เชียงรายวิกฤต! น้ำป่าซัดอ่างแตก

เชียงรายอ่วม น้ำป่าจากภูเขาไหลทะลักล้น ซัดอ่างเก็บน้ำแตก ท่อนซุงยักษ์ไหลมาตามสายน้ำพัดบ้านเรือนที่เชียงของและเชียงแสนเสียหายนับร้อย ชาวบ้านขนของหนีอลหม่าน สะพานขาด สัตว์เลี้ยงสูญหายจำนวนมาก ระดมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเหยื่อน้ำป่า

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 26 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดฝนตกในพื้นที่ติดต่อกันมาหลายสัปดาห์ ทำให้ปริมาณน้ำบนเทือกเขาเขตติดต่อ อ.เชียงของ และ อ.เชียงแสน บริเวณ ต.แม่เงิน และ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไหลบ่ามารวมกัน กลายเป็นน้ำป่าไหลทะลักลงมาจากภูเขาและเข้าเอ่อล้นลำห้วยต่างๆ ในพื้นที่ โดยน้ำไหลแรงเข้าเอ่อล้นอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขาว หมู่บ้านทุ่ง หมู่ 2 ต.บ้านแซว และด้วยปริมาณน้ำที่มากและไหล ทำให้อ่างเก็บน้ำแตก น้ำจึงไหลทะลักเข้าสู่หมู่บ้านทุ่งและพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวโพดเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ประชาชนกำลังพักผ่อนในบ้าน ไม่สามารถขนย้ายข้าวของหรือหนีน้ำได้ทัน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังพบว่ามีก้อนหินและเศษไม้จำนวนมากไหลมากับน้ำด้วย แต่ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต นอกจากนี้น้ำป่ายังไหลแรง จนทำความเสียหายให้กับสะพานกั้นลำห้วย ซึ่งเป็นถนนเข้าสู่หมู่บ้านทุ่ง จนได้รับความเสียหายไม่สามารถใช้การได้ ทำให้การเดินทางเข้าออกหมู่บ้านถูกตัดขาดชั่วคราว

ด้านนายสมหวัง รุ่งตระกูลชัย นายอำเภอเชียง แสน ประสานกับนายสมควร สุตะวงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านแซวเข้าช่วยเหลือประ ชาชนภายในหมู่บ้านเป็นการเร่งด่วน แต่การเข้าไปช่วย เหลือก็ยากลำบากเช่นกัน เนื่องจากสะพานถูกตัดขาดและมีความชัน

นายสมควร กล่าวว่า น้ำที่เข้าท่วมเป็นน้ำป่าที่ไหลลงมาจากภูเขาโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 100 หลัง ชาวบ้านที่มีบ้านชั้นเดียวและนอนอยู่ชั้นล่างถูกน้ำท่วมขณะนอนหลับ แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เพราะหนีน้ำได้ทัน สำหรับสะพานที่ขาดเสียหายเป็นสะพานข้ามลำห้วยเข้าหมู่บ้าน สร้างจากท่อขนาดใหญ่สองแถวขนานกัน ซึ่งถูกน้ำไหลแรงจนแตกเสียหาย นอกจากนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือภายหลังจากอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขาวแตกแล้ว ยังมีอ่างเก็บน้ำห้วยทุ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กันกำลังใกล้จะแตกอีก คาดว่าหากมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมอีกเพียง 1-2 วัน อ่างคงจะแตกซึ่งแจ้งเตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง เตรียมตัวรับเหตุน้ำป่าทะลักในรอบที่สองแล้ว ส่วนด้านการช่วยเหลืออื่นๆ จัดเตรียมอาหาร น้ำดื่มให้พร้อม และให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านกรณีจะเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน รวมทั้งสำรวจเพื่อเตรียมการช่วยเหลือต่อไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ต.แม่เงิน เป็นบริเวณกว้าง โดยน้ำป่าไหลจากเทือกเขามีความแรงและระดับสูงตั้งแต่ 50 ซ.ม. จนถึง 1 เมตร

ทะลักเข้าสู่หมู่บ้านแม่คำ หมู่ 4 หมู่บ้านไร่ หมู่ 7 หมู่บ้านป่าคา หมู่ 8 หมู่บ้านแม่คำ หมู่ 12 ต.แม่เงิน มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความความเสียหายกว่า 200 หลัง และมีบ้านของราษฎรพื้นที่หมู่บ้านไร่ หมู่ 7 หมู่บ้านแม่คำ หมู่ 4 และหมู่บ้านแม่คำ หมู่ 12 ได้รับความเสียหายทั้งหลังหมู่บ้านละ 1 หลัง รวมทั้งหมด 3 หลัง โดยแต่ละหลังถูกท่อนซุงและโคลนที่ไหลมากับน้ำป่าพุ่งชนจนเสียหายทั้งหมด ชาวบ้านต้องหนีตายไปอยู่บนพื้นที่สูงกันจ้าละหวั่น และมีสัตว์เลี้ยง เช่น ไก่ หมู ฯลฯ ลอยไปตามกระแสน้ำ ขณะที่ชาวบ้านไหวตัวทัน เพราะเข้าสู่ช่วงเช้าแล้วจึงหนีได้ทัน โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่บ้านเรือนและข้าวของต่างได้รับความเสียหายกันโดยถ้วนหน้า

ด้านนายดำรงค์ จันทร์แปงเงิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่เงิน กล่าวว่า น้ำป่าทะลักท่วมหนักเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงถือเป็นครั้งแรกในพื้นที่

โดยมีสภาพของน้ำป่าทะลักลงมาจากเทือกเขาเหมือนสึนามิ มีระดับความสูงมากและยังหอบเอาท่อนซุง เศษไม้ โคลนตมตามมาด้วย ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั่วทุกหลังคาเรือนแล้วแต่จะมากน้อยเพียงใด และมีบ้านเรือนที่เสียหายหมดทั้งหลังถึง 3 หลัง ทางอบต.แม่เงิน จึงให้การช่วยเหลือด้วยการอพยพไปอาศัยอยู่กับบ้านญาตินอกพื้นที่ จนกว่าจะช่วยเหลือสร้างบ้านให้ใหม่แล้วเสร็จ แต่โชคดีที่น้ำป่าทะลักมาตอนช่วงเช้า ซึ่งชาวบ้านตื่นนอนกันแล้วจึงหนีกันได้ทัน หากมาช่วงกลางคืนอาจมีคนเจ็บหรือตาย เพราะหนีไม่ทันแน่นอน

"เมื่อเกิดเหตุแล้ว ทางทหารจากหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 35 สำนักงานพัฒนาภาค 3 กองบัญชาการทหารสูงสุดนำรถและกำลังพลไปช่วยชาวบ้านในการขนย้ายท่อนซุงและเศษไม้ต่างๆ ออกจากบ้านเรือน รวมทั้งช่วยเหลือประชาชนในการเก็บข้าวของ ด้านอบต.แม่เงินประสานไปยังทางอ.เชียงแสน เพื่อของบประมาณภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อนำไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่แล้ว" นายดำรงค์กล่าว