กลุ่มผู้กระกอบการน้ำมันพืชยิ้มออก"พาณิชย์"ใจดีให้ขึ้นราคาอีก 5 บาท เริ่มต้น 1 ส.ค.นี้
อธิบดีกรมการค้าภายใน สั่งตรวจเช็กสต๊อกด่วนหวั่นมีกักตุนสินค้า ขู่ ใครขึ้นก่อนโดนจับดำเนินคดีแน่ ขณะที่ กลุ่มสินค้า 19 รายการ 1,439 ชนิด ยื่นเรื่องขอปรับราคาด้วย เหตุต้นทุนผลิตแพงขึ้น จนท.ตรวจสอบยอมรับต้นทุนสูงจริง จ่อให้ไฟเขียว 4 สินค้าขึ้นก่อน “เหล็ก นม ปุ๋ย อาหารสัตว์” แต่ยังไม่กำหนดวัน ด้านกลุ่มคนขับสองแถวในกรุงเทพฯ ขอขึ้นค่าโดยสารจาก 6.50 บาท เป็น 8-10 บาท ให้เวลาถึง 29 ก.ค.นี้ หากไม่ช่วยเหลือหยุดรถประท้วง-ฟ้องศาลปกครอง รมช. คมนาคม แนะเปลี่ยนเครื่องยนต์ใช้แก๊สแก้ระยะยาว อ้างขึ้นให้ยากติดคำสั่งศาล
ที่กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการสินค้า 73 ราย ใน 19 กลุ่มสินค้า 1,439 รายการ
ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ ยารักษาโรค ผลิตภัณฑ์นม รองเท้านักเรียน ปลากระป๋อง น้ำปลา ผักกาดกระป๋อง น้ำยาซักฟอก น้ำมันพืช ปูนซีเมนต์ กาแฟผงและกาแฟสำเร็จรูป เส้นหมี่อบแห้ง อาหารกึ่งสำเร็จรูป ยากำจัดยุงแมลง เหล็ก และอาหารสัตว์ ได้ยื่นขอปรับราคามายังกรมการค้าภายใน หลังจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก โดยกรมการค้าภายในได้พิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่าเตรียมปรับขึ้นสินค้าใน 4 รายการ ได้แก่ เหล็ก นม ปุ๋ยเคมี และอาหารสัตว์ เนื่องจากต้นทุนในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นจริง ส่วนน้ำมันพืชได้อนุมัติขึ้นราคาแล้วมีผลตั้งแต่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป
อ่วม!ขึ้นน้ำมันพืชอีก 5 บาท
สำหรับรายละเอียดการขอขึ้นราคาเหล็ก เส้นขอปรับเพิ่มจากตันละ 38,405 บาทต่อตัน เป็น 42,950 บาท
เหล็กแผ่นขอปรับขึ้นจากตันละ 39,000 บาท เป็น 48,250 บาท โดยให้เหตุผลว่าวัตถุดิบในตลาดโลกปรับสูงขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์นม ได้แก่ นมข้นหวานและนมผงขาดมันเนย ขอปรับขึ้นกระป๋อง 390 กรัม จาก 23 บาท เป็น 34 บาท นมสด กล่อง 250 ซีซี จาก 9.50 บาท เป็น 11 บาท หลังจากต้นทุนน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 14.95 บาท เป็น 19.58 บาท รวมถึงนมผงขาดมันเนยเพิ่มขึ้นจากตันละ 4,200 บาท เป็น 4,600 บาท และน้ำนมดิบเพิ่มจากกิโลกรัมละ 14.50 บาท เป็น 16-18 บาท
ด้านปุ๋ยเคมีขอปรับจากตันละ 10,160- 20,050 บาท เป็น 14,200-32,800 บาท (ขึ้นอยู่กับสูตร)
เพราะวัตถุดิบแม่ปุ๋ยขึ้นราคาถึง 126-332% ส่วนอาหารสัตว์ขอปรับราคา 2 รายการ คือ อาหารไก่เนื้อขนาดถุง 30 กิโลกรัม ขอปรับขึ้นจาก 436 บาท เป็น 532 บาท อาหารสุกรจาก 364 บาท เป็น 489 บาท หลังจากต้นทุนราคาข้าวโพดปรับสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 7.42 บาท เป็น 10.05 บาท กากถั่วเหลืองเพิ่มจาก 11.11 บาท เป็น 15 บาท ปลายข้าว 19.92 บาท เป็น 29.50 บาท
อย่างไรก็ตาม นโยบายการดูแลราคาสินค้าที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มอบหมายให้กรมการค้าภายในนั้น กำหนดให้สินค้ากลุ่มของใช้ประจำวัน ตรึงราคาสินค้าไว้ก่อน
ส่วนสินค้าที่นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ให้มีการปรับขึ้นราคาสมเหตุสมผลและช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะที่สินค้าที่สามารถใช้วัตถุดิบภายในประเทศ ให้มีการหาวัตถุดิบทดแทน เพื่อลดต้นทุนการผลิตสินค้า นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการ ค้าภายใน กล่าวว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสต๊อก สินค้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง เพื่อป้อง กันปัญหาการกักตุนและขายเกินราคา หลังจาก ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาน้ำมันปาล์มได้มี มติให้น้ำมันปาล์มและถั่วเหลืองขนาดบรรจุขวด 1 ลิตร ปรับขึ้น 5 บาท ส่งผลให้น้ำมันปาล์มปรับจาก 47 บาท เป็น 52 บาท และน้ำมันถั่วเหลือง 49.50 บาท เป็น 55 บาท โดยมีผลในวันที่ 1 ส.ค.นี้ แต่หากในช่วงนี้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาไปก่อน ทางกรมฯ จะจัดการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