นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. กรณีประชาชนจำนวนมากที่นำรถยนต์ไปติดตั้งก๊าซแอลพีจี ซึ่งเป็นก๊าซหุงต้ม แทนการใช้น้ำมันในขณะนี้ ว่า อยากให้ประชาชนใช้ข้อมูลเปรียบเทียบความคุ้มค่าในอนาคตระหว่างก๊าซแอลพีจี ที่ต้นทุนได้ผันแปรตามราคาน้ำมัน และก๊าซเอ็นจีวี (NGV) ซึ่งเป็นก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยผลิตได้เอง และรัฐบาลสนับสนุนให้ใช้งานในรถยนต์ เนื่องจากในเดือนก.ค.นี้ รัฐบาลจะเริ่มปรับราคาก๊าซแอลพีจีในส่วนที่ใช้ในรถยนต์และอุตสาหกรรมขึ้น แต่จะยังอุดหนุนในส่วนที่ใช้ในครัวเรือนกิโลกรัมละ 18 บาท ต่อไป ส่งผลให้รถที่ใช้ก๊าซแอลพีจีมีต้นทุนสูงขึ้นตามทิศทางของราคาก๊าซแอลพีจีในตลาดโลก ทำให้อนาคตก๊าซเอ็นจีวีได้เปรียบ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวต่อกรณีประชาชนให้เหตุผลว่า จุดเติมก๊าซแอลพีจีมีมากกว่า ว่า เนื่องจากเป็นก๊าซที่ใช้มานานถึง 25 ปี จึงมีจุดเติมมากกว่า ขณะที่ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่งจะเริ่มต้นใช้ในรถยนต์เพียง 1-2 ปีเท่านั้น มั่นใจว่า ในครึ่งหลังของปีนี้ จุดเติมก๊าซเอ็นจีวีจะมีมากขึ้น ส่วนราคาถังก๊าซเอ็นจีวีที่ยังแพงอยู่ ก็จะมีราคาลดลงไปในเร็วๆ นี้ หลังจากรัฐบาลให้การสนับสนุนชัดเจน ขณะนี้ได้เจรจากับผู้ผลิตถังก๊าซเอ็นจีวีทั่วโลก เพื่อนำเข้ามาใช้งานในไทยให้เพียงพอ และราคาถูกลง ส่วนราคาก๊าซเอ็นจีวีนั้น ในช่วงนี้รัฐบาลยังสนับสนุนที่ 8.50 ต่อกิโลกรัม และแม้ว่าอนาคตจะหมดช่วงเวลาสนับสนุน ก็มั่นใจว่า จะไม่สูงเท่ากับก๊าซแอลพีจี ที่ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มนำเข้าจากต่างประเทศเพราะผลิตได้ไม่เพียงพอ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
