“ธีระชัย” ย้ำให้ ตร.ทำตาม ก.ม.
ส่วนนายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์ ส.ส.อุดรธานี ให้สัมภาษณ์หลังเข้าเยี่ยมอาการผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันของกลุ่มพันธมิตรฯ กับชมรมคนรักอุดร ที่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพียงรายเดียว ซึ่งเป็นคนของกลุ่มคนรักอุดร ว่า ไม่ได้เลือกว่าเป็นคนของ กลุ่มใด เพราะคนป่วยเหลือเพียงคนเดียว ซึ่งผู้บาดเจ็บหลายคนที่กลับไป ตนได้โทรศัพท์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะว่าเป็นคนอุดรธานีเหมือนกัน และบางคนที่ได้รับบาดเจ็บก็คุ้นเคยกันดี ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าไม่สบายใจ เพราะตนเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล และเป็น ส.ส.อุดรธานี ขอให้เกิดเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ซึ่งจากนี้ตนจะประสานงานกับ ผวจ. ผบก.ตำรวจ และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายบ้านเมือง ส่วนผู้บาดเจ็บจะบาดเจ็บด้วยสาเหตุใด มีอะไร ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ก็ยืนยันกรณีมีสื่อว่า นายอุทัย แสนแก้ว น้องชายตน นำคนไปก่อเหตุนั้น เคยเตือนเขาแล้วว่าให้ระวังจะเป็นเหยื่อทางการเมือง แต่ถ้ามีภาพมาฟ้อง ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ
“จำลอง” ไม่หวั่นข่าวถูกปองร้าย
สำหรับบรรยากาศการชุมนุมช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ค. ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ตั้งแต่ด้านกระทรวงศึกษาธิการ จนถึงแยกสวนมิสกวัน ยังคงมีผู้ชุมนุมมาฟังการปราศรัยบนเวทีอย่างเหนียวแน่น ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวยืนยันที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีปราศรัยประกาศว่าจะมีคนมาปองร้ายตัวเองและ พล.ต.จำลอง ว่า เป็นจริงที่มีข่าวคนปองร้ายพวกตน โดยทราบมาจากแหล่งข่าวที่มีความเชื่อถือ ได้ ซึ่งตนและนายสนธิไม่ได้หวั่นไหวกับข่าวดังกล่าวแต่ก็ไม่ได้ประมาทและระวังตัวกับเหตุการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวได้ และไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหน ที่จะมาปองร้าย และก็ไม่อยากถามกับแหล่งข่าวของตนว่าเป็นกลุ่มไหนเหมือนกัน เพราะพวกเราไม่อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องมาหวาดวิตกกับเรื่องนี้
จวก ตร.ปัดสวะหวังออก ก.ม.คุมม็อบ
ต่อข้อซักถามที่ว่า ตำรวจกับทหารจะออกมาหารือ กัน แล้วออกกฎหมายควบคุมการชุมนุมในที่สาธารณะ เพื่อจัดการกับการชุมนุมต่างๆทางกลุ่มพันธมิตรฯมีความคิดเห็นอย่างไร พล.ต.จำลองกล่าวว่า นั่นเป็นการ เบี่ยงเบนประเด็น ไม่เห็นต้องมีการเพิ่มเติมกฎหมายอะไร เพราะบ้านเมืองเราก็มีกฎหมายอาญาอยู่แล้ว เหมือนเป็น การปัดสวะชัดๆ ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่มีคนหนึ่งมาทำร้าย ร่างกายอีกคน ถึงขั้นจะฆ่ากันให้ตาย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นยืนดูเหตุการณ์เฉยๆ และไม่จัดการอะไรเลย แล้วจะให้พวกเรามารอกฎหมายควบคุมการชุมนุมอีกหรือไง ถ้าหากเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ก็อย่ามาเป็นตำรวจดีกว่า และควรลาออกจากตำแหน่ง เพราะขนาดเด็กเล็ก ทั่วไปยังรู้เรื่องเลยว่าตำรวจมีหน้าที่อย่างไร และจะต้อง ปฏิบัติเช่นไรกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น แต่อย่างไร ก็ตาม ถึงแม้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบและเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติ ตามหน้าที่ ก็ไม่เป็นไร และพวกเราก็จะชุมนุมต่อไป
ฝังแค้นรอเปลี่ยน รบ.เช็กบิล ตร.
