ละสังขารอย่างสงบ สิ้นปู่จันทร์ เกจิดังวัดเจดีย์หลวง

สิ้นหลวงปู่จันทร์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเชียงใหม่

เผยพระพุทธพจน วราภรณ์ พระเถระผู้ใหญ่เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 ฝ่ายธรรมยุตสิ้นแล้ว หลังรักษาอาการอาพาธมาเป็นเวลานาน ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาศิษยานุศิษย์ ที่ต่างมาเฝ้าดูอาการแน่นวัด มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพวันที่ 12 ก.ค.นี้

จากกรณีอาการอาพาธของพระพุทธพจนวราภรณ์ หรือหลวงปู่จันทร์ กุสโล พระเถระภาคเหนือ อายุ 91 ปี พรรษา 71 ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่

หลังจากออกร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ มาจำพรรษาอยู่ที่กุฏิจันทร์ กุสโล วัดเจดีย์หลวง ซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นห้องไอซียู สำหรับรักษาพระพุทธพจนวราภรณ์ ท่ามกลางแพทย์และพยาบาลเฝ้าดูแลตลอด 24 ชั่วโมงมาตั้งแต่ 27 มิ.ย. 51 เป็นต้นมา โดยที่ศิษยานุศิษย์เข้าเยี่ยมได้โดยมองจากนอกห้องกระจก และลูกศิษย์ก็หวังจะหายจากอาพาธโดยเร็ว แต่จนถึงวันที่ 10 ก.ค. ระบบอวัยวะภายในหยุดทำงานไม่ยอมตอบสนองตัวยาทางแพทย์จัดถวาย ซึ่งแพทย์ปรึกษากับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของวัดเจดีย์หลวงเพื่อจะให้หลวงปู่จากไปอย่างสงบ หรือจะใช้ยาฉีดกระตุ้นให้ระบบอวัยวะทำงานอีกครั้งเพื่อยื้อชีวิต ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 11 ก.ค. ที่วัดเจดีย์หลวง อ.เมืองเชียงใหม่ เหล่าศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่พากันทยอยมายังวัดเจดีย์หลวงเพื่อเฝ้าดูอาการของหลวงปู่กันอย่างเนืองแน่น

พระครูโสภณกวีวัฒน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางวัดได้เตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วหากหลวงปู่จากไปทางวัดจะนำสรีระของหลวงปู่ไปประกอบพิธีบนวิหารของวัด ซึ่งก่อสร้างจนเกือบแล้วเสร็จ ตอนนี้อาการของหลวงปู่นั้นทางแพทย์บอกว่าทุกอย่างหยุดทำงานหมดแล้ว แพทย์เอาเครื่องมืออุปกรณ์การช่วยชีวิตออกแล้วบางส่วน ก็คงต้องปล่อยให้หลวงปู่จากเราไปอย่างสงบตามธรรมชาติ

ด้านพล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เปิดเผยว่า ตนสั่งการให้ตำรวจจราจรเชียงใหม่นำแผงเหล็กมาจำนวน 20 อัน

กรวยพลาสติกจำนวนหนึ่งเพื่อมาตั้งจุดจัดสถานที่จอดรถให้กับเหล่าศิษยานุศิษย์ที่กำลังเดินทางมาเยี่ยมมาดูอาการของหลวงปู่และมากราบนมัสการหลวงปู่เป็นครั้งสุดท้ายในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งนับวันก็จะมีมากขึ้นตามลำดับ เพื่อความเป็นระเบียบภายในวัด ให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาทำการจัดระเบียบของการเดินรถเข้าออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.33 น. วันเดียวกัน หลวงปู่จันทร์ มรณภาพอย่างสงบ หลังจากที่ทางแพทย์และคณะสงฆ์วัดเจดีย์หลวงได้ยื้อชีวิตท่านตลอดทั้งคืน จนในที่สุดทุกฝ่ายมีมติให้หลวงปู่จากไป โดยถอดเครื่องช่วยหายใจออกเพื่อให้ท่านจากไปสู่นิพพานอย่างสงบ

ท่ามกลางความโศกเศร้าของศิษยานุศิษย์ โดยทางวัดจะเคลื่อนศพของหลวงปู่เข้าประดิษฐานไว้ที่วิหารของวัด และจะประกอบพิธีอัญเชิญน้ำหลวงอาบศพหลวงปู่ในวันที่ 12 ก.ค. เวลา 14.30 น.สำหรับประวัติพระพุทธพจนวราภรณ์ (หลวงปู่จันทร์ กุสโล) นามเดิม จันทร์ แสงทอง เกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2460 เป็นบุตรของนายจารินต๊ะ และ นางแสง แสงทอง เมื่ออายุได้ 15 ปี บรรพาเป็นสามเณร ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่ออายุครบ 20 ปี ได้อุปสมบท ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ได้รับฉายาว่า "กุสโล"

พระพุทธพจนวราภรณ์ เข้าเรียนจนได้รับวิทยฐานะนักธรรมชั้นเอกในปีพ.ศ.2482 และเปรียญธรรม 5 ประโยค ในปีพ.ศ.2482 นอกจากนี้ยังได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ ทางด้านการพัฒนาจากสถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของไทย ได้แก่ ปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพัฒนาชุมชน จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (พ.ศ.2530) ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขามนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (พ.ศ.2532) ปริญญาพัฒนบริหารศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (พ.ศ.2535) และปริญญาเทคโนโลยีการเกษตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการวางแผนและพัฒนาชนบท จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ (พ.ศ.2538)

นอกจากนี้ท่านยังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติมากมาย อาทิ เป็นศิลปินแห่งชาติ ด้านวัฒนธรรม สาขาภูมิปัญญาชาวบ้าน และพระสงฆ์นักพัฒนาดีเด่น

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์