็จะแนะนำให้เสด็จไปเล่นที่เกาะไข่ จังหวัดพังงา ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต สภาพคลื่นลมเงียบสงบกว่าแทน นอกจากนั้นยังได้รับการประสานว่าพระองค์ทรงโปรดกีฬายิงธนู แต่เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตไม่มีสนามยิงธนูเป็นการเฉพาะ จึงจะแนะนำให้พระองค์เปลี่ยนมายิงปืนแทน ซึ่งจังหวัดภูเก็ตมีสนามยิงปืนพร้อมอยู่แล้ว โดยพระองค์จะพำนักอยู่ที่ จ.ภูเก็ต จนถึงวันที่ 18 มิ.ย.นี้


สื่อนอกเกาะติดข่าวงานในหลวง


ด้านสำนักข่าวต่างประเทศ ปรากฏว่าตลอดวานนี้ สำนักข่าวส่วนใหญ่ยังเกาะติดรายงานข่าวการจัดงานพระราชพิธี รัฐพิธี และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อย่างต่อเนื่อง โดยในค่ำวันเดียวกันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และผู้แทนพระองค์ประมุขต่างประเทศ 24 ชาติ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยที่เชคโมฮัมเมด บิน ไซอิด อัลนะห์ยัน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เสด็จฯกลับไปก่อน หลังจากเมื่อค่ำวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา พระประมุขและพระราชวงศ์จากทั่วโลก ได้ทอดพระเนตรกระบวนเรือพระราชพิธี ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ และถือเป็นไฮไลต์ของกิจกรรมเฉลิมพระเกียรตินาน 5 วัน โดยที่สำนักข่าวทุกสำนักต่างเผยแพร่ภาพเหตุการณ์สำคัญดังกล่าวไปทั่วโลก

ททท.ปิ๊งไอเดียผุดทัวร์ตามหลัง



ด้านเอเอฟพีรายงานว่า ทางสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีโครงการจัดแพ็กเกจทัวร์ตามรอยพระราชอาคันตุกะเสนอขายให้นักท่องเที่ยว จากการรวบรวมเส้นทาง และสถานที่สำคัญต่างๆ ที่พระราชวงศ์ทั่วโลกเสด็จประพาส ระหว่างร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด เส้นทางการท่องเที่ยวในแม่น้ำเจ้าพระยา สวนจตุจักร คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ด้านเอพีรายงานว่า หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ กองทัพบกนำแขนขาเทียมแจกแก่คนพิการเกือบ 200 ราย ในหลายจังหวัดทางภาคใต้ ในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปีด้วย


ไทม์ ระบุในหลวงทรงพระปรีชา


นอกจากนี้ นิตยสารไทม์ฉบับวันที่ 19 มิ.ย. ลงบทความเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ชื่อเรื่อง The Mystique of Monarchy ซึ่งหมายถึง อำนาจอันเร้นลับแห่งราชาธิปไตย โดยระบุว่า พระมหากษัตริย์ของไทย ทรงพิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของราชวงศ์ ยังมีความเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตประชาชน พร้อมกันนี้ ไทม์ ยังได้รายงานถึงพระราชพิธีเฉลิมฉลองการครองราชย์ 60 ปีของพระองค์ ซึ่งมีราชวงศ์จากทั่วโลกมาร่วมถวายพระพรชัยมงคล 25 ชาติ รวมทั้งไทม์ได้ระบุถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลายด้าน ทรงเป็นนักดนตรี ศิลปิน นักประดิษฐ์ ทรงตรากตรำทำงานหนัก เสด็จฯไปทั่วราชอาณาจักร และจัดทำโครงการพระ ราชดำริมากมาย เพื่อช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ ซึ่งแตกต่างไปจากตะวันตก อาทิ ในสแกนดิเนเวีย สมาชิกราชวงศ์ปฏิบัติพระองค์เฉกเช่นสามัญชน เพื่อให้เป็นที่รักของประชาชน


ทรงเลี้ยงพระกระยาหารค่ำสมพระเกียรติ



ต่อมาในเวลา 19.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ มายังท้องพระโรง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่พระประมุข พระราชินี และผู้แทนพระราชวงศ์ต่างประเทศ รวม 24 ประเทศ ที่เสด็จฯ มาตามลำดับอาวุโสในการครองราชย์จากน้อยไปมาก จากนั้นทุกพระองค์จะเสด็จฯไปยังพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ เพื่อมีพระราชปฏิสันถารกับพระบรมวงศานุวงศ์ ที่รอรับเสด็จอยู่ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ พระประมุข และผู้แทนพระราชวงศ์ต่างประเทศ


ไปยังพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ซึ่งจัดสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำในครั้งนี้ โดยระหว่างนั้น สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการสำนักพระราชวัง และบุตรหลานข้าราชการบริพารในพระองค์ ทูลเกล้าฯถวายของที่ระลึกแด่พระประมุข และผู้แทนพระราชวงศ์ต่างประเทศ ได้แก่ ช่อกระแต ดอกไม้สด พวงมาลัย และบุหงารำไป ก่อนเสด็จฯเข้าสู่ท้องพระโรงใหญ่ อันเป็นสถานที่ถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ


เปิดโฉมพระที่นั่งองค์ใหม่


สำหรับพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร สถานที่จัดถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ที่เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีนั้น เป็นพระที่นั่งองค์ใหม่ที่มีพระราชพิธีสมโภชไปเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามชื่อของพระที่นั่งองค์เดิมที่ตั้งอยู่ โดยพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร เป็นส่วนต่อเดิมด้านหลังของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สร้างโดยการผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป มี 3 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นทางเข้าจากด้านหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ด้านในมีบันไดทางขึ้นทั้งทิศตะวันออกและตะวันตก เน้นตกแต่งภายในด้วยหินอ่อนจากอิตาลี ทิศใต้เป็นส่วนของห้องอาหาร และห้องพักอาหาร


ส่วนจัดเลี้ยงอยู่ชั้น 2 เป็นห้องโถงใหญ่ สำหรับจัดงานเลี้ยงพระราชทาน มีพื้นที่ถึง 1,040 ตารางเมตร มากที่สุดในองค์พระที่นั่ง โถงอัฒจันทร์ชั้นที่ 2 มีเสาหินอ่อนขนาดใหญ่ 4 ต้น ทิศเหนือมีโถงบันไดเลื่อนเชื่อมต่อกับพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ชั้นที่ 3 เป็นห้องรับรองเพดานโล่งโถงกลาง ประดับพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และพระนามาภิไธยย่อ สก.

เมนูใช้ผลิตผลโครงการหลวง



ส่วนรายการพระกระยาหารค่ำครั้งประวัติศาสตร์ ในครั้งนี้ เป็นฝีมือปรุงของเชฟนอร์เบิร์ท คอสเนอร์ ที่จะทำถวายเป็นอาหารฝรั่งทั้งหมด 5 คอร์ส จำนวนทั้งสิ้น 400 ที่นั่ง ประกอบด้วย จานแรก สลัดกุ้ง Cray Fish เนื้อปู มีผักสลัดจากโครงการหลวง ส่วนกุ้ง Cray Fish เป็นกุ้งลอบสเตอร์ขนาดเล็ก ที่ปกติจะต้องนำเข้าจากประเทศแอฟริกาใต้ หรือมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ที่โครงการหลวงสามารถเลี้ยงกุ้งชนิดนี้ได้คุณภาพดีเท่ากับของเมืองนอก จานที่ 2 เป็นซุปใสสไตล์โบราณ ที่ใช้ผักสดๆ จากโครงการหลวงเช่นกัน จานที่ 3 เป็นปลาเรนโบว์ เทราท์ราดด้วยซอส โดยปลาดังกล่าวปกติจะมีอยู่แถบประเทศยุโรปและอเมริกา แต่ปัจจุบันโครงการหลวงสามารถเลี้ยงได้แล้ว ตามบริเวณดอยอินทนนท์ สำหรับเมนคอร์สนั้นเป็นเนื้อลูกวัว ส่วนขนมหวาน เป็นแอปเปิ้ลชาลอต


วัสดุแต่งห้องวิจิตรงานศิลปาชีพ


นอกจากนี้ ภายในห้องถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นำศิลปวัตถุอันงดงามจากศิลปาชีพมาจัดแสดง อาทิ พระที่นั่งกูบช้าง หรือ สัปคับ มีทั้งองค์ที่เป็นทองคำ ไม้ คร่ำ และถมทอง บานจำหลักทิพวัน หรือบานพระแกล จำหลักด้วยมือ เป็นไม้สักแกะสลักบานใหญ่ประดับฝาผนัง และยังตระการตาด้วยของตกแต่งบนโต๊ะเสวย ซึ่งเป็นงานศิลปหัตถกรรมจากศิลปาชีพ เช่น นกยูงทองคำ และเรือพระที่นั่งจำลองชนิดต่างๆ


พระราชทานเหรียญทองคำที่ระลึก


โอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังจะได้พระราชทานเหรียญทองคำที่ระลึกเป็นเหรียญทองคำ ด้านหนึ่งเป็นรูปธงชาติไทยกับธงชาติของประเทศที่รัฐบาลได้เชิญเสด็จพระประมุขหรือผู้แทนพระองค์มาร่วมเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และอีกด้านหนึ่งเป็นภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแด่พระประมุขและผู้แทนพระองค์ทั้ง 25 ประเทศ

