คนไทยกระอักอีกรอบ ค่าเอฟทีขึ้น

คณะอนุกรรมการค่าไฟฟ้าผันแปรฯ เคาะค่าเอฟทีรอบใหม่ขึ้นอีก 9.60 สตางค์ ดันค่าไฟพุ่งหน่วยละ 3.10 บาท สาเหตุเพราะน้ำมันแพงเตรียม เสนอเรกกูเลเตอร์อนุมัติ 8 มิ.ย.นี้ ผู้ใช้รายย่อยยังแอบได้เฮ ลุ้นรับส่วนลด 10 สตางค์หากใช้ต่ำกว่าเดือนละ 150 หน่วย ประธานอนุกรรมการฯ ปลอมใจขึ้นน้อยกว่าที่คิดเหตุ ปตท. และการไฟฟ้าช่วยแบกภาระ

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายวิชิต หล่อจิระชุณ กุล ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เปิดเผยว่าที่ประชุมได้สรุปค่าเอฟทีรอบมิ.ย.-ก.ย.นี้ว่าจะปรับขึ้นได้ที่หน่วยละ 9.60 สต. เมื่อรวมกับค่าไฟฐานแล้วอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วยจะอยู่ที่ประมาณ 3.10 บาท จากค่าไฟฟ้างวดก่อนหน้าอยู่ที่หน่วยละ 3.01 บาท ซึ่งในส่วนของผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเดือนละ 150 หน่วย จะได้รับส่วนลดค่าเอฟทีลงที่หน่วยละ 10 สต. ซึ่งข้อสรุปนี้พร้อมเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการไฟฟ้า (เรกกูเลเตอร์) ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาประกาศใช้ค่าเอฟทีรอบใหม่ต่อไป

ทั้งนี้ สาเหตุที่ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดนี้ยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าเชื้อเพลิงทุกประเภทที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันตลาดโลกที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติงวดนี้ปรับขึ้น 9.74 บาทต่อล้านบีทียู โดยปรับเป็น 192 บาทต่อล้านบีทียู น้ำมันเตา ปรับขึ้นลิตรละ 0.50 บาท เป็นลิตรละ 15.75 บาท น้ำมันดีเซลปรับขึ้นลิตรละ 0.81 บาท เป็นลิตรละ 19.37 บาท อย่างไรก็ตาม จากการที่ประชาชนร่วมกันประหยัดการใช้พลังงาน ส่งผลทำให้การใช้ไฟฟ้าลดลงจากประมาณ การ เดิมที่ขยายตัว 6% เหลือ 4% ก็ทำให้ค่าไฟฟ้า เอฟทีไม่ได้ปรับสูงขึ้นมากเกินไป

นอกจากนี้ การที่คณะอนุกรรมการฯสามารถปรับขึ้นค่าเอฟทีในอัตราที่ไม่สูงเท่ากับที่ก่อนหน้านี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นไปหน่วยละ 15.16 สต. เนื่องจาก ปตท.ได้จ่ายก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มอีก 21 ล้านบีทียู และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และกฟผ.ได้นำเงินลงทุนที่เหลือในปี 48 จำนวน 1,008 ล้านบาทมาช่วยชดเชยจึงทำให้ค่าเอฟทีงวดใหม่นี้ขึ้นไม่ถึง 10 สต.

ขณะเดียวกัน ปตท.ได้นำเงินที่ได้รับการชดเชยท่อส่งก๊าซฯ จากพม่าขัดข้อง รวมเงินจากเงินส่วนต่างของราคารับคืนก๊าซที่ได้จ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว (เทค ออฟ เพย์) 300 ล้านบาท มาช่วยลดค่าเอฟทีให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย

"ตามความจริงแล้วค่าเอฟทีงวดใหม่นี้จะพุ่งสูงขึ้นไปที่หน่วยละ 15.16 สต. เพราะราคาค่าเชื้อเพลิงได้ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของก๊าซฯ ราคาอยู่ที่ 192 บาทต่อล้านบีทียู เพิ่มขึ้น 9.74 บาท น้ำมันดีเซลคิดที่ลิตรละ 19.37 บาท เพิ่มขึ้น81 สต. และน้ำมันเตาอยู่ที่ลิตรละ 15.75 บาท เพิ่มขึ้นถึงลิตรละ 50 สต. แต่จากที่ปตท. และ 3 การไฟฟ้าได้นำเงินจากส่วนต่าง ๆ เข้ามาช่วยชดเชยเลยทำให้ค่าเอฟทีขึ้นไม่ถึง 10 สต."

ส่วนค่าเอฟทีงวดต่อไป (ต.ค.-ม.ค.) หากมีการปรับขึ้นอีก ก็คงเป็นการปรับขึ้นตามราคาน้ำมันซึ่งคงไม่มากนัก เพราะช่วงหน้าหนาว การใช้ไฟฟ้าจะไม่เพิ่มสูงขึ้นมาก ความจำเป็นในการใช้น้ำมันที่เป็นต้นทุนผลิตไฟฟ้าที่สูงที่สุดก็จะน้อยลง ประกอบกับ ปตท. ระบุว่า จะส่งก๊าซฯ ได้เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ต้นทุนยิ่งไม่สูงมากนัก

แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์