เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พล.ท.(หญิง)พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง 'ทิศทางอุตสาหกรรมกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน'
วันที่ 8 กรกฎาคม กระทรวงพลังงานจะเสนอมาตรการส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 85 เป็นวาระแห่งชาติต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในรูปแบบต่างๆ ให้ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม โดยต้องสร้างแรงจูงใจมากขึ้น เช่น ควรที่จะลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์และน้ำมัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำแบบบูรณาการ เพื่อให้เกิดผลโดยเร็ว ส่วนไบโอดีเซล 5 จะลดการส่งเสริม เพราะวัตถุดิบไม่เพียงพอ ขณะที่ปริมาณการใช้เพิ่มจากวันละ 5 ล้านลิตร เป็น 8 ล้านลิตร เพราะราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซล นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานจำเป็นต้องส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมมากขึ้น โดยเฉพาะครัวเรือน โดยปรับขึ้นส่วนเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 8 บาทต่อหน่วย และลดการส่งเสริมพลังงานชีวมวล เช่น แกลบ เพราะวัตถุดิบขาดแคลน
สั่งนำเข้าแอลพีจีเพิ่มเท่าตัวแก้ขาด
สำหรับก๊าซแอลพีจีนั้น พล.ท.(หญิง)พูนภิรมย์ ยืนยันว่า ไม่ได้ขาดแคลนตามที่มีข่าวออกมา แต่ปริมาณความต้องการใช้เพิ่มขึ้น 19.6% ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะภาคขนส่งและอุตสาหกรรม ส่วนภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้ก๊าซแอลพีจีถึง 1.7 แสนตัน ขณะที่ปริมาณแอลพีจีใหม่ ยังคงเข้ามาเรื่อย ๆ
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 กรกฎาคม คณะทำงานแก้ไขปัญหาก๊าซแอลพีจีขาดแคลน ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมการค้าภายใน กรมการขนส่งทางบก และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พบว่าปัญหาได้คลี่คลาย และเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เพื่อป้องกันปัญหาเกิดขึ้นอีก และคลายความกังวลของผู้ใช้ภาคครัวเรือน คณะทำงานจึงสั่งการให้ ปตท.นำเข้าแอลพีจีเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณก๊าซสำรองประมาณ 44,000 ตัน ซึ่งเรือจะเข้ามาถึงในวันที่ 9 กรกฎาคม จากแผนเดิมที่จะนำเข้า 44,000 ตัน ในวันที่ 15 และ 27 กรกฎาคมนี้ รวมเป็นนำเข้าเพิ่ม 88,000 ตัน
ปตท.พลิกหนุนตรึงแก๊สหุงต้ม
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.กล่าวว่า นอกจากนำเข้าแอลพีจีเพิ่มแล้ว ปตท.ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขจนสามารถส่งก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคและจะไม่มีปัญหาอีกต่อไป
'ปตท.เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลชุดนี้ที่จะพิจารณาปรับราคาแอลพีจีเฉพาะในส่วนภาคขนส่งและอุตสาหกรรม และชะลอแผนการปรับขึ้นราคาแอลพีจีเป็นรายไตรมาส จำนวน 5 ครั้ง ตามแนวทางของรัฐบาลชุดที่แล้ว เพราะการปรับในส่วนภาคครัวเรือนจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ควรปรับเฉพาะส่วนขนส่งและอุตสาหกรรม เพราะถ้าไม่ปรับการใช้ก็เพิ่มขึ้นอีกมาก และการนำเข้าก็ต้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ' นายประเสริฐกล่าว