ทรงย้ำมิตรภาพราชวงศ์ยิ่งแน่นแฟ้น



กระทั่งเวลาประมาณ 22.35 น. หลังจากงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมี พระราชดำรัสขอบพระทัยพระประมุขและผู้แทนพระราชวงศ์ต่างประเทศ ความว่า ฝ่าพระบาท หม่อมฉันและพระราชินี มีความปีติ และภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสได้รับรองพระประมุข พร้อมทั้งพระราชวงศ์จากนานาราชอาณาจักร ในงานเลี้ยง พระกระยาหารค่ำในวันนี้ ขอขอบพระทัยทุกๆ พระองค์ เป็นอย่างมาก ที่ทรงพระอุตสาหะเสด็จมาร่วมงานครั้งนี้ ด้วยความปรารถนาดี และไมตรีจิต หม่อมฉัน พร้อมทั้ง รัฐบาล และประชาชนชาวไทย ถือว่าการเสด็จมาร่วมในงาน ครั้งนี้เป็นศุภนิมิตแห่งไมตรีจิต มิตรภาพ อย่างแท้จริง และมีความหมายสำคัญ อันควรจะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์


ด้วยเหตุว่า เป็นครั้งแรกที่พระประมุขและพระราชวงศ์จากพระราชอาณาจักรต่างๆเสด็จมาประชุม ณ ราชอาณาจักรไทยโดยพร้อมเพรียงกัน สิ่งนั้นย่อมเป็นปัจจัยสำคัญอีกส่วน หนึ่ง ที่จะเกื้อกูลให้สัมพันธภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือ ระหว่างราชตระกูลและราชอาณาจักรทั้งปวง ดำรงมั่นคง ทั้งเจริญงอกงาม และแน่นแฟ้นยิ่งๆขึ้นไป ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าขอเชิญชวนทุกๆท่าน ให้ร่วมกันกับข้าพเจ้าดื่มถวายพระพรแด่พระประมุขและพระราชวงศ์ที่ทรงเสด็จมาจากแดนไกล ให้ทรงเกษมสำราญ และทรงเจริญพระชนม์ สุขสิริสวัสดิ์ ทั้งในประชาชาติทุกราชอาณาจักร มีความวัฒนาผาสุก ยิ่งยืนนาน ตลอดไป


ประมุขบรูไนทรงถวายพระพร



ลำดับต่อมาสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ แห่งบรูไนดารุสซาลามในฐานะผู้แทนพระประมุขและผู้แทนพระราชวงศ์ต่างประเทศ ทรงกล่าวถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีใจความว่า องค์พระประมุข และพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ได้มาพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นี้ก็เพื่อถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้เป็นที่รักของพระองค์ ด้วยความเคารพ ชื่นชมในพระบารมีเป็นล้นพ้น


ตลอดจนเพื่อความปรารถนาดีอย่างจริงใจให้แก่ปวงชนชาวไทยทุกคน 60 ปี ที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติ มิได้เป็นเพียง 60 ปี ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย แต่เป็น 60 ปีที่ประวัติศาสตร์ของเราทุกคน เป็นประวัติศาสตร์ที่ได้ ประสบทั้งสิ่งดีและสิ่งร้าย ทั้งความปลื้มปีติ และความโศกเศร้า ทั้งเรื่องที่น่าตื่นเต้น ยินดี และเรื่องที่น่าสิ้นหวังและทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงใช้พระราชปรีชาญาณ พระสติปัญญา พระวิริยะอุตสาหะ ตลอดจนความองอาจและกล้าหาญที่พระองค์ทรงมีอยู่อย่างท่วมท้น ในการนำประเทศให้พ้นภัย


ทรงเป็นที่เคารพที่สุดในหมู่ราชา


พระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นศูนย์รวมแห่งแรงบันดาลใจให้แก่ประชาชนของพระองค์ ตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นในด้านวิชาการ ศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่การที่ทรงเป็นแบบอย่างที่เรียบง่ายของการเป็นพ่อผู้มีแต่ความรักและความเสียสละเพื่อลูก วันนี้ประชาคมโลกต่างตระหนักถึงความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวงของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หม่อมฉัน องค์พระประมุข และพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ที่มาพร้อมเพรียงกัน ณ ที่นี้ จึงมีความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่สหประชาชาติได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จอันสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่ฝ่าพระบาท


และหม่อมฉันตลอดจนองค์พระประมุข และราชอาคันตุกะทุกพระองค์ ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาร่วมงานกันวันนี้ ขอถวายพระราชปัญญาที่เรียบง่าย แต่มีค่าและสะท้อน ถึงความรู้สึกของหม่อมฉัน และทุกพระองค์ ณ ที่นี้ คือ ฝ่าพระบาททรงเป็นมิตรที่รัก และพึงเคารพอย่างที่สุดของพวกเรา


จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพระประมุขและผู้แทนพระราชวงศ์ต่างประเทศ ก่อนที่จะเสด็จฯกลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน






แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์