เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 9 ก.ค. ชาวบ้านจากกลุ่มพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ได้แก่กลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด กลุ่มรักบ้านเกิดอ่าวน้อยและกลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก-กุยบุรี พร้อมคณะครูและนักเรียนที่ อ.บางสะพาน และ อ.ทับสะแก เดินทางด้วยเรือตังเกไปที่เรือเรนโบว์วอริเออร์ของกลุ่มกรีนพีซ ที่เข้าจอดห่างชายฝั่งทับสะแกประมาณ 2 กิโลเมตร โดยแกนนำกลุ่มอนุรักษ์ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับกลุ่มกรีนพีซยืนไว้อาลัยให้นายเจริญ วัดอักษร อดีตแกนนำกลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2547 จากนั้นร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์การใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตโลกร้อน
โดยออกแถลงการณ์คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และแผนพัฒนาเวสเทิร์นซีบอร์ดในจังหวัดประจวบฯ น.ส.สุรีรัตน์ แต้ชูตระกูล แกนนำจากกลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก อ่านแถลงการณ์
ระบุว่า ปัจจุบันปัญหาโลกร้อนเข้าสู่สภาวะวิกฤต จากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมากขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ โรงไฟฟ้าถ่านหินคือตัวการที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สูงสุด นอกจากนี้แถลงการณ์ดังกล่าวยังคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพราะเชื่อว่าสังคมไทยที่ไม่สามารถแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น จะยิ่งทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นอันตรายต่อประชาชน
ส่วนแผนพัฒนาเวสเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งใช้อุตสาหกรรมเหล็กเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัดประจวบฯ แถลงการณ์ระบุว่า คนประจวบฯ ไม่อยากได้ และไม่ต้องการอยู่กับมลพิษ
รัฐบาลซึ่ง 40% ของมูลค่าผลผลิตเหล็ก ต้องพึ่งพาการนำเข้าทั้งแร่เหล็ก ถ่านหินและเทคโนโลยี โรงถลุงเหล็กต้องใช้ไฟฟ้าสูงกว่าอุตสาหกรรมการแปรรูปสินค้าทางการเกษตรที่รัฐควรส่งเสริมถึง 3 เท่า จึงมีการนำไปสู่การผลักดันให้ กฟผ.เตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทับสะแกทั้งสิ้น 4,000 เมกะวัตต์ ซึ่งต้องเผาถ่านหินไม่ต่ำกว่า 325 ตัน ตลอดอายุโครงการ 25 ปี ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวม 876,000 ตันตลอดอายุโครงการ 25 ปี เพื่อเตรียมพลังงานไฟฟ้าให้กับโครงการโรงถลุงเหล็กบางสะพานและกุยบุรี
หลังจากอ่านแถลงการณ์แล้ว ได้มีการแลกธงกันระหว่างเรือเรนโบว์ กับธงของกลุ่มอนุรักษ์ทั้ง 5 กลุ่ม จากนั้นชักธงกลุ่มอนุรักษ์ขึ้นสู่เสากระโดงเรือเรนโบว์ และเจ้าหน้าที่กรีนพีซเดินทางเข้าสู่ชายฝั่งร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่มอนุรักษ์ชาวประจวบคีรีขันธ์
นายสถาน ช่อระหงส์ แกนนำจากกลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก กล่าวว่า การมาเยือนของเรือเรนโบว์วอริเออร์ของกรีนพีซ สร้างความตื่นตัวในการรับรู้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและวิกฤตโลกร้อนจากโรงไฟฟ้าถ่านหินให้กับทั้งคณะครู เด็กนักเรียน และชาวทับสะแกเป็นอย่างมาก ชาวประมงเรี่ยไรปลา เรี่ยไรค่าข้าวทำอาหารเลี้ยงกัน เพื่อเชื่อมความสามัคคีของคนในชุมชนเพื่อประสานบาดแผลความแตกแยกที่ กฟผ.มาสร้างเอาไว้ และรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อไล่โรงไฟฟ้าของ กฟผ.ให้ออกไปจากชุมชนของเรา มั่นใจว่าวันนี้จะเป็นความทรงจำที่ดีของชาวทับ สะแกตลอดไป ที่จะร่วมมือกันกับทุกส่วนดูแลแผ่นดินผืนนี้ส่งต่อให้ลูกหลานโดยไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหิน นิวเคลียร์ และก๊าซจากกฟผ.