แนะฟ้องศาล สั่งสึกพระโฉ่

หลังจากพระเกษม อาจิณณสีโล ผู้ดูแลที่พักสงฆ์ สามแยก บ้านห้วยยางทอง ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.น้ำหนาว

ในข้อหาดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนวัตถุ กรณีที่เขียนป้ายห้ามชาวบ้านกราบไหว้พระพุทธรูป แถมยังดูหมิ่นด้วยการตบพระพักตร์พระพุทธชินราชจำลอง พร้อมใช้เท้าเหยียบฐานพระพุทธรูป อ้างไม่ให้ชาวพุทธยึดติดกับวัตถุที่เป็นพุทธพาณิชย์ หลังสอบปากคำ พระเกษมใช้โฉนดที่ดินมูลค่า 210,000 บาท ยื่นประกันตัวไป โดยที่ยังดื้อดึงไม่ยอมสึกพ้นผ้าเหลืองนั้น
 

ความคืบหน้าการดำเนินการกับพระพิลึก เมื่อวันที่ 7 ส.ค.

นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้แจ้งมาแล้วว่ากรณีของพระเกษม ทางพนักงานสอบสวน สภ.น้ำหนาว ได้แนะนำว่าควรจะยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์จึงจะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องพระเกษม กรณีดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนวัตถุต่อศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน เพราะหากศาลพิพากษาว่าพระเกษมผิดจริง ศาลจะมีอำนาจสั่งให้พระเกษมสึกได้ โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังสรุปสำนวนเพื่อส่งอัยการ ระหว่างนี้ได้กำชับไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ และเจ้าหน้าที่ส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่ส่งลงพื้นที่ไปช่วยดำเนินการ คอยจับตาดูพฤติกรรมของพระเกษม หากมีพฤติกรรมที่ดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนวัตถุอีก ก็ให้เก็บข้อมูลเพื่อไปให้การต่อศาล 


ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรฯ กล่าวต่อไปว่า เพื่อไม่ให้เกิดกรณีที่เมื่อเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ในพื้นที่นั้นๆ มีมติให้พระที่ทำผิดต้องสึก แต่กลับไม่ยอมสึกแบบพระเกษม ขึ้นมาอีก

จึงเตรียมนำร่างกฎมหาเถรสมาคมว่าด้วยเรื่องการปกครองสงฆ์ ที่ร่างไว้ตั้งแต่นายวิษณุ เครืองาม ยังเป็นรองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ แต่เรื่องเงียบหาย กลับมาให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ พิจารณาอีกครั้ง ก่อนจะนำเสนอที่ประชุมมหาเถรสมาคมเพื่อออกเป็นกฎมหาเถรสมาคม โดยร่างกฎดังกล่าวระบุว่า หากเกิดกรณีที่มีพระที่กระทำความผิดแล้วเจ้าคณะผู้ปกครองพิจารณาเห็นว่ามีความผิดจริงและมีมติให้สึก
แต่พระไม่ยอมปฏิบัติตาม ก็จะให้สามารถขออารักขาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ กล่าวคือจะให้อำนาจเจ้าหน้าที่บ้านเมืองสามารถจับพระรูปนั้นสึกได้ทันที


ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการมหาเถรฯ

ถึงแนวทางตามคำสั่ง ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรฯ ที่ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ยื่นฟ้องต่อศาลเองอีกทางหนึ่งนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมเข้าปรึกษากับสำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบูรณ์ถึงขั้นตอนและรายละเอียดในการยื่นฟ้อง เท่าที่สอบถาม พ.ต.อ. มาโนช อนันต์ฤทธิกุล ผกก.สภ.น้ำหนาว ทราบว่าได้ติดตามเร่งรัดการทำงานของพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความชัดเจนได้ข้อสรุปโดยเร็ว


ส่วนคำสั่งของคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ที่ได้มีคำสั่งให้พระเกษมออกจากที่พักสงฆ์สามแยกภายในวันที่ 7 ส.ค.นั้น นายอินทพรเผยว่า วันนี้จะครบกำหนดพอดีตรงกับคำสั่งของวัดไชยาราม ต.เชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี

ซึ่งเป็นวัดต้นสังกัดของพระเกษม ที่มีหนังสือออกมาเมื่อวันที่ 4 ส.ค. เรียกตัวพระเกษมกลับวัดภายใน 3 วัน กล่าวคือถ้าเช้าวันที่ 8 ส.ค. พระเกษมยังคงพำนักอยู่ภายในที่พักสงฆ์สามแยกแล้ว เท่ากับว่าขัดคำสั่งของคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ และขัดคำสั่งของวัดไชยารามต้นสังกัดด้วย ทางวัดไชยารามจะต้องมีคำสั่งตาม พ.ร.บ.สงฆ์ จำหน่ายให้พระเกษมพ้นจากการปกครองของวัดไชยารามทันที จะส่งผลให้พระเกษมไม่มีสังกัด เท่ากับว่าจะต้องพ้นสภาพจากการเป็นพระและต้องสละสมณเพศด้วยเช่นกัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์