บุกยื่นถามจุดยืน กลต.

แผนดาวกระจายพันธมิตรฯ วันที่สอง "นพ.ตุลย์" นำม็อบบุก กลต.ยื่นทวงถามจุดยืนสอบคดี "แม้ว" ปกปิดโครงสร้างหุ้น "เอสซี แอสเสทฯ" ซ้ำประเด็น "วินมาร์ค" เป็นหุ่นเชิดถ่ายหุ้นถึง "ชินคอร์ป" เผยม็อบหวิดเดือดรับหนังสือช้า

วันนี้ (6 มิ.ย.) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ใช้ยุทธวิธีดาวกระจายเป็นวันที่สอง โดยได้จัดขบวนประชาชนอาสากว่า 150 คน นำโดย นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์  เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. เพื่อยื่นหนังสือเรื่อง สอบถามความคืบหน้า ยืนยันข้อเท็จจริง และดำเนินการลงโทษต่อกรณีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี-แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
      
โดยหนังสือมีเนื้อหาระบุถามใน 3 ประเด็น คือ
 
1.กลต.ยังคงทำงานเป็นอิสระเช่นเดิมต่อไปได้ หรือถูกอิทธิพลของรัฐบาลทำให้ กลต.ใช้อำนาจอันมิชอบปกปิดหรือบิดเบือนเพื่อช่วยกันปกป้องความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งต้องการให้ กลต.ยืนยันผลพิสูจน์ที่เคยสรุปไว้ว่า วินมาร์คและกองทุนมาเลเซีย มีพฤติกรรมเป็นตัวแทนหุ่นเชิดในการถือหุ้น บริษัท เอสซี-แอสเสท และมีความเกี่ยวโยงถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมิได้เปิดเผยข้อมูลแก่ประชาชนทั่วไปตามความจริง และการปกปิดดังกล่าว เป็นการผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ อีกทั้งทำให้การรายงานการซื้อขายหุ้นไม่เป็นไปตามกฎหมาย

2. หากสำนักงาน กลต. ยืนยันข้อเท็จจริงตามข้อ 1. ว่ายังมิได้ถูกบิดเบือนไป สำนักงาน กลต. มีแผนในการปรับโทษต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรผู้ถูกกล่าวหา เป็นขั้นตอนอย่างใด และเมื่อใด ทั้งนี้ พันธมิตรฯ มีข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้จัดทำและแก้ไขข้อมูลย้อนหลังไป 6 ปีเพื่อให้เห็นว่าตนเป็นเจ้าของแอมเพิลริชที่แท้จริงนั้น สำนักงาน กลต.ได้พิจารณาโทษและปรับด้วยตนเองในเวลาไม่ช้า เพียง 2-3 เดือนเท่านั้น ในกรณีนี้ก็มีหลักฐานความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่คล้ายคลึงกัน เหตุใด กลต.จึงไม่รีบดำเนินการตัดสินโทษไปเหมือนกับกรณีของนายพานทองแท้ แต่กลับต้องรอมาจนเป็นเวลากว่า 2-3 ปี  กลต. มีมาตรฐานอย่างไร และมีการคุกคามจากผู้มีอำนาจหรือไม่ และเพื่อป้องกันมิให้เกิดข้อสงสัยว่า สำนักงาน กลต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้โปรดแจ้งแผนปฏิบัติการในเรื่องนี้ ภายใน 7 วัน

3. การที่วินมาร์ค ถือหุ้นชินคอร์ปฯ ในบัญชีซึ่งดูแลโดย ธนาคาร ยูบีเอส เลขที่บัญชี 121751 นั้น ยังพบอีกว่า ในการโอนหุ้นชินคอร์ปให้นายพานทองแท้ ในวันที่ 1 กันยายน 2543 มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท นั้น นายพานทองแท้ กลับต้องทำตั๋วสัญญาใช้เงินสั่งจ่าย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เพิ่มอีกประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งได้นำไปสู่การเป็นช่องทางการถ่ายเทผลประโยชน์จากหุ้นชินคอร์ปที่ถือโดยบุคคลใกล้ชิดกลับมาสู่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและคู่สมรสอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวได้แสดงถึงพฤติกรรมของบุคคลใกล้ชิดกัน

ทั้ง นายพานทองแท้ ชินวัตร, น.ส.พิณทองทา ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตลอดจน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ต่างก็มีพฤติกรรมที่ส่อไปเป็นหุ่นเชิด สำนักงาน กลต.จะได้มีโอกาสที่จะดำเนินการตรวจสอบในกรณีดังกล่าวได้อย่างไร มีความเป็นกลางเช่นเดิมหรือไม่ หรือมีการคุกคามกดขี่ โดยผู้มีอำนาจรัฐหรือไม่.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ก่อนเข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการ กลต.กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ แสดงความไม่พอใจที่ กลต.ส่งตัวแทนมารับหนังสือช้า จนเกือบจะเกิดความวุ่นวาย ทามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี แต่ก็คลี่คลายลงด้วยดี เมื่อนายประเวศ องอาจสิทธิกุล ผช.เลขาธิการ กลต. อาวุโส เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุม.