พบชิ้นโลหะหนุนข้อสงสัยถังแควนตัสบึ้ม

ผลการสอบสวนหาสาเหตุการเกิดรูโหว่บริเวณลำตัวเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 สายการบินแควนตัสของออสเตรเลีย

เจ้าหน้าที่สอบสวนได้พบชิ้นส่วนโลหะสนับสนุนทฤษฎีที่ว่า เกิดถังออกซิเจนสำรองระเบิดบนเครื่องบิน จนต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 365 คน นายเนวิลล์ บลิธ เจ้าหน้าที่สอบสวนระดับสูงจากสำนักงานความมั่นคงด้านการขนส่งของออสเตรเลีย (เอทีเอสบี) กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ฝาครอบและชิ้นส่วนขนาดเล็กอื่น ๆ จะถูกตรวจสอบเพื่อพิจารณาว่า กระเด็นมาจากถังออกซิเจนสำรองหรือไม่ โดยชิ้นส่วนหลายชิ้นถูกพบในห้องผู้โดยสารใกล้กับห้องเก็บสัมภาระ ซึ่งใช้เป็นที่เก็บถังออกซิเจนที่หายไป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เอทีเอสบี กล่าวว่า ไม่เคยมีถังออกซิเจนบนเครื่องบินระเบิดกลางอากาศมาก่อน

หลังจากที่ถังออกซิเจน 1 ใน 2 ถังหายไปจากเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ซึ่งบินจากฮ่องกงไปยังนครเมลเบิร์น เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทางอากาศยืนยันว่า หากพิสูจน์ได้ว่าถังออกซิเจนระเบิดจริง จะเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่
 
ด้านสำนักงานการบินของสหรัฐ (เอฟเอเอ) เคยเตือนให้สายการบินต่างๆ ตรวจสอบถังออกซิเจนบนเครื่องบินล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือนก่อนหน้านี้

โดยคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2549 และประกาศเตือนอีกครั้งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีผลในเดือนพฤษภาคม ให้ครอบคลุมเครื่องบินที่สายการบินสหรัฐสั่งนำเข้าประเทศ โดยให้สายการบินต้องตรวจสอบถังออกซิเจน ว่ามีการระบุวันผลิตและแสดงวิธีใช้ที่ถูกต้องหรือไม่ คำเตือนนี้มีขึ้นตามรายงานที่ระบุว่า ถังออกซิเจนบนเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 อาจทนความร้อนได้ไม่ดีนัก และอาจทำให้ออกซิเจนรั่วไหล และทำให้เกิดไฟไหม้ตามมา ซึ่งสำนักงานความปลอดภัยการบินพลเรือนออสเตร เลียได้ประกาศคำสั่งเดียวกันนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา.