นักวิชาการเสนอรัฐบาล แก้-รับมือปัญหาภัยพิบัติธรรมชาติควรทำเป็นวาระแห่งชาติ
ระดมมันสมองหาแนวทางรักษาเมืองรักษาคน เผย กรุงเทพฯ ตั้งใกล้รอยเลื่อน เสี่ยงโดนภัยพิบัติเล่นงานได้ง่าย หวั่นพื้นที่พระบรมหาราชวัง-วัดพระแก้ว ทรุดหากเกิดเหตุเพราะสร้างมานานไม่ได้ตอกเสาเข็ม สมิทธ ชี้ กทม.ไม่มีความพร้อมรับมือภัยพิบัติ-ช่วยเหลือประชาชน คาดเดือนส.ค.-ต.ค.นี้ เกิดมรสุมใหญ่ฝั่งอ่าวไทย พัดถล่มหลายพื้นที่ น้ำทะเลหนุนท่วมกรุงเทพฯแน่
ที่สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธาน เปิดสถาบันพัฒนาเมือง กทม. ซึ่งเป็นสถาบันที่มีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน ประสานงาน ดำเนินการศึกษาค้นคว้า พัฒนาวิจัย เผยแพร่ข้อมูล รวมทั้งการให้บริการความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเมืองอย่างครบวงจรแก่หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจและเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ โดยมี รศ.ดร. วรากรณ์ สามโกเศศ เป็นประธานกรรมการสถาบันพัฒนาเมือง และ ผศ.ดร.ภูเบศร์ สมุทรจักร เป็น ผอ.สถาบันพัฒนาเมือง โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่สำนักผังเมือง เลขที่ 44 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงและเขตดินแดง
หลังจากการเปิดสถาบันฯ มีการเสวนาเรื่อง “แผนรับมือวิบัติภัยในมหานครกรุงเทพฯ”
โดย นายสมิทธ ธรรมสโรธ ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ศ.ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.ต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และนางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯ กทม. โดยมี รศ.ดร.วรากรณ์ ดำเนินการรายการ
นายสมิทธ กล่าวว่า ปัจจุบันคนเข้า มาอาศัยอยู่ในเมืองมากขึ้นและภัยที่เกิดจาก ธรรมชาติก็มีแนวโน้มเกิดขึ้นในเมืองสูงขึ้นเช่นกัน
ซึ่งเมื่อเกิดแล้วก็จะทำให้คนเสียชีวิตจำนวนเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของตนนั้นมีความเป็นห่วงอยู่ 2 เรื่องคือ เรื่องแผ่นดินไหว เนื่องจากมีรอยเลื่อนที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ 2 แห่ง คือรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ รวมถึงรอยเลื่อนใต้พื้นที่กรุงเทพฯ เองก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกแม้จะเป็นรอยเลื่อนที่ไม่มีพลังแล้วก็ตาม แต่หากเกิดขึ้นมาจริง ๆ ตนแน่ใจว่าประเทศไทยยังไม่มีความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรุงเทพฯ เครื่องมือในการช่วยเหลือต่าง ๆ น้อยมาก