พบคนไทยมีความสุขเพิ่มขึ้น จากงานฉลอง60ปีครองราชย์

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบค โพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่องประเมินความสุขมวลรวมของประชาชนคนไทยภายในประเทศ (Gross Domestic Happiness) ประจำเดือน พ.ค. ว่าจากการวัดค่าคะแนนเฉลี่ยความสุขมวลรวมของประชาชนคนไทยภายในประเทศด้วยคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่าค่าเฉลี่ยคะแนนความสุขมวลรวมของคนไทยเท่ากับ 6.59 และเมื่อจำแนกออกเป็นภูมิภาคต่างๆ พบว่าประชาชนในกรุงเทพฯ และภาคใต้มีค่าคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ 6.20 และ 6.22 ในขณะที่ภาคกลางมีคะแนนความสุขมากกว่าภาคอื่นคือ 6.80 รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6.69 และภาคเหนือ 6.61 ตามลำดับ

ส่วนค่าเฉลี่ยความสุขมวลรวมของคนไทยในช่วง 3 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 5.47 คะแนน ซึ่งสาเหตุสำคัญน่าจะมาจากปัจจัยทางการเมือง-รัฐบาล-องค์กรอิสระ ที่ยังไม่ความชัดเจนในสถานการณ์และปัจจัยสภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลในทางลบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนผู้บริโภคที่ฉุดความสุขคนไทยอยู่ในระดับที่เกินครึ่งเล็กน้อยเท่านั้น แต่ในเดือน พ.ค. ค่าคะแนนเฉลี่ยความสุขมวลรวมของคนไทยสูงขึ้นมาที่ 6.59 คะแนน ซึ่งเป็นความสุขของประชาชนต่องานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

นายนพดล กล่าวว่า ถ้าคนไทยไม่เจอปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจและความขัดแย้งทางการเมืองแล้ว ค่าเฉลี่ยความสุขมวลรวมของคนไทยทั้งประเทศน่าจะขึ้นสูงถึงระดับ 8-9 ของคะแนนเต็ม 10 ดังนั้น ในสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจขณะนี้ แนวทางป้องกันแก้ไขวิกฤตการณ์ของสังคมที่เป็นไปได้ประการแรกคือการอาศัยพลังจงรักภักดี "เรารักในหลวง" สร้างความเป็นหนึ่งเดียวของคนในชาติขึ้นมาด้วยคุณธรรมด้านไมตรีจิตแก่กันและกัน ประการที่ 2 คือฝ่ายการเมืองและรัฐบาลควรหล่อหลอมปรัชญาและแนวพระราชดำริด้านการปกครองผสมผสานโครงการพระราชดำริต่างๆ ทุกโครงการเข้าสู่นโยบายสาธารณะเพื่อประชาชนทั้งประเทศ และประการที่ 3 คือจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและท้องถิ่นด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และบริบทอื่นๆ ของประเทศ เช่น ความมั่นคงที่มาจากการบูรณาการแนวปรัชญาการปกครอง โครงการพระราชดำริต่างๆ และวิถีชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