ยึดไม้สักมหาศาล600ท่อน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 ส.ค. พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบก.ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) และเจ้าหน้าที่ นปพ.ภ.จ.ลำปาง

เข้าตรวจสอบในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่งาวฝั่งขวา หมู่ 6 ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง หลังได้รับรายงานมีนายทุนอิทธิพลลักลอบโค่นไม้จำนวนมาก ปรากฏว่าพบไม้สักขนาดใหญ่ถูกตัดกองรวมหมอนไว้จำนวน 400 ท่อน นอกจากนี้ ยังพบไม้สักถูกตัดโค่นกระจัดกระจายอยู่กลางป่าเตรียมชักลากขนย้ายอีกกว่า 200 ท่อน แต่ไม่พบตัวกลุ่มผู้ต้องหา จึงตีตราอายัดไม้ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมจัดกำลังเฝ้าดูแลไว้เพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนไม้ของกลางที่อายัดไว้ครั้งนี้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
 

อีกราย ตอนสายวันเดียวกัน พ.ต.ต.สุริยา จินวสวัสดิ์ สว.สส. สภ.แม่พริก จ.ลำปาง นำกำลังพร้อมหมายศาลเดินทางไปประสานกับ พ.ต.ท.ชนะวุฒิ วิบูลย์เกียรติ์ สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่

เข้าจับกุมตัวนายสงวน ปวนคำมา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 ถนนศรีปิงเมือง ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ โดยแจ้งข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนีมีไม้สักหวงห้ามไว้ในความครอบครอง ร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวน และมีเลื่อยโซ่ยนต์โดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2549 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก นำกำลังเข้าจับกุมแก๊งค้าไม้รายใหญ่ในพื้นที่ป่าสงวนห้วยแม่ยะ หมู่ 11 ต.แม่พริก กลุ่มผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ยึดของกลางจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ได้พบหลักฐานบัตรประชาชนของผู้ต้องหาตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงสรุปสำนวนขออนุมัติศาลออกหมายจับและผู้ต้องหาได้หลบหนีกระทั่งถูกจับกุม สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

วันเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า

จากการระดมกวาดล้างปราบปรามการกระทำผิดโดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบก.ปทส. เข้ามาดูแลในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. 2551 มีการจับกุม 289 คดี ผู้ต้องหา 204 คน มูลค่าความเสียหายรวม 276,451,463 บาท พื้นที่ป่าถูกบุกรุก 1,488 ไร่ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 99,200,000 บาท มูลค่าของกลางอุปกรณ์ในการกระทำความผิด 177,251,463 บาท แยกเป็นความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 จำนวน 158 คดีผู้ต้องหา 68 คน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,554,302 บาท พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 จำนวน 75 คดีผู้ต้องหา 12 คน

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้จัดโครงการป้องกันปราบปรามการบุกรุกในพื้นที่โครงการพระราชดำริ 7 โครงการ

ได้แก่ โครงการพัฒนาดอยตุง จ.เชียงราย โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตามพระราชดำริ ดอยคำ จ.เชียงใหม่ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำอาว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ลำพูน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ โครงการพัฒนาพื้นที่ภูหัก จ.อุดรธานี โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์และโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.สมยศ และ พล.ต.ต.ศรีวราห์เป็นผู้ดำเนินการเพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ด้าน พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบช.ก.กล่าวว่า นโยบายของ ผบ.ตร. ได้เน้นหนักในเรื่องการปราบปรามกลุ่มบุคคลที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้มีคำสั่งให้ บช.ก. และ บก.ปทส. ปราบปรามจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ขุดแร่เหล็ก ในพื้นที่ต่อเนื่อง จ.เลย และ จ.นครสวรรค์ ที่มีนายทุนชาวต่างชาติมาจ้างคนไทยขุดแร่เหล็กในพื้นที่ ป่าสวงนโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อส่งขายต่างประเทศ โดยมีข้อมูลว่ามีผู้มีอิทธิพล นักการเมือง ข้าราชการ และคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบก.ปทส. เข้ามาดำเนินการ