เทรนด์ ´เม็กซิกันบัน´ ถึงตาย สสส.เตือนภัยขนมฮิตวัยโจ๋

ไทยรัฐ

รายงานจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุว่า เม็กซิกันบัน ขนมปังก้อนกลมๆราดหน้าด้วยกลิ่นหอมหลายรสชาติที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่วัยรุ่นเมืองกรุงในยุคนี้ นอกจากจะไม่ได้ให้ประโยชน์กับร่างกายแล้วยังสามารถก่อให้เกิดโรคต่างๆ อาทิ เบาหวาน ไขมันสูง ความดันสูง เส้นเลือดอุดตัน หัวใจขาดเลือด และโรคอ้วนตามมาได้

รายงานระบุต่อว่า ขนมเม็กซิกันบันมีปริมาณคุณค่าทางโภชนาการโดยเฉพาะไขมันสูงมาก โดยพบว่าปริมาณสารอาหารที่ได้รับต่อขนมปัง 1 ก้อนให้พลังงานสูงถึง 600 กิโลแคลอรี เมื่อเทียบปริมาณที่ควรได้รับอยู่ที่ 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน ปริมาณไขมันอยู่ที่ 32.5 กรัม คิดเป็นร้อยละ 50 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน (RDI) ไขมันอิ่มตัวอยู่ที่ 13.88 กรัม คิดเป็นร้อยละ 69 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน คอเลสเตอรอลอยู่ที่ 117 มิลลิกรัม คิดเป็นร้อยละ 39 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ส่วนน้ำตาลอยู่ที่ 27.7 กรัม เกินกว่าปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ที่น้ำตาลไม่ควรเกินวันละ 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัมต่อวัน ถือว่าอันตรายมาก เนื่องจากมีปริมาณเกินกว่าปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน อาจนำไปสู่โรคหัวใจ หลอดเลือดหัวใจ หรือเบาหวานได้ หากทานเพียง 1 ก้อน ต้องวิ่งเร็วประมาณชั่วโมงครึ่ง หรือว่ายน้ำประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถเผาผลาญได้หมด

รายงานระบุด้วยว่า ปัจจุบันในประเทศแถบยุโรปและประเทศญี่ปุ่นต่างพร้อมใจกันเลิกนิยมบริโภคเม็กซิกันบันเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะสาวๆ เพราะนอกจากค่าของคอเรสเตอรอลและไตรกรีเซอร์ไรด์จะสูงกว่าขนมปังธรรมดาถึง 200 เท่า หากยังไม่หยุดกินเม็กซิกันบันโอกาสที่ปริมาณไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องและใต้แขนก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เสียทั้งเงินทั้งบุคลิกภาพ อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้บริโภคอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ทราบเกี่ยวกับอันตรายของการกินเนยน้ำตาลในปริมาณสูง ที่จะได้รับจากขนมปังชนิดนี้ เนื่องจากเห่อตามแฟชั่นถึงขั้นยอมเข้าคิวรอนานนับชั่วโมงเพียงเพื่อจะได้ชิมรสชาติของขนมที่ไม่มีคุณค่า แต่มีรสชาติถูกปาก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์