"แม็กซิม" แถลงขอโทษภาพฉาวนางแบบใช้ธงชาติไทยคลุมตัว
ทีมงานยันปัญหาเกิดจากการเปลี่ยนแปลงบริษัท อดีตบ.ก. แจงว่าภาพเก่าถ่ายเมื่อ 2 ปีก่อนถ่ายที่ต่างประเทศ เมื่อทราบจากนางแบบจึงขอร้องทางบริษัทประกวดแล้ว ว่าห้ามมีการเผยแพร่ แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนมือบริษัท ภาพนั้นจึงหลุดออกมา ด้านนางแบบยืนยันไม่ได้ตั้งใจถ่าย เข้าใจทุกอย่างว่าคนไทยเขาถือแต่ทางทีมงานกดดัน
จากกรณีภาพไม่เหมาะสมของนางแบบนุ่งน้อยห่มน้อย
ที่นำธงชาติไทยมาคลุมร่างประกอบ การถ่ายภาพลงนิตยสารผู้ชายฉบับหนึ่ง และมีการนำไปโพสต์ลงอินเตอร์เน็ต กระทั่งกลายเป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม กระทั่งกระทรวงวัฒนธรรม ออกมาตำหนิโดยระบุว่าธงชาติเป็นสัญลักษณ์ของคนไทยทั้งชาติ เป็นแหล่งรวมและที่ยึดถือ เพราะประกอบด้วย ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ การนำธงชาติมาประดับตัวเช่นนี้ถือเป็นการกระทำส่วนตัวไม่เหมาะสม ไม่ใช่เพื่อส่วนรวม ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่ห้องไดนิ่ง รูม ชั้น 21 อาคารจีเอ็มเอ็ม เพลส ย่านอโศก
นางลายคราม เลิศวิทยาประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไทมส์ จำกัด พร้อมด้วยนายดอม โชติวนิช อดีตบรรณาธิการนิตยสารแม็กซิม (ไทยแลนด์) และ "น้องบี" น.ส.สิริพร อัศวยุทธกุล อดีตมิสแม็กซิมปี 2006 ร่วมกันเปิดแถลงข่าวกรณีที่มีภาพหลุดของ "น้องบี" นางแบบสาวชาวไทยถ่ายคู่กับธงชาติไทย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
นางลายครามกล่าวชี้แจงว่า
ตอนที่มีการประกวดมิสแม็กซิมเมื่อปี 2006 แล้วน้องบีได้รับตำแหน่งมิสแม็กซิม ประจำประเทศไทย จากนั้นบริษัท เดนนิส พับลิชชิ่ง บริษัทแม่ของนิตยสารแม็กซิม และเป็นผู้ดำเนินการประกวดมิสแม็กซิมในระดับโลก โดยนำมิสแม็กซิมจาก 24 ประเทศทั่วโลกไปร่วมประกวด การประกวดดังกล่าวจะใช้ภาพถ่ายของนางแบบทั้ง 24 คน จาก 24 ประเทศ เป็นเครื่องตัดสิน ในครั้งนั้นเลือกประเทศโดมินิกัน ซึ่งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้เป็นสถานที่ถ่ายแบบ ภาพจากการถ่ายก็จะนำไปเผยแพร่ในนิตย สารแม็กซิมต่างๆ ทั่วโลกต่อไป ในตอนนั้นมีคุณดอมเป็นบรรณาธิการแม็กซิม (ไทยแลนด์) และจะให้คุณดอมเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดต่อไป
นางแบบคลุมธงชาติ-แถลงขอโทษรูปฉาว
ด้านนายดอมกล่าวว่า
หลังจากที่ประเทศประกวดมิสแม็กซิม และได้เป็นน้องบีแล้ว ทางบริษัทเดนนิสฯ ติดต่อมาว่าให้ส่งนางแบบเข้าร่วมการถ่ายภาพเพื่อประ กวด โดยที่ทางเราไม่รู้ว่าจะมีการใช้อุปกรณ์ประกอบฉากเป็นอะไร ครั้งนั้นน้องบีเดินทางไปคนเดียว หลังจากที่น้องบีเดินทางไปแล้วเกิดกระเป๋าหายที่ฝรั่งเศส ทำให้มีกระเป๋าติดตัวแค่ที่ถือขึ้นเครื่อง เมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง คือ ประเทศโดมินิกัน ทางนั้นก็จัดเสื้อผ้าให้ใหม่ จากนั้นน้องบีก็เดินทางไปถ่ายรูปกับนางแบบคนอื่นจากชาติต่างๆ โดยของประกอบฉากจะเป็นสิ่งที่ทางเมืองนอกคิดขึ้น ปรากฏว่ากลายเป็นธงชาติของประเทศต่างๆ โดยนางแบบจะต้องถ่ายคู่กับธงชาติประเทศของตัวเอง
นายดอมกล่าวต่อว่า
หลังจากนั้นในตอนเย็นของวันถ่ายก็ได้รับการติดต่อจากน้องบีมาที่เมืองไทยว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น น้องบีเองพยายามจะบอกกับทีมงานที่ถ่ายแบบว่า ประเทศไทยถ้าเอาธงชาติมาทำในลักษณะแบบนี้ ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและไม่เหมาะสม แต่ทางทีมงานที่ถ่ายทำบอกว่าเป็นกฎที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม แต่สามารถที่จะระงับได้ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการตรวจปรู๊ฟ ตอนนั้นน้องบีเขากำลังซีเรียสเรื่องกระเป๋าเดินทางหายจึงยอมทำตามกฎ เมื่อถ่ายทำเสร็จและกลับที่พัก น้องบีจึงรีบโทร.มาปรึกษาตนที่ประเทศไทย ตนตกใจมากและรีบติดต่อกลับไปทางเจ้าของโปรเจ็กต์ตอนนั้นว่าทำไม่ได้เด็ดขาด ไม่เหมาะสมอย่างรุนแรง พร้อมกับชี้แจงเหตุผลว่าทำไมประเทศไทยถึงซีเรียสที่จะนำธงชาติไปใช้ในลักษณะแบบนั้น และมีการติดต่อทางอีเมล์หลายครั้ง โดยทางนั้นก็รับทราบ เรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วสั่งระงับการเผยแพร่
อดีตบรรณาธิการนิตยสารแม็กซิม กล่าวด้วยว่า
ในตอนนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่ต่อมาปรากฏว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีคนมาบอกว่ารูปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ ตนก็ตกใจมากว่ารูปนี้เผยแพร่ออกมาได้อย่างไร เพราะทางนั้นรับปากไว้แล้วว่าจะไม่นำเผยแพร่ แต่เมื่อวันศุกร์ (4 ก.ค.) เป็นวันชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา จึงไม่สามารถที่จะติดต่อใครทางโทร ศัพท์ได้ จึงต้องใช้อีเมล์ในการติดต่อ โดยแจ้งไปว่าให้นำรูปดังกล่าวถอดออกจากอีเมล์เร่งด่วนที่สุด จากนั้นตนก็ทราบอีกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะบริษัทเดนนิสฯ เป็นผู้เผยแพร่ แต่เกิดจากบริษัทอัลฟ่า มีเดีย เป็นผู้นำออกมาเผยแพร่ โดยบริษัทอัลฟ่าฯ เข้าไปซื้อกิจการของบริษัทเดนนิสฯ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ปีที่ผ่านมา จากนั้นมีการถ่ายโอนข้อมูลทั้งหมดมาที่บริษัทอัลฟ่าฯ และมีการเปลี่ยนทีมงานใหม่ทั้งหมด ทำให้รูปนั้นถูกนำมาใช้
"วันที่ผมทราบข่าวคือวันศุกร์ เห็นรูปก็ตกใจมากรีบโทร.หาพี่ป้อม (ลายคราม เลิศวิทยาประสิทธิ์) ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากนั้นรีบประสานไปทางเว็บไซต์ดังกล่าวว่าให้ยกรูปนั้นออกด่วนที่สุด โดยแจ้งว่าทางเราไม่พอใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการตกลงกันแล้วว่าจะไม่นำรูปดังกล่าวออกมาเผยแพร่ ผมเองสงสัยเหมือนกันว่าในตอนแรกที่บริษัทเดนนิสฯ แจ้งผมมาว่า ลบรูปนี้ออกไปหมดแล้ว แต่ทำไมยังมีรูปปรากฏอยู่ พวกเราทุกคนขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับเรื่องที่เกิดขึ้น เราไม่รู้ว่ารูปหลุดออกมาได้อย่างไร เราเป็นคนไทย เราซีเรียสกับเรื่องแบบนี้ ถ้าเรารู้ตั้งแต่แรกคงมีการท้วงติงไปแล้วก่อนที่จะเกิดการถ่ายภาพนี้" นายดอมกล่าว
ด้าน "น้องบี" น.ส.สิริพร อัศวยุทธกุล นางแบบในภาพดังกล่าว เปิดเผยว่า
ตนเดินทางไปประเทศโดมินิกัน เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2549 พร้อมกับนางแบบจาก 24 ประเทศ ตอนไปถึงไม่ทราบมาก่อนเลยว่าจะมีการนำธงชาติมาให้ถ่ายแบบ ไปทราบตอนที่มีคนเอาธงชาติมาให้หน้าฉากขณะกำกลังจะถ่าย ตอนนั้นในความเป็นคนไทยเรารู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่เหมาะสมแน่นอน จึงพยายามที่จะปฏิเสธทุกวิถีทาง แต่ทางทีมงานบอกว่าเป็นกฎ ถ้าไม่ทำจะมีปัญหาต่างๆ กับทางบริษัทมากมาย และทางทีมงานบอกว่าถ้าหากรูปไม่เหมาะสมก็จะมีการตรวจปรู๊ฟก่อนนำไปเผยแพร่ หลังจากถ่ายแบบเสร็จ ตนจึงติดต่อมาหาพี่ดอม (โชติวนิช) ที่ประเทศไทย และพี่ดอมก็สั่งระงับรูปดังกล่าว ตนรู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะคนจะมองไปในทางที่ไม่ดี
นางลายคราม กล่าวเสริมว่า
ในฐานะคนทำหนังสือและเราเป็นคนไทย เราเองก็เชิดชูและเทิดทูนในความเป็นไทยของเราเองเช่นเดียวกัน เรารับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้ มันเป็นการกระทำที่ละเมิด เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดเฉพาะประเทศไทย แต่เกิดเหตุการณ์นี้กับทั้งสิงคโปร์และอินเดียด้วย ในตอนนี้เราขอแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนด้วยการส่งอีเมล์ไปหาบริษัทอัลฟ่าฯ ให้ถอดรูปดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ให้เร็วที่สุด คิดว่าน่าจะเป็นในคืนนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นวันหยุดวันชาติอเมริกันจึงไม่สามารถหาคนมาลบรูปดังกล่าวออกได้ ทางเราต้องขอโทษคนไทยทุกคน เราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำลายชื่อเสียประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า
นอกจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ในเรื่องอื่นๆ จะดำเนินการต่อไปอย่างไรบ้าง นางลายครามกล่าวตอบว่า จะมีการดำเนินการแน่นอน อาจจะถึงขนาดไม่ทำธุรกิจร่วมกันก็ได้ ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ชี้แจงหรือให้คำตอบในสิ่งที่เราและคนไทยพอใจ แต่ตอนนี้ก็คงต้องปรึกษากันก่อนว่าจะทำขนาดไหน ซึ่งเราจะแจ้งให้ทราบต่อไป