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กลุ่มพันธมิตรฯจะดำเนินการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า ถ้าฟ้องก็จะฟ้องกับตำรวจบางคนที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช่จะฟ้องเหมารวมตำรวจทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ถ้าช่วงนี้ดำเนินการฟ้อง อาจจะไม่เป็นผล เพราะต้องรอให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลชุดนี้ก่อน ถึงจะดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ส่วนท่าทีของ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ยังนิ่งเฉยอยู่นั้น คิดว่าทหารต้องออกมาแก้ปัญหา เพราะทหารต้องรักษาความมั่นคงของประเทศด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเพียงฝ่ายเดียว ต่อข้อถามอีกว่า วันนี้เป็นวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทางพันธมิตรฯจะมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.ต.จำลองตอบว่า ไม่มีการจัดกิจกรรมใดๆทั้งสิ้น
พ.ต.ท.แจ้งความ ผบก.ภ.จ.อุดรฯ
ด้านความคืบหน้าการดำเนินคดีกับสองม็อบที่ปะทะกัน ที่ จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.กมล อปการัตน์ สารวัตรเวร สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ทัศนาบดี ตระกูลพิทักษ์ชน อายุ 41 ปี อดีต สว.สส.ภาค 4 (หน.ครูฝึกยุทธวิธี) บ้านเลขที่ 49/1 ม.4 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดาศักดิ์ ผบก.ภ. จ.อุดรธานี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 เพราะตำรวจได้อำนวยความสะดวกให้ชมรมคนรักอุดร เคลื่อนขบวนจากสนามทุ่งศรีเมือง ส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์ กิริยาคล้ายคนเมา ฮึกเหิม คึกคะนอง และมีอาวุธในมือ โดย พ.ต.ท.ทัศนาบดีระบุว่า มีประสบการณ์หลักสูตร ยุทธวิธีตำรวจในเมือง และการควบคุมฝูงชน ถ้าตำรวจพบพฤติกรรมดังกล่าวเคลื่อนมาอย่างช้ากว่า 3 กม. ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะต้องมีคำสั่งระงับยับยั้ง สั่งให้ ผู้นั้นวางอาวุธ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายจะเกิดขึ้น แต่กลับไม่ปฏิบัติตามหลักยุทธวิธี ซ้ำยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุม จนเคลื่อนไปถึงหนองประจักษ์ฯ และฝ่าแนวรับเข้าไปก่อเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และแจ้งความดำเนินคดีกับนายขวัญชัย สาระคำ หรือขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร นายอุทัย แสนแก้ว อดีตนายกเทศมนตรีตำบลไชยวาน จ.อุดรธานี น้องชายนายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำจากเหตุการณ์ชมรมคนรักอุดรบุกเข้าไปทำร้ายทำลายทรัพย์สินกลุ่มพันธมิตรฯ ที่หนองประจักษ์ฯ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.210 และ 215 ในข้อหาซ่องโจร สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดและมาแจ้งความในฐานะประชาชนชาว จ.อุดรธานี
พธม.ไม่เอาผิดใครอ้างไม่เชื่อ ตร.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีตัวแทนของกลุ่มพันธมิตรฯ จ.อุดรธานี มาแจ้งความดำเนินคดีกับชมรมคนรักอุดร ทั้งในคดีทำร้ายร่างกาย และคดีทำให้เสียทรัพย์ ขณะที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วงษ์สุเมธ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ยังคงให้พนักงานสอบสวนหาพยานหลักฐานดำเนินคดีกับคนที่ใช้อาวุธทำร้ายกันบริเวณหนองประจักษ์ฯ จากหลักฐานเทปบันทึกภาพซึ่งได้สอบปากคำคนเจ็บไปได้แล้ว 6 ปาก รวมทั้งตำรวจ 2 นายด้วย ทั้งนี้ นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จ.อุดรธานี และแกนนำหลายคนไม่สามารถติดต่อได้ เพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว มีเพียงสมาชิกกลุ่มย่อยที่นัดหมายพูดคุยเพื่อเตรียมเคลื่อนไหวอีกรอบในรูปแบบใหม่ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่จำเป็นต้องออกมาโต้ตอบชมรมคนรักอุดร กรณีกล่าวหาว่ากลุ่มพันธมิตรฯมีอาวุธ เพราะในภาพปรากฏในสื่อเห็นได้ชัดว่า ชมรมคนรักอุดรถืออาวุธบุกเข้ามาเป็นการจับโกหกคำโตอยู่แล้ว ส่วนการที่ยังไม่มีการแจ้งความ เพราะไม่เชื่อมั่นการทำงานของตำรวจ
กลุ่มพิทักษ์สิทธิฯมะกันจวก รบ.ไทย
นอกจากนี้มีรายงานข่าวด้วยว่า กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชน “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยปกป้องกลุ่มผู้ประท้วงทางการเมืองจากการถูกกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลโจมตี โดย “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” ระบุว่า กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลปะทะกับกลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตามสถานที่ชุมนุมประท้วงทั่วประเทศราว 12 ครั้ง ตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. มีการปะทะกันครั้งรุนแรงที่สุดที่ จ.อุดรธานี ทำให้มีผู้บาดเจ็บราว 40 คน ขณะที่ตำรวจยืนดูอยู่เฉยๆ ขณะเกิดการปะทะกัน ทั้งนี้นางเอเลน เพียร์สัน รองผู้อำนวยการ “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” ในภูมิภาคเอเชียกล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยล้มเหลวในการปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่ชุมนุมอย่างสันติ การปล่อยให้กลุ่มอันธพาลที่สนับสนุนรัฐบาลก่อความรุนแรงตามอำเภอใจ รัฐบาลกำลังทำให้ประชาธิปไตยที่เปราะบางของไทยตกอยู่ในอันตราย “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” ขอเรียกร้องให้มีการสอบสวนการก่อเหตุรุนแรงดังกล่าวและนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี พร้อมทั้งเผยว่า สมาชิกกลุ่ม “คนรักอุดร” ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลราว 1,000 คน บุกโจมตีทำลายการชุมนุมอย่างสันติของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.อุดรธานี และมีรายงานว่า สถานีวิทยุท้องถิ่น คลื่น 97.5 เอฟเอ็ม ก็ปลุกปั่นยุยงกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลซึ่งมีทั้งมีด ดาบ ขวาน ท่อนเหล็ก ท่อนไม้ และหนังสติ๊กเป็นอาวุธด้วย ขณะที่พยานผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า ตำรวจและอาสาสมัครป้องกันภัยท้องถิ่นราว 500 คน ไม่พยายามยุติความรุนแรงหรือจับกุมผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด