แม่เฒ่า5แผ่นดินวัย 109 ปี อยู่อย่างแร้นแค้นในบ้านเก่าทรุดโทรม/ตักน้ำในหนองเลี้ยงวัวกินประทังชีวิต
สุดรันทดแม่เฒ่า 5 แผ่นดินวัย 109 ปี ตามองไม่ค่อยเห็น หูตึง อาศัยบ้านซึ่งมีสภาพเก่าทรุดโทรม ชีวิตความเป็นอยู่สุดแร้นแค้น โดยมีลูกสาววัย 56 ปี ทำงานหาเลี้ยง เผยก่อนออกทำงานต้องใช้เชือกผูกหลานวัยกำลังซนอีก 2 คนไว้ติดกับแม่ วอนผู้ใจบุญปลูกบ้านใหม่ให้อยู่
เมื่อเวลา 12.3.0 น. วันที่ 6 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในอ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ว่า ที่บ้านเลขที่ 84 บ้านน้ำลาด หมู่ 6 ต.หนองโสน อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี
มีแม่เฒ่าอายุร้อยกว่าปีได้รับความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยและน้ำดื่มน้ำบริโภคที่ใช้ในแต่ละวัน รวมไปถึงห้องน้ำเมื่อจะใช้แต่ละครั้งต้องไปขับถ่ายกลางแจ้ง สภาพความเป็นอยู่น่าสงสารมาก หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร มีบันไดขึ้นบ้าน 3 ขั้น หลังคามุงด้วยสังกะสีเก่าสภาพผุกร่อนเป็นรูโหว่จำนวนมาก ส่วนฝาบ้านขัดแตะทำจากไม้รวกที่อยู่ในสภาพทรุดโทรมและผุพัง ส่วนภายในบ้านพบแม่เฒ่านั่งอยู่ ข้างกายของแม่เฒ่ายังพบเด็กชายคนหนึ่งอายุประมาณ 2 ขวบเศษ อยู่ในสภาพถูกผูกติดกับแม่เฒ่า
นางน้ำหวาน วงษ์คำมี อายุ 56 ปี กล่าวว่า แม่เฒ่าคนดังกล่าวเป็นแม่ของตนชื่อ นางสุข วงษ์คำมี ปัจจุบันอายุ 109 ปี เป็นเจ้าของบ้าน พักอาศัยอยู่ด้วยกัน
นอกจากนี้ยังมีเหลนพักอยู่ด้วยอีก 3 คน แม่มีลูกทั้งหมด 10 คน เสียชีวิตไปแล้ว 6 คน หายสาบสูญ 2 คน นางน้ำหวานเป็นลูกสาวคนเล็ก นางน้ำหวานกล่าวต่อว่า พี่ชายของตนที่เหลือ 1 คน ครอบครัวก็จน แถมมีลูกมาก ไม่สามารถมาช่วยเหลือตน เลี้ยงดูแม่ หลาน และเหลนได้ ตนจึงต้องทำงานหาเงินเลี้ยงแม่และหลานๆ เพียงคนเดียวมาโดยตลอด ได้ค่าจ้างวันละ 140 บาท แต่ไม่พอกิน กระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อนหน้านี้ ลูกสาวของตนซึ่งมีครอบครัวแล้ว นำลูกชายหญิง 2 คน มาทิ้งไว้ให้เลี้ยง หลังจากนำลูกมาทิ้งไว้กับตนแล้วไม่เคยได้ส่งเงินให้เลยแม้แต่บาทเดียว และไม่เคยกลับมาดูลูกอีกด้วย ตนจึงต้องให้ลูกสาวคนเล็กคือ น.ส.ไพลิน สระเสียงดี อายุ 18 ปี ออกจากโรงเรียนตั้งแต่ชั้น ป.5 เพื่อมาช่วยเลี้ยงหลานและยายที่ตาเริ่มมองไม่เห็น หูตึง ต้องมีคนคอยดูแลตลอดเวลา
"ด้วยฐานะครอบครัวที่ยากจนต้องหาเลี้ยง 5 ชีวิต เพียงลำพังคนเดียว ทำให้ความเป็นอยู่ยากลำบากหนักยิ่งขึ้นไปอีก ทำเท่าไรก็ไม่พอ จึงต้องให้ลูกสาวออกจากโรงเรียนมาทำงานหาเงินช่วยทางบ้าน โดยปล่อยให้แม่เฒ่าอยู่กับหลานและเหลน ก่อนที่จะออกไปทำงานกัน ก็นำหลานชายคนเล็กที่มีอายุ 2 ขวบ 5 เดือน ผูกติดไว้กับแม่เฒ่า เพราะถ้าปล่อยให้เด็ก 2 ขวบ อยู่ตามลำพังเด็กอาจจะเกิดอันตรายได้ หลานไปไหนแม่ก็จะไปด้วย ในช่วงพักฉันก็จะเดินทางมาดูแลแม่และหลานเป็นอย่างนี้ทุกวัน ส่วนเรื่องอาหารการกินบางวันเพื่อนบ้านก็เอามาให้บ้าง บ้างก็ซื้อ มีก็กิน ไม่มีก็อด ชีวิตเป็นอย่างนี้ทุกวัน”นางน้ำหวานกล่าว
นางน้ำหวานกล่าวอีกว่า ชีวิตครอบครัวของตนลำบากมาก บ้านที่อยู่อาศัยทุกวันนี้ก็พังแหล่ไม่พังแหล่แล้วช่วงหน้าฝนหลังคาบ้านก็รั่วที่หลับที่นอนแทบไม่ที่จะนอน
พวกตนต้องนั่งตากฝนอยู่ในบ้าน เวลาจะเข้าห้องน้ำห้องส้วมก็ไม่มีจะขับถ่าย แต่ละครั้งก็ต้องไปถ่ายอุจจาระกลางไร่กลางป่า น้ำดื่มก็ต้องใช้น้ำในสระที่ใช้เลี้ยงวัว จึงอยากวอนสื่อมวลชนไปถึงผู้ใจบุญช่วยซ่อมแซมบ้านให้ด้วย