เผยกัมพูชาปล่อยข่าวไทยเล็งก่อจลาจล - ส่งทหารนับหมื่นตรึงชายแดน กล่าวหาเป็นฝ่ายรุกล้ำอธิปไตย พร้อมชวนบอยคอตสินค้าจากไทย ทำนักธุรกิจ-ผู้ค้าชาวไทยในกัมพูชาผวาท่าทีคนเขมร แห่เก็บข้าวของ ระงับการลงทุนชั่วคราวอพยพกลับประเทศ
วันนี้ (23 ก.ค.) นายสมบัติ จึงตระกูล นายกชมรมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี
เปิดเผยว่า ขณะนี้นักธุรกิจชาวไทยและผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.จันทบุรี จำนวนมากที่เข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชาในธุรกิจรับซื้อพืชไร่ การรับเหมาก่อสร้าง การค้าสินค้าต่าง ๆ ระหว่างประเทศ และการลงทุนอีกหลายหลายประเภท ต่างพากันทะยอยเก็บทรัพย์สินออกจากประเทศกัมพูชา และหยุดการลงทุนทุกประเภทที่เข้าไปดำเนินการในประเทศกัมพูชาไว้ชั่วคราว เนื่องจากไม่มั่นใจท่าทีของกัมพูชาต่อกรณีปราสาทเขาพระวิหาร และกำลังรอดูท่าทีของกัมพูชาว่าจะปฎิบัติต่อนักธุรกิจ ผู้ประกอบการค้าชาวไทยที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชาอย่างไร
นายสมบัติ กล่าวว่า สาเหตุเพราะขณะนี้ในประเทศกัมพูชา มีการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์ไปยังชาวกัมพูชาจำนวนมากว่าบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในจังหวัดต่าง ๆ ของไทย มีการส่งทหารไทยจำนวนนับหมื่นคน
พร้อมด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่ รถถัง ตรึงกำลังบริเวณดังกล่าวไว้อย่างแน่นหนา นอกจากนี้ยังมีชาวไทยจำนวนไม่น้อยรวมตัวก่อการจราจลบริเวณชายแดนไทย- กัมพูชา ในหลาย ๆ จังหวัดของไทย เพื่อประท้วงชาวกัมพูชากรณีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทพระวิหาร ด้วยท่าที่ที่แข็งกร้าวต่อชาวกัมพูชาอย่างยิ่ง
นายสมบัต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีข้อความชักชวนชาวกัมพูชาให้บอยคอยสินค้าไทย หรือหยุดซื้อสินค้าไทยทุกชนิด เพื่อเป็นการประท้วงไทย
ในกรณีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร โดยระบุว่าไทยรุกล้ำอธิปไตยของเขมร และมีการส่งข้อความปล่อยข่าวลือที่ส่งผลด้านลบต่อการลงทุนของนักธุรกิจชาวไทย และผู้ประกอบการค้าชายแดนไทยในเขมรอีกหลายกระแส ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจสถานการณ์ในขณะนี้ และเกิดความสับสนในหมู่ชาวกัมพูชาต่อเรื่องดังกล่าว ใที่สุดจึงพากันเดินทางกลับประเทศแล้วจำนวนมาก โดยจะรอดูความเคลื่อนไหวในกัมพูชาอีกระยะเวลาหนึ่ง จนกว่าทุกอย่างจะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการค้าระหว่างชาวไทย - กัมพูชา บริเวณจุดผ่อนปรนและจุดผ่านแดนถาวรใน อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จนถึงขณะนี้ยังคงดำเนินไปตามปกติเหมือนทุก ๆ วัน.