เด็กไทยไปสร้างชื่อทางวิชาการอีกแล้ว
โดยเมื่อวันที่ 28 ก.ค. น.ส.นารี วงศ์สิโรจน์กุล รักษาการแทนผู้อำนวยการ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้คัดเลือกและจัดส่งผู้แทนประเทศไทยจำนวน 5 คน ไปร่วมการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 20-29 ก.ค. 2551 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ผลปรากฏว่า ผู้แทนประเทศไทยสามารถ ทำได้ 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน โดยครั้งนี้ถือว่าได้รับรางวัลดีที่สุดเท่าที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันเป็นต้นมา
โดยรางวัลเหรียญทอง ได้แก่ นายพลณพ สมุทรประภูติ ร.ร. เตรียมอุดมศึกษา นายณภัทร ภู่วุฒิกุล ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา และนายกวิน สุรกิจบวร ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ส่วนเหรียญเงิน ได้แก่ นายวิศรุต ปิ่นรอด ร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ และนายคามิน ศิริวัฒน์เวชกุล ร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ ซึ่งคณะผู้แทนฟิสิกส์โอลิมปิกวิชาการ จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 29 ก.ค.นี้ เที่ยวบินที่ทีจี 683 เวลา 13.05 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ด้านเยาวชนไทยทั้ง 5 ที่สร้างชื่อให้ประเทศไทย ในครั้งนี้ ได้แก่ นายพลณพกล่าวว่า เข้าโครงการโอลิมปิกวิชาการ สอวน. เพราะอยากเรียนรู้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ชอบฟิสิกส์ เพราะน่าสนใจ สามารถเข้าใจหลักการและนำไปประยุกต์ใช้ โดยมีเทคนิคแพรวพราวน่าตื่นตาตื่นใจ การเข้าร่วมโครงการ โอลิมปิกวิชาการทำให้ได้เรียนรู้ที่จะสร้างความมุ่งมั่น โดยอยู่กับปัญหานานๆ จนสามารถแก้ได้สำเร็จ เคล็ดลับ การเรียนดีคือ ตั้งใจเรียน ใช้จินตนาการเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่ เรียนแจ่มชัดขึ้น ไม่ท้อเมื่อเจอเรื่องยากๆ ฝากถึงเพื่อนๆ ว่าขอให้ยึดมั่นในแนวทางของตนเอง อย่าเห่อตามค่านิยม หรือกระแสใดๆ
ส่วนนายณภัทร หรือนิค กล่าวว่า เข้าโครงการโอลิมปิก วิชาการ เพราะรุ่นพี่แนะนำ และครอบครัวให้การสนับสนุนการเรียนอย่างดี
ชอบอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนและนิยาย กำลังภายใน ขณะที่นายกวินกล่าวว่า เข้าร่วมโครงการโอลิมปิกวิชาการผ่านมูลนิธิ สอวน. เพราะชอบฟิสิกส์ การเข้าร่วมโครงการทำให้ได้รับความรู้มาก ฝากข้อคิดถึงเพื่อนๆ เยาวชนว่าอย่ามัวแต่ฝัน อยากได้อะไรขอให้ตั้งใจทำ
เช่นเดียวกับนายวิศรุต หรือเอิร์ท เปิดเผยว่า ประสบการณ์จากโครงการโอลิมปิกวิชาการทำให้ได้รู้จักเพื่อนที่สนใจเรื่องคล้ายๆกัน ชอบฟิสิกส์เหมือนกัน อนาคตอยาก เป็นนักวิจัยที่ทำประโยชน์ให้ชาติ
เรื่องการเรียนจะไม่กดดัน ตัวเองจนเกินไป ถ้าเรียนไม่เก่งจะปล่อยวางบ้าง แต่ขอให้ พยายามตั้งใจก่อน ถ้าสนุกกับการเรียนได้ก็จะทำให้เราเรียนดีเอง ประทับใจแรงสนับสนุนจากครอบครัว เพราะคุณแม่จะให้พรก่อนออกจากบ้านทุกวันครับ นายคามิน หรือเคน บอกว่า อยากให้การสอบเอ-เน็ต เลิกรวมวิทยาศาสตร์ 3 ตัว เข้าด้วยกัน การทำเช่นนี้เป็นเพราะไม่เคยเรียน และไม่รู้จักวิทยาศาสตร์จริง ก่อนไปแข่งขันไม่ได้ตั้งเป้าอะไร ตั้งใจทำหน้าที่ผู้แทนประเทศไทยอย่างดีที่สุด เรียนดีเพราะคุณพ่อปลูกฝังให้รัก การอ่านตั้งแต่เล็กๆ และคุณแม่ก็สนับสนุน ฝากถึงเพื่อนๆ ว่าทุกคนสามารถทำสิ่งที่ตัวเองรักได้ ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้อง เป็นด้านวิชาการ แต่ค้นหาให้เจอแล้วทำให้เกิดประโยชน์ กับส่วนรวมให้สำเร็จครับ