เรือพายดูหิ่งห้อยแฉเรือหางยาวขู่

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. นายปรีชา เจี๊ยบหยู ประธานศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านลมทวน ต.บ้านปรก อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

เปิดเผยว่า หลังจากสื่อมวลชนนำเสนอข่าวการพังทลายของดินริมตลิ่ง บริเวณแหลมลมทวนซึ่งเป็นจุดดูหิ่งห้อยสำคัญของคลองอัมพวา ซึ่งชาวบ้านบ้านลมทวน เชื่อว่ามีสาเหตุมาจากแรงคลื่นที่เกิดจากเรือหางยาวรับนักท่องเที่ยวดู หิ่งห้อยช่วงสุดสัปดาห์ ปรากฏว่าที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับกำลังใจจากนักท่องเที่ยว รวมไปถึงประชาชนจากท้องถิ่นอื่นๆ เข้ามามาก แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายปรีชากล่าวว่า ล่าสุดจากการประชุมของชาวบ้านลมทวน ทุกคนมีข้อตกลงว่าจะทำหนังสือเรียกร้องไปยังหน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

คือกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) หรือหน่วยงานที่สามารถพิสูจน์ทางวิชาการเกี่ยวกับสาเหตุของการพังทลายของดินริมตลิ่งดังกล่าว เพื่อยุติปัญหาที่เกิดเป็นข้อถกเถียงกัน ว่าเกิดจากความรุนแรงของคลื่นที่กระทบริมตลิ่งหรือเป็นเพราะการกัดเซาะตามธรรมชาติกันแน่ ทั้งนี้หากผลการพิสูจน์ออกมาว่าอย่างไร ชาวบ้านจะยอมรับและร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป

"ขณะนี้ทำท่าว่าความขัดแย้งกำลังจะรุนแรงขึ้น ชาวบ้านที่ใช้เรือพายรับนักท่องเที่ยวดูหิ่งห้อยไม่กล้าที่จะออกไปนอกพื้นที่เพราะกลัวจะเกิดอันตรายทั้งตัวคนพายเรือและนักท่องเที่ยวด้วย ล่าสุดรีสอร์ตที่ให้เรือพายของชุมชนเราไปรับนักท่องเที่ยวเพื่อเข้าไปดูหิ่งห้อยในคลองนอกพื้นที่เดิมออกไป ปรากฏว่าเรือลำนั้นถูกเรือหางยาวขับไปเบียดจนเรือเข้าไปชนริมตลิ่งแล้วยังตะโกนบอกว่าเดี๋ยวนี้เรือชุมชนออกมาหากินไกลนะ จนเรือพายกลัว ซึ่งตอนนี้ชุมชนปฏิเสธรีสอร์ตว่าคงจะไม่สามารถไปรับนักท่องเที่ยวเพื่อเที่ยวในรูปแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นชาวบ้านจึงอยากจะหาข้อยุติเรื่องนี้เต็มที่แล้ว" นายปรีชากล่าว

นายจิรมิตร วรรณศิลปิน อายุ 29 ปี ชาวบ้านบ้านลมทวนกล่าวว่า ชาวบ้านทุกคนต้องการให้หน่วยงานใดก็ได้ที่สามารถพิสูจน์ข้อขัดแย้งเรื่องสาเหตุของตลิ่งที่พังอยู่ให้ชัดเจนขึ้น

เพื่อเป็นการตัดสินข้อขัดแย้งของสองฝ่าย เนื่องจากที่ผ่านมาแม้จะมีข่าวออกไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นจะมีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ไข หรือดูแลเรื่องนี้เลย ซึ่งหากผลออกมาอย่างไรชาวบ้านยินดียอมรับ เพราะจริงๆ แล้วชาวบ้านลมทวนไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งกับใคร เพียงแต่อยากให้ฝ่ายผู้ประกอบการเรือเข้าใจบ้างเท่านั้น โดยเฉพาะการดูหิ่งห้อยก็ขอให้ลอยลำเรือไปดูแทนการวิ่งเร็วๆ มากกว่า ส่วนที่บอกว่าตลิ่งพังเพราะชาวบ้านไปตัดต้นไม้เสียเอง ขอชี้แจงว่าการตัดต้นไม้ริมคลองไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่เข้าใจกัน เพราะชาวบ้านรู้ว่าป่าชายเลนมีความสำคัญมาก สามารถรักษาไม่ให้ตลิ่งถูกกัดเซาะ จึงไม่มีใครตัดต้นไม้อย่างแน่นอน จะมีก็เพียงทางส่วนการไฟฟ้าที่จะเข้ามาขอตัดกิ่งไม้บางกิ่งที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายไปเกี่ยวสายไฟเท่านั้น

"ตอนนี้ความหวังของชาวบ้านริบหรี่เหลือเกิน เพราะไม่เห็นว่าจะมีใครสนใจ ขนาดหน่วยงานที่เกี่ยวกับฝั่งแม่น้ำเองเขาก็ขับเรือผ่านไปผ่านมาแต่ไม่เห็นว่าจะมาสอบถามอะไร แถมบางครั้งยังวิ่งเรือเร็วเสียเองด้วย" นายจิรมิตรกล่าว

ด้านนางนิศากร โฆษิตรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่าทช.ยินดีจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดูแลตรวจสอบเรื่องนี้ให้

เพราะมีเจ้าหน้าที่ของกรมอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ส่วนรับผิดชอบโดยตรงก็ตาม แต่ทั้งนี้อยากจะขอความร่วมมือกับประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ริมคลอง หรือริมฝั่งชายเลน ให้ช่วยกันดูแลรักษาป่าชายเลนไว้ เพราะจะเป็นเกาะป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่ดีที่สุด