เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา
ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คนหนึ่ง ของโรงเรียนบ้านคลองอุดม ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเรียนเก่งมาก เมื่อเรียนจบแล้วไปสมัครสอบเข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทราได้ แต่ไม่มีเงินไปลงทะเบียน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่า ชื่อน.ส.พุทรา ฉุดหลักทอง อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ที่ 4 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนบ้านคลองอุดม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 เป็นบ้านชั้นเดียว ยกพื้นสูง สภาพเก่า
น.ส.พุทรานำใบระเบียนผลการเรียนมาแสดงตัวผู้สื่อข่าว เป็นการสอบได้ที่ 1 ด้วยเกรด 3.79
นอกจากนี้ยังมีบัตรประจำตัวเข้าสอบวิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงทรา สาขาการบัญชี คอมพิวเตอร์ธุรกิจและการเลขานุการ ตามลำดับ น.ส.พุทรา เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจและน้อยใจในวาสนาที่เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ไม่มีเงินไปลงทะเบียนเรียนต่อที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา แม้จะสอบผ่านติดสาขาบัญชี ซึ่งตอนนี้เปิดเรียนไปเกือบ 1 เดือนแล้ว ยังหวังว่าอาจโชคดีหากมีคนใจบุญอุปการะส่งเสียให้ได้เรียน หรือรับจ้างทำงานไปเรียนไป เพื่อให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายสุดท้ายคือ เป็นครูสอนหนังสือเด็กตามชนบทห่างไกล
โดยตนต้องจ่ายค่าลงทะเบียน รวมทั้งค่าเสื้อผ้า ค่าหนังสือ อุปกรณ์การเรียนต่างๆ รวมประมาณ 7,000 บาท
อยากจะเรียน แต่ไม่มีเงิน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงอยู่กับบ้านไปเรื่อยๆ เคยคิดสั้นอยากฆ่าตัวตาย แต่เมื่อเห็นยายกับน้องๆ อีก 3 คน ก็อดสงสารไม่ได้ เพราะหากขาดตนเองไปอีกคน ทุกคนจะลำบากมาก ทำให้ความรู้สึกเช่นนั้นหายไป แล้วหันกลับมาตั้งใจทำงานหาเงินช่วยเหลือยาย อีกทั้งยังคิดว่า ชีวิตเราลำบากไม่สมหวัง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่แย่ยิ่งกว่า เรายังมีคนที่รักเรา เช่น ยาย พ่อกับแม่แม้จะแยกทางกันไปก็คิดว่ายังรักเรา ยังรักและคิดถึงพ่อกับแม่เสมอแม้จะไปมีครอบครัวใหม่กันหมด ที่เป็นห่วงมากที่สุดคือ น้องชาย 2 คน น้องสาว 1 คน ที่ยังเล็กอยู่ แม้เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่ก็มีทางเดินหรือหาทางออกได้ ตอนนี้เราอาจจะไม่ได้เรียนต่อสูงๆ แต่ก็ทำงานไปก่อนค่อยๆ เก็บเงินแล้วไปเรียนในภายหลังก็ยังมีโอกาส
น.ส.พุทรากล่าวว่า ทุกวันจะต้องรับผิดชอบทำงานบ้าน หุงข้าวหาข้าวให้น้องและยายกิน ล้างถ้วยชาม ซักผ้า เลี้ยงน้องสาววัย 5 เดือน ซึ่งเกิดจากแม่กับสามีใหม่
ทำงานสารพัด แม้จะลำบาก แต่มีกำลังใจจากยาย เพื่อนบ้าน โดยเฉพาะคุณครูโรงเรียนบ้านคลองอุดมทุกคน ที่คอยปลอบโยน แนะนำ เสร็จก็ไปช่วยยายเผาถ่าน เพื่อเอาไปขายนำเงินมาจุนเจือครอบครัว มีเวลาว่างก็จะหยิบหนังสือเมื่อเรียนชั้นม. 3 มาอ่าน เอาคณิตศาสตร์ชั้นม.3 มาทบทวน หรือไม่ก็เดินไปที่โรงเรียนบ้านคลองอุดม ซึ่งอยู่ติดกับบ้าน เข้าห้องสมุดค้นคว้าหาหนังสือนอกเวลามาอ่าน หรือหนังสือเรียนหรือไม่ก็เข้าไปหาคุณครู ที่เคยสอนตั้งแต่ระดับประถม จนถึงมัธยมศึกษา
ทางด้านนางทองย้อย ดีจอง อายุ 60 ปี ยายของนักเรียนเก่งกตัญญู กล่าวว่า
สงสารหลาน อยากให้เขาเรียน แต่ไม่มีเงินส่ง ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะรับจ้างได้เงินเพียง 150 บาทต่อวัน แต่ก็ไม่ได้ทำทุกวัน อายุก็มากแล้ว ถ่านก็เผาไปขายได้เงินไม่มาก ก็ปลอบใจหลานไปว่าไม่มีเงิน ก็ไม่ต้องไปเรียน ใจอยากให้ไปเรียน หากมีคนใจบุญ เห็นใจหลาน สงสารตอนนั่งร้องไห้ ก็ปลอบใจว่า หากไม่เรียนก็ไม่เป็นไร ทำงานหาเงินไป ตนเสียใจไม่รู้จะทำอย่างไร